ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เทคนิควัดค่าสายตาด้วยตัวเอง เบื้องต้นก่อนเข้าร้านแว่น

เขียนโดย นักทัศนมาตร

Image
วัดค่าสายตาด้วยตัวเอง ก่อนเข้าร้านแว่น

ใครรู้สึกว่า ช่วงหลัง ๆ มานี้ต้องหรี่ตาตอนมองป้ายบอกทาง หรือต้องยื่นแขนออกไปจนสุดเพื่ออ่านข้อความในมือถือ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณว่าค่าสายตาของเราอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว หลายคนอาจจะอยากลองเช็กดูคร่าว ๆ ก่อนจะไปที่ร้านแว่น การลองวัดค่าสายตาด้วยตัวเองก็เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้เราพอจะรู้แนวโน้มของปัญหาสายตาตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนการตรวจกับผู้เชี่ยวชาญได้ วันนี้เราจะมาดูวิธีง่าย ๆ ในการเช็กสายตาด้วยตัวเองกัน

Table of Content

วิธีสังเกตและวัดค่าสายตาด้วยตัวเองเบื้องต้น

Image
วิธีสังเกตและวัดค่าสายตาด้วยตัวเองเบื้องต้น

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการวัดค่าสายตาด้วยตัวเอง ลองเริ่มจากการสังเกตพฤติกรรมและความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับดวงตาของเราในแต่ละวันก่อน เพราะนี่คือสัญญาณแรกที่ร่างกายพยายามจะบอกเรา

สังเกตอาการผิดปกติในชีวิตประจำวัน

ลองถามตัวเองดูว่ามีอาการเหล่านี้บ้างไหม

  • ต้องหรี่ตา หรือยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เวลาจะมองอะไรให้ชัดขึ้น
  • ปวดหัว ปวดกระบอกตาบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ใช้สายตานาน ๆ เช่น อ่านหนังสือ หรือทำงานหน้าคอมพิวเตอร์
  • มองตัวหนังสือในหนังสือหรือโทรศัพท์ไม่ชัดเท่าเดิม ต้องถือห่างออกไป
  • รู้สึกว่าตาเมื่อยล้าง่ายกว่าปกติ
  • ขับรถตอนกลางคืนแล้วมองไม่ชัด เห็นแสงไฟรถคันอื่นฟุ้งกระจาย

ถ้ามีอาการเหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่ง ก็เป็นไปได้สูงว่าค่าสายตาของคุณกำลังมีปัญหา

ทดสอบความคมชัดของสายตาด้วยแผ่นชาร์ต

Image
ทดสอบสายตาด้วยแผ่นชาร์ต

วิธีนี้เป็นวิธีที่คล้ายกับการวัดสายตาในร้านแว่น เป็นการวัดค่าสายตาด้วยตัวเองที่พอจะบอกความคมชัดได้

  • หาแผ่นป้ายวัดสายตา ( Snellen Chart ) จากอินเทอร์เน็ตแล้วพิมพ์ออกมา หรือจะดูจากหน้าจอก็ได้
  • นำแผ่นป้ายไปติดที่ผนังห้องที่มีแสงสว่างพอดี ๆ ให้แผ่นป้ายอยู่ในระดับสายตาของเรา
  • ยืนห่างจากแผ่นป้ายประมาณ 3 - 6 เมตร
  • ปิดตาทีละข้าง ( อาจจะใช้กระดาษหรือผ้าปิด ไม่ควรใช้มือกดตา ) แล้วลองอ่านตัวอักษรจากแถวบนสุดไล่ลงมา
  • ดูว่าเราสามารถอ่านตัวอักษรแถวเล็กที่สุดได้ถึงแถวไหน แล้วจดไว้ จากนั้นก็สลับไปทำแบบเดียวกันกับตาอีกข้าง

โดยปกติแล้ว ถ้าอ่านได้ถึงแถวที่เขียนว่า 20/20 ก็ถือว่าสายตาปกติ แต่ถ้าอ่านได้แค่แถวบน ๆ ที่ตัวใหญ่กว่านั้น ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะสายตาสั้นได้

สังเกตอาการแสงฟุ้งกระจายในเวลากลางคืน

อีกหนึ่งวิธีเช็กสายตาด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ คือการสังเกตการมองเห็นตอนกลางคืน ลองมองดวงไฟตามถนนหรือไฟหน้ารถ ถ้าคุณเห็นแสงไฟเป็นแฉก ๆ ฟุ้ง ๆ กระจายออกมามากกว่าปกติ ไม่ได้เห็นเป็นดวงกลม ๆ คมชัด นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสายตาบางอย่าง เช่น สายตาเอียง หรืออาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคตาอื่น ๆ ได้

ข้อจำกัดของการวัดค่าสายตาด้วยตัวเอง

แม้ว่าการวัดค่าสายตาด้วยตัวเองจะสะดวกและช่วยให้เราประเมินตัวเองได้เบื้องต้น แต่มันก็มีข้อจำกัด ได้แก่

ค่าสายตาที่คลาดเคลื่อน

การวัดค่าสายตาด้วยตัวเองอาจให้ผลที่ไม่แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ควบคุมได้ยาก เช่น ความสว่างของห้อง ระยะห่างที่แน่นอน หรือคุณภาพของแผ่นป้ายที่ใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อค่าที่วัดได้

ไม่สามารถตรวจโรคตาบางชนิดได้

ปัญหาสายตาไม่ได้มีแค่เรื่องสั้น-ยาว-เอียงเท่านั้น แต่ยังมีโรคตาอื่น ๆ ที่อันตรายและมักไม่แสดงอาการในระยะแรก เช่น ต้อหิน ซึ่งการวัดค่าสายตาด้วยตัวเองไม่สามารถตรวจพบโรคเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

ไม่สามารถวัดค่าสายตาเอียงและสายตายาวตามวัยได้ละเอียดพอ

ค่าสายตาที่ซับซ้อนอย่างสายตาเอียง หรือสายตายาวตามอายุต้องวัดอย่างละเอียดและใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่การวัดค่าสายตาด้วยตัวเองทำไม่ได้ การใช้ค่าสายตาที่ไม่ถูกต้องไปตัดแว่นอาจทำให้ใส่แล้วปวดหัวมากกว่าเดิม

ตรวจวัดสายตาโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อค่าสายตาที่แม่นยำ

Image
ตรวจวัดสายตาโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อค่าสายตาที่แม่นยำ

จะเห็นได้ว่าการวัดค่าสายตาด้วยตัวเองเป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งานจริง ๆ รวมถึงได้ตรวจสุขภาพตาไปในตัว การไปพบผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลไอซอพติก เราให้ความสำคัญกับการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด โดยนักทัศนมาตรจะใช้เวลาตรวจวิเคราะห์ระบบการมองเห็นอย่างเต็มที่ประมาณ 3 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 3 มิติที่ล้ำสมัย เราไม่ได้หาแค่ค่าสายตาสั้น ยาว เอียง แต่เราวิเคราะห์ไปถึงพฤติกรรมการใช้สายตา การทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง และการเคลื่อนไหวของดวงตาในทุกองศา เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาออกแบบ " แว่นตา " โปรเกรสซีฟอัจฉริยะที่สร้างขึ้นเพื่อคุณเพียงคนเดียว ทำให้ได้การมองเห็นที่คมชัดและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย ( FAQ )

ค่าสายตา + 100 คืออะไร

ค่าสายตา +100 หมายถึงค่าสายตายาว 100 หรือ +1.00 ไดออปเตอร์ เครื่องหมายบวก ( + ) หมายถึงสายตายาว ซึ่งมักจะมีปัญหามองใกล้ไม่ชัดเจน

สายตาสั้น 1.25 คือเท่าไร

หมายถึงค่าสายตาสั้น 125 หรือ -1.25 ไดออปเตอร์ เครื่องหมายลบ ( - ) หมายถึงสายตาสั้น ซึ่งจะมีปัญหากับการมองเห็นในระยะไกล

วัดค่าสายตาที่ไหนได้บ้าง

เราสามารถวัดค่าสายตาอย่างละเอียดได้ที่โรงพยาบาลที่มีแผนกจักษุ คลินิกตา หรือร้านแว่นตาที่มีนักทัศนมาตรประจำอยู่ ซึ่งจะสามารถให้คำแนะนำและวัดค่าสายตาได้อย่างแม่นยำ

สรุปบทความ

การวัดค่าสายตาด้วยตัวเองเป็นวิธีที่ดีในการคัดกรองและสังเกตความผิดปกติของสายตาในเบื้องต้น ช่วยให้เรารู้ตัวเร็วขึ้นเมื่อสายตาเริ่มเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีความแม่นยำต่ำและไม่สามารถตรวจหาโรคตาที่ซ่อนอยู่ได้ ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่าสายตามีปัญหา การเดินทางไปพบนักทัศนมาตรเพื่อตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด

ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ( ISOPTIK ) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ที่สุดของเทคโนโลยีแว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ แว่นทุกคู่ได้รับการออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรมาจารย์โบบิ ผู้คิดค้นชุดทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล 3 มิติ คนแรกของโลก ร่วมกับนักทัศนมาตรประสบการณ์สูงและช่างแว่นที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ใส่สบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ต้องฝืนเพ่ง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง และมีชุดทดลองให้ทดลองใช้งานจริงก่อนซื้อ พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน

ปรึกษาฟรี กับปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ระดับโลก โทร : 081-538-4200

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200

LINE ID : @isoptik

เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com

whatsapp : +66 81 538 4200

อีเมล : isoptik@gmail.com