ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

Personal Color คืออะไร สำคัญอย่างไร เคล็ดลับเลือกสีที่ใช่สำหรับตัวเอง

เขียนโดย นักทัศนมาตร

Image
Personal Color คืออะไร สำคัญอย่างไร

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาใส่เสื้อผ้าบางสีแล้วหน้าดูสว่างสดใสขึ้น แต่พอเปลี่ยนเป็นอีกสีหนึ่งกลับดูหมอง ๆ ทันที เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกี่ยวข้องกับ Personal Color หรือโทนสีที่เข้ากับสีผิวและบุคลิกของแต่ละคนโดยตรง การรู้จักโทนสีของตัวเองไม่เพียงช่วยให้เลือกเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น แต่ยังนำไปใช้กับการเลือกแอคเซสซอรี่อย่าง “ แว่นตา ” ได้ด้วย บทความนี้จะพาไป เช็ก Personal Color ของตัวเอง พร้อมแชร์เคล็ดลับการเลือกสีกรอบแว่นให้เหมาะกับโทนผิวและสไตล์ เพื่อให้แว่นคู่ใหม่กลายเป็นไอเท็มที่ใช่สำหรับทุกวัน

Table of Content

Personal Color คืออะไรและทำไมถึงฮิต

Personal Color คือกลุ่มของสีที่เข้ากับสีผิว สีผม และสีตาของเรามากที่สุด เมื่อเราใช้สีในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า การแต่งหน้า หรือเครื่องประดับ จะช่วยขับให้ใบหน้าของเราดูสว่างสดใส มีชีวิตชีวาขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าเราเลือกใช้สีที่ไม่เข้ากับตัวเอง ก็อาจจะทำให้หน้าดูหมอง ดูโทรม หรือดูมีอายุมากขึ้นได้

ที่ Personal Colorฮิตก็เพราะมันเป็นเหมือนทางลัดในการเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้ง่าย ๆ แค่เข้าใจเรื่องสี ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากมายก็สร้างความแตกต่างได้แล้ว

Personal Color มีกี่โทนและแต่ละโทนต่างกันอย่างไร

Image
Personal Color มีกี่โทน

Personal Color จะแบ่งตาม Undertone หรือโทนสีผิวที่แท้จริงของเราออกเป็น 2 โทน คือ โทนอุ่น ( Warm Tone ) และโทนเย็น ( Cool Tone ) ซึ่งในแต่ละโทนจะแบ่งย่อยออกไปอีกเป็น 4 ฤดู เพื่อให้เห็นภาพสีที่ชัดเจนขึ้น

  • Spring ( ฤดูใบไม้ผลิ ) เป็นกลุ่มโทนอุ่นที่สีสันจะออกแนวสดใสเหมือนดอกไม้ที่กำลังบาน คนกลุ่มนี้มักจะดูสดใส ร่าเริง และดูอ่อนกว่าวัย
  • Autumn ( ฤดูใบไม้ร่วง ) เป็นกลุ่มโทนอุ่นเหมือนกัน แต่สีจะมีความเข้มและตุ่นกว่า เหมือนสีของใบไม้เปลี่ยนสี จะให้ความรู้สึกอบอุ่น สุขุม และดูเป็นผู้ใหญ่
  • Summer ( ฤดูร้อน ) เป็นกลุ่มโทนเย็นที่สีจะออกแนวนุ่มนวล สบายตา เหมือนท้องฟ้าในวันสบาย ๆ สีส่วนใหญ่จะเป็นโทนพาสเทล ให้ความรู้สึกอ่อนโยน เรียบหรู
  • Winter ( ฤดูหนาว ) เป็นกลุ่มโทนเย็นที่สีจะมีความสดและคมชัดสูงมาก สีจะมีความเข้มและจัดจ้าน ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ทันสมัย และน่าค้นหา

วิธีเช็ก Personal Color ด้วยตัวเอง

การวิเคราะห์ Personal Color แบบละเอียดอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แต่เราก็มีวิธีง่าย ๆ ที่สามารถลองเช็กโทนสีของตัวเองได้เบื้องต้นที่บ้านเหมือนกัน

ดูจากเส้นเลือดที่ข้อมือ

ลองหงายข้อมือดูใต้แสงธรรมชาติ แล้วสังเกตสีของเส้นเลือด

  • เส้นเลือดสีเขียว บ่งบอกว่าคุณมีผิวโทนอุ่น ( Warm Tone ) ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่ม Spring หรือ Autumn
  • เส้นเลือดสีม่วงหรือสีน้ำเงิน บ่งบอกว่าคุณมีผิวโทนเย็น ( Cool Tone ) ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่ม Summer หรือ Winter
  • มีทั้งสีเขียว ม่วง และน้ำเงินปนกัน แสดงว่าคุณอาจมีผิวโทนกลาง ( Neutral Tone ) ที่สามารถเข้าได้กับหลายสี แต่อาจจะต้องใช้วิธีอื่นเช็กร่วมด้วยเพื่อหาโทนที่เด่นชัดกว่า

ดูจากสีผิวหลังถูกแสงแดด

ลองนึกถึงเวลาที่เราไปเที่ยวทะเลหรือโดนแดดจัด ๆ สีผิวของเราเปลี่ยนไปแบบไหน

  • ผิวคล้ำขึ้นเป็นสีแทนง่าย แสดงว่าคุณน่าจะมีผิวโทนอุ่น ( Warm Tone )
  • ผิวจะแดงก่อนแล้วค่อยคล้ำ หรือไม่คล้ำเลยแต่แดงและแสบ แสดงว่าคุณน่าจะมีผิวโทนเย็น ( Cool Tone )

ใช้เครื่องประดับทองหรือเงิน

วิธีนี้เห็นผลชัดเจนมาก ลองนำเครื่องประดับสีทองและสีเงินมาทาบใกล้ ๆ กับใบหน้าและลำคอ

  • ใส่สีทองแล้วขับผิว หน้าดูผ่องใส แสดงว่าคุณเหมาะกับสีโทนอุ่น ( Warm Tone )
  • ใส่สีเงินแล้วหน้าดูสว่างสดใส แสดงว่าคุณเหมาะกับสีโทนเย็น ( Cool Tone )

สีไหนใช่สำหรับ Personal Color แต่ละโทน

เมื่อรู้โทนสีของตัวเองแล้ว ก็มาดูกันว่าสีแบบไหนที่จะช่วยเสริมให้เราดูดีขึ้น

  • Spring ( โทนอุ่น ) เหมาะกับสีสว่างสดใส เช่น สีพีช สีส้มคอรัล สีเหลืองเลมอน สีเขียวแอปเปิ้ล และสีทอง
  • Autumn ( โทนอุ่น ) เหมาะกับสีโทนอบอุ่นและเข้มขึ้นมาหน่อย เช่น สีส้มอิฐ สีเขียวขี้ม้า สีน้ำตาล สีเหลืองมัสตาร์ด และสีทองแดง
  • Summer ( โทนเย็น ) เหมาะกับสีนุ่มนวลโทนพาสเทล เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าเบบี้บลู สีม่วงลาเวนเดอร์ สีเทาอ่อน และสีเงิน
  • Winter ( โทนเย็น ) เหมาะกับสีสดและคมชัด เช่น สีแดงสด สีน้ำเงินรอยัลบลู สีชมพูบานเย็น สีดำสนิท สีขาวบริสุทธิ์ และสีเงิน

เคล็ดลับเลือกแว่นตาให้เข้ากับ Personal Color

Image
เคล็ดลับเลือกแว่นตาให้เข้ากับ Personal Color

แว่นตาเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่อยู่บนใบหน้าเราตลอด การเลือกสีที่ใช่จะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างขึ้นได้มาก

  • Spring ( โทนอุ่น ) เลือกกรอบแว่นสีทอง สีน้ำตาลอ่อน ( Light Brown ) สีเบจ หรือกรอบแว่นสีสดใสโทนอุ่นอย่างสีส้มคอรัล
  • Autumn ( โทนอุ่น ) เหมาะกับกรอบแว่นสีบรอนซ์ สีน้ำตาลเข้ม สีเขียวขี้ม้า หรือสีทองโทนเข้ม
  • Summer ( โทนเย็น ) ลองเลือกกรอบแว่นสีเงิน สีโรสโกลด์ สีเทา สีฟ้าอ่อน หรือกรอบแว่นใส จะช่วยให้หน้าดูสว่าง
  • Winter ( โทนเย็น ) เหมาะกับกรอบแว่นที่มีคอนทราสต์สูง เช่น สีดำ สีน้ำเงินเข้ม สีเงินสว่าง หรือสีขาว

นอกจากการเลือกสีแว่นให้เข้ากับ Personal Color แล้ว การเลือกกรอบให้เข้ากับรูปหน้าก็สำคัญไม่แพ้กัน ใครที่ยังไม่แน่ใจว่า ตัวเองใส่แว่นทรงไหนดีสามารถปรึกษานักทัศนมาตรเพิ่มเติมได้เลย

คำถามที่พบบ่อย ( FAQ )

ทำ Personal color ต้องหน้าสดไหม

เวลาเช็ก Personal Color แนะนำว่าควรเป็นหน้าสด เพื่อให้เห็นสีผิวที่แท้จริงของเราได้ชัดเจนที่สุด เพราะรองพื้น บลัชออน หรือแม้แต่คอนแทคเลนส์สี สามารถส่งผลต่อการวิเคราะห์สีได้ หากย้อมสีผมมาก็ควรรวบเก็บให้เรียบร้อยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ

Personal Color มีกี่ประเภท

โดยทั่วไปแล้วทฤษฎี Personal Color จะแบ่งคนออกเป็น 2 โทนสีผิวหลักคือ โทนอุ่น ( Warm Tone ) และโทนเย็น (Cool Tone) จากนั้นจะแบ่งย่อยลงไปอีกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ตามฤดูกาล ได้แก่ Spring ( โทนอุ่น ) Autumn ( โทนอุ่น ) Summer ( โทนเย็น ) และ Winter ( โทนเย็น )

ทฤษฎี Personal Color คืออะไร

ทฤษฎี Personal Color คือหลักการวิเคราะห์เพื่อค้นหากลุ่มสีที่เข้ากับสีผิว สีผม และสีตาตามธรรมชาติของแต่ละบุคคลมากที่สุด แนวคิดหลักคือเมื่อเราใช้สีที่ถูกต้อง เช่น สีเสื้อผ้า การแต่งหน้า สีเหล่านั้นจะช่วยขับให้ใบหน้าดูสว่างสดใส สุขภาพดี และส่งเสริมบุคลิกภาพ ในทางกลับกัน สีที่ไม่เข้ากับเราอาจทำให้หน้าดูหมองคล้ำหรือดูเหนื่อยล้าได้

สรุปบทความ

การรู้จัก Personal Color ของตัวเองเป็นเหมือนการมีคู่มือเลือกสีส่วนตัว ที่จะช่วยให้การเลือกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และเครื่องประดับต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น การเลือกใช้สีที่เหมาะสมกับโทนสีผิวจะช่วยขับให้ใบหน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา ลดความหมองคล้ำ และเสริมสร้างความมั่นใจได้ในทุก ๆ วัน

สำหรับผู้ที่ต้องการกรอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟตาม Personal Color ของตัวเอง ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ( ISOPTIK ) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ที่สุดของเทคโนโลยีแว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ แว่นทุกคู่ได้รับการออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรมาจารย์โบบิ ผู้คิดค้นชุดทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล 3 มิติ คนแรกของโลก ร่วมกับนักทัศนมาตรประสบการณ์สูงและช่างแว่นที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ใส่สบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ต้องฝืนเพ่ง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง และมีชุดทดลองให้ทดลองใช้งานจริงก่อนซื้อ พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน

ปรึกษาฟรี กับปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ระดับโลก โทร : 081-538-4200

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200

LINE ID : @isoptik

เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com

whatsapp : +66 81 538 4200

อีเมล : isoptik@gmail.com