ตาแพ้แสงเกิดจากอะไร ตาแพ้แสงควรใส่แว่นแบบไหน
เขียนโดย นักทัศนมาตร
หากต้องหรี่ตาตลอดเวลาเมื่อเจอแดด หรือรู้สึกแสบตาเมื่ออยู่ในห้องที่เปิดไฟสว่าง ๆ อาการเหล่านี้คือสัญญาณของภาวะ " ตาแพ้แสง " ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความรำคาญใจไม่น้อย การเข้าใจอาการนี้ และเลือกแว่นตาที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องดวงตาและทำให้เรากลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายตามากขึ้น วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า ตาแพ้แสงควรใส่แว่นแบบไหนถึงจะดีที่สุด
Table of Content
- ตาแพ้แสงคืออะไร
- ตาแพ้แสงควรใส่แว่นแบบไหนดี
- ตาแพ้แสง มีวิธีการรักษาอย่างไร
- วิธีการดูแลดวงตาเมื่อมีอาการแพ้แสง
- คำถามที่พบบ่อย ( FAQ )
- สรุปบทความ
ตาแพ้แสงคืออะไร
ตาแพ้แสง เป็นอาการที่ดวงตาของเราไวต่อแสงมากกว่าปกติ ทำให้รู้สึกไม่สบายตาหรือเจ็บปวดเมื่อเจอกับแสงสว่างที่คนทั่วไปรู้สึกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดหรือแสงไฟในอาคาร สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อดวงตา เช่น อาการตาแห้ง ภูมิแพ้ที่ตา หรือการอักเสบภายในดวงตา เมื่อผิวตาของเราไม่แข็งแรงหรือระคายเคืองอยู่ ก็จะไวต่อสิ่งกระตุ้นอย่างแสงได้ง่ายขึ้น
ตาแพ้แสงควรใส่แว่นแบบไหนดี
ขึ้นอยู่กับว่าเราแพ้แสงในสถานการณ์ไหนเป็นหลัก เพราะแว่นแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับแสงคนละรูปแบบกัน
แว่นกันแดด
นี่คือตัวเลือกแรกสำหรับคนที่มีอาการตาแพ้แสงแดดจ้า แว่นกันแดดที่ดีควรสามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100% เพื่อปกป้องดวงตาจากอันตรายของแสงแดด การเลือกเลนส์สีเข้ม เช่น สีเทาดำหรือสีน้ำตาล จะช่วยลดปริมาณแสงที่เข้ามาในดวงตาได้มาก ทำให้รู้สึกสบายตาเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง
แว่นกรองแสงสีฟ้า
ถ้าคุณมีอาการตาแพ้แสงไฟในออฟฟิศ หรือรู้สึกตาล้าเมื่อต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ แว่นกรองแสงสีฟ้า หรือ " แว่นบลูบล็อค " คือคำตอบ เลนส์ชนิดนี้จะช่วยตัดแสงสีฟ้าพลังงานสูงจากหน้าจอต่าง ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นที่ทำให้ตาล้าและเกิดอาการไวต่อแสงได้
แว่นเลนส์เปลี่ยนสี
สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย แว่นเลนส์เปลี่ยนสี หรือ " เลนส์ออโต้ " เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เลนส์ชนิดนี้จะใสเมื่ออยู่ในที่ร่ม ทำให้ใช้ชีวิตในอาคารได้ปกติ แต่จะปรับสีให้เข้มขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อออกไปเจอแสงแดด ทำให้เป็นเหมือนทั้งแว่นสายตาและแว่นกันแดดในอันเดียว ตอบโจทย์คนที่ต้องเดินเข้าออกอาคารบ่อย ๆ
ตาแพ้แสง มีวิธีการรักษาอย่างไร
การใส่แว่นเป็นการช่วยบรรเทาอาการ แต่การรักษาที่ดีที่สุดคือการแก้ที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งตาแพ้แสงส่วนใหญ่มักเกิดจากตาแห้งหรือตาอักเสบ การรักษาจึงเน้นไปที่
- การใช้น้ำตาเทียม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ลดการระคายเคือง
- การใช้ยาหยอดตาแก้แพ้หรือลดอักเสบ ซึ่งควรอยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์ ไม่ควรซื้อยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์มาใช้เองเด็ดขาด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
ทางที่ดีที่สุดคือการเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่ถูกต้อง
วิธีการดูแลดวงตาเมื่อมีอาการแพ้แสง
นอกจากการรักษาแล้ว เรายังสามารถดูแลดวงตาของตัวเองเพื่อลดอาการตาแพ้แสงได้ด้วยวิธีง่าย ๆ
- หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงจ้าโดยตรง หากต้องออกแดดควรสวมหมวกปีกกว้างร่วมกับแว่นกันแดดเสมอ
- งดการขยี้ตาโดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้ตาอักเสบและระคายเคืองมากขึ้น
- พักสายตาเป็นระยะเมื่อต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์
- พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับจะช่วยให้ดวงตาได้ฟื้นฟูตัวเอง
คำถามที่พบบ่อย ( FAQ )
ตาแพ้แสง อันตรายไหม
อาการตาแพ้แสงเองไม่ได้อันตราย แต่มันอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในดวงตา เช่น การอักเสบ การติดเชื้อ หรือภาวะตาแห้งรุนแรง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาจเป็นอันตรายต่อการมองเห็นได้
ตาแพ้แสง ควรใส่แว่นไหม
ควรอย่างยิ่ง การใส่แว่นที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายตามากขึ้น การทนสู้แสงโดยไม่ใส่อะไรป้องกันเลยจะยิ่งทำให้ดวงตาเหนื่อยล้าและระคายเคือง
อาการตาแห้งทำให้ตาแพ้แสงได้จริงไหม
จริง เพราะเมื่อผิวตาของเราแห้ง จะขาดชั้นฟิล์มน้ำตาที่คอยปกป้อง ทำให้ผิวตาระคายเคืองได้ง่าย เส้นประสาทที่ผิวตาจะมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงแสงสว่างด้วย
สรุปบทความ
ตาแพ้แสงควรใส่แว่นแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นหลัก โดยสามารถใช้แว่นกันแดดสำหรับกลางแจ้ง แว่นกรองแสงสีฟ้าสำหรับหน้าจอ หรือแว่นเลนส์เปลี่ยนสีเพื่อความสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาสาเหตุที่แท้จริงและรักษาให้ถูกจุด การไปพบจักษุแพทย์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว
ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ( ISOPTIK ) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ที่สุดของเทคโนโลยีแว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ แว่นทุกคู่ได้รับการออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรมาจารย์โบบิ ผู้คิดค้นชุดทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล 3 มิติ คนแรกของโลก ร่วมกับนักทัศนมาตรประสบการณ์สูงและช่างแว่นที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ใส่สบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ต้องฝืนเพ่ง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง และมีชุดทดลองให้ทดลองใช้งานจริงก่อนซื้อ พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
ปรึกษาฟรี กับปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ระดับโลก โทร : 081-538-4200
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81 538 4200
อีเมล : isoptik@gmail.com