สายตายาวเท่าไหร่ ควรใส่แว่น และต้องสังเกตอาการอะไรบ้าง
เขียนโดย นักทัศนมาตร
หลายคนคงเคยเจอกับสถานการณ์ที่ต้องหยีตา หรือยื่นแขนออกไปจนสุดเพื่ออ่านข้อความบนมือถือ นี่อาจเป็นสัญญาณแรกของภาวะสายตายาวที่มาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว คำถามที่ตามมาคือ สายตายาวเท่าไหร่ ควรใส่แว่น แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ถึงเวลาที่ต้องมีแว่นตาเป็นตัวช่วยคู่ใจสักอัน บทความนี้จะพาไปตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณเข้าใจปัญหาสายตาของตัวเองและตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
สายตายาวมีกี่แบบ ทำความเข้าใจก่อนเลือกแว่น
ก่อนจะตอบคำถามว่า สายตายาวเท่าไหร่ ควรใส่แว่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าสายตายาวไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีสาเหตุและลักษณะที่แตกต่างกัน
สายตายาวโดยกำเนิด ( Hyperopia )
สายตายาวประเภทนี้เกิดจากโครงสร้างของดวงตาที่ผิดปกติมาตั้งแต่เด็ก โดยกระจกตามีความโค้งน้อยจนเกินไป หรือกระบอกตามีขนาดสั้นจนเกินไป ทำให้แสงที่เข้าสู่ดวงตาไปโฟกัสอยู่ด้านหลังจอประสาทตาแทนที่จะตกกระทบพอดี ส่งผลให้มองเห็นวัตถุในระยะไกลได้ชัดเจน แต่มองวัตถุระยะใกล้ไม่ชัด หรือต้องใช้ความพยายามในการเพ่งมากกว่าปกติ สายตายาวโดยกำเนิดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่
สายตายาวตามอายุ ( Presbyopia )
สายตายาวตามอายุ เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกายที่มักจะเริ่มต้นเมื่ออายุเข้าสู่ช่วง 37 ปีขึ้นไป สาเหตุเกิดจากเลนส์แก้วตาที่เคยยืดหยุ่นได้ดีเริ่มแข็งตัวขึ้น และกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการปรับโฟกัสก็เสื่อมสภาพลง ทำให้ความสามารถในการมองเห็นระยะใกล้ลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าในอดีตคุณอาจจะมีสายตาปกติหรือสายตาสั้นมาก่อนก็ตาม
ค่าสายตายาวเท่าไหร่ถึงควรเริ่มใส่แว่น
มาถึงคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้ที่สุด สายตายาวเท่าไหร่ ควรใส่แว่น? จริง ๆ แล้วไม่มีตัวเลขที่ตายตัวเป๊ะ ๆ ว่า ต้องเป็นค่าเท่านั้นเท่านี้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญมักจะแนะนำให้เริ่มพิจารณาใส่แว่นเมื่อมีค่าสายตายาวตั้งแต่ +1.00 ไดออปเตอร์ ( D ) ขึ้นไป
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะที่ค่า +1.00 D คือจุดที่คนส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นในระยะใกล้ไม่คมชัดเหมือนเดิม ต้องใช้ความพยายามในการเพ่งมากขึ้นจนรู้สึกไม่สบายตา หรือเกิดอาการตาล้า ปวดกระบอกตาหลังจากทำงานเอกสาร หรืออ่านหนังสือไปได้ไม่นาน ดังนั้น การตัดสินใจว่า สายตายาวเท่าไหร่ ควรใส่แว่น จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการใช้ชีวิตประจำวันเป็นสำคัญ หากปัญหานี้เริ่มรบกวนการทำงานหรือการใช้ชีวิตของคุณ ก็ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว
อาการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องใส่แว่นสายตายาว
นอกจากการวัดค่าสายตาแล้ว ร่างกายของเรายังส่งสัญญาณเตือนหลายอย่างที่บอกว่าถึงเวลาต้องใส่แว่นแล้ว ลองสำรวจตัวเองดูว่ามีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่
- ต้องยืดแขนออกไปให้ไกลขึ้น พฤติกรรมที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการต้องถือหนังสือพิมพ์ เมนูอาหาร หรือโทรศัพท์มือถือห่างจากตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้มองเห็นตัวอักษรได้ชัดเจน
- มองภาพระยะใกล้ไม่ชัด ตัวหนังสือเริ่มเบลอ พร่ามัว หรือเห็นเป็นภาพซ้อน โดยเฉพาะในที่ที่มีแสงสว่างน้อย
- ปวดตา ปวดศีรษะบ่อย ๆ หลังจากทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาระยะใกล้เป็นเวลานาน เช่น อ่านหนังสือ หรือทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ อาจมีอาการปวดบริเวณรอบดวงตา ขมับ หรือปวดศีรษะแบบหาสาเหตุไม่เจอ บางรายอาจรู้สึกคลื่นไส้ร่วมด้วย
- ตาล้าเร็วกว่าปกติ รู้สึกว่าดวงตาเหนื่อยง่าย ทำงานที่ต้องเพ่งมองได้ไม่นานเท่าเดิม และต้องพักสายตาบ่อยขึ้น
- ต้องหรี่ตา หรือขมวดคิ้ว เพื่อพยายามปรับโฟกัสให้มองเห็นชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาตามมาได้
สายตายาว เหมาะกับแว่นตาประเภทไหน
เมื่อตัดสินใจจะใส่แว่นแล้ว ก็มีเลนส์หลายประเภทให้เลือกใช้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป
- แว่นสายตายาวชั้นเดียว ( Single Lens ) เป็นแว่นพื้นฐานที่สุด มีค่าสายตาเดียวสำหรับมองระยะใกล้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้แว่นเพื่ออ่านหนังสือ หรือทำงานระยะใกล้เป็นครั้งคราว
- แว่นสองชั้น ( Bifocal Lens ) เป็นเลนส์ที่มีรอยต่อแบ่งโซนการมองเห็นอย่างชัดเจน ส่วนบนสำหรับมองไกล และส่วนล่างสำหรับมองใกล้
- แว่นโปรเกรสซีฟ ( Progressive Lens ) เป็นเทคโนโลยีเลนส์ที่ทันสมัยที่สุด สามารถมองเห็นได้คมชัดทุกระยะอย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่ระยะใกล้ ระยะกลาง ไปจนถึงระยะไกลในเลนส์เดียว ไม่ต้องคอยถอดแว่นเข้าออก และให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฝืนไม่ยอมใส่แว่นสายตายาว
หลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่ายิ่งใส่แว่นจะยิ่งทำให้สายตายาวเพิ่มขึ้น จึงพยายามฝืนทนไม่ยอมใส่แว่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การไม่ใส่แว่นต่างหากที่จะส่งผลเสียมากกว่า เมื่อมองไม่ชัด กล้ามเนื้อตาจะถูกบังคับให้ทำงานหนักขึ้นตลอดเวลาเพื่อพยายามเพ่งและปรับโฟกัส ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น
- อาการตาล้า ปวดตา และปวดศีรษะเรื้อรัง
- ประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียนรู้ลดลง
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการมองเห็นที่ไม่ชัดเจน
ดังนั้น การใส่แว่นที่เหมาะสมกับค่าสายตาจึงเป็นการช่วยถนอมดวงตาและทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้น
สรุปบทความ
คำถามที่ว่า สายตายาวเท่าไหร่ ควรใส่แว่น ไม่ได้มีคำตอบเป็นตัวเลขที่ตายตัวเสมอไป แม้โดยทั่วไปจะแนะนำให้เริ่มพิจารณาเมื่อมีค่าสายตาตั้งแต่ +1.00 D แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่า คือผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากคุณเริ่มมีอาการมองใกล้ไม่ชัด ปวดตา หรือตาล้าจนรบกวนการทำงาน การใส่แว่นคือทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณกลับมามองเห็นได้คมชัดและใช้ชีวิตได้อย่างสบายตาอีกครั้ง การเลือกประเภทของเลนส์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
หากคุณมีภาวะสายตายาวตามวัย ต้องการเปลี่ยนเลนส์แว่นเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ และกำลังมองหาร้านแว่นตาในกรุงเทพที่วัดสายตาละเอียด ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ( ISOPTIK ) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ที่สุดของเทคโนโลยีแว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ แว่นทุกคู่ได้รับการออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรมาจารย์โบบิ ผู้คิดค้นชุดทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล 3 มิติ คนแรกของโลก ร่วมกับนักทัศนมาตรประสบการณ์สูงและช่างแว่นที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ใส่สบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ต้องฝืนเพ่ง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง และมีชุดทดลองให้ทดลองใช้งานจริงก่อนซื้อ พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
ปรึกษาฟรี กับปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ระดับโลก โทร : 081-538-4200
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81 538 4200
อีเมล : isoptik@gmail.com