อายุ 40 ตาพร่ามัว เกิดจากอะไร ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม
เขียนโดย พญ. ณัฐธิดา นิ่มวรพันธุ์ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตา และผ่าตัดแก้ไขสายตา ( Cornea Specialist )
เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 40 หลายคนเริ่มประสบปัญหาการมองเห็นไม่ชัดในระยะใกล้ ต้องถือหนังสือหรือโทรศัพท์ออกห่างเพื่อให้เห็นตัวหนังสือชัดขึ้น อายุ 40 ตาพร่ามัวจึงเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและเป็นเรื่องธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงตามวัย แต่การเข้าใจสาเหตุและวิธีการจัดการที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
อายุ 40 ตาพร่ามัว เกิดจากอะไร
อายุ 40 ตาพร่ามัวมีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างดวงตาตามธรรมชาติ
1. สายตายาวตามอายุ ( Presbyopia )
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน เลนส์ภายในดวงตาจะค่อย ๆ แข็งตัวและสูญเสียความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อที่ควบคุมการปรับโฟกัสทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม ทำให้การโฟกัสภาพในระยะใกล้เป็นไปได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับทุกคนและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยสายตายาวตามอายุสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุ 37 ปี ขึ้นไป
นอกจากนี้ปัญหาสายตาอื่น ๆ อย่างเช่น สายตาสั้น สายตายาว ( โดยกำเนิด ) และสายตาเอียง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงตามองเห็นภาพเบลอ เวลามองภาพจะไม่โฟกัสได้เช่นกัน
2. โรคเรื้อรังบางชนิด
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ อาจทำให้จุดรับภาพชัดบวม ส่งผลให้มีอาการตามัวได้ นอกจากนี้ โรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจยังอาจมีผลต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงดวงตา ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตาลดลง
3. โรคทางตา
นอกเหนือจากสายตายาวตามวัยแล้ว อาการตาพร่ามัวอาจเป็นสัญญาณของโรคทางตาอื่น ๆ ได้ เช่น โรคต้อกระจก ที่เลนส์ตาเริ่มขุ่นมัวทำให้แสงผ่านได้น้อยลง หรือโรคต้อหิน ซึ่งเกิดจากความดันในลูกตาสูงจนทำลายประสาทตา แม้โรคเหล่านี้มักพบในผู้สูงอายุ แต่วัย 40 ปีขึ้นไป ก็เริ่มมีความเสี่ยง ดังนั้น การตรวจสายตากับจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จึงเป็นสิ่งสำคัญ
4. การใช้สายตามากเกินไป
การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การใช้สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตอย่างต่อเนื่องโดยไม่พักสายตา อาจทำให้กล้ามเนื้อตาล้าเร็วกว่าปกติ เพราะการจ้องมองสิ่งของในระยะใกล้เป็นเวลานานจะบังคับให้เลนส์ตาต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อสะสมเป็นระยะเวลานานอาจเร่งให้เกิดอาการมองไกลไม่ชัด และตาพร่ามัวตามมา
อาการตาพร่ามัวมีอะไรบ้าง
- มองใกล้ หรือมองไกลไม่ชัดเจน
- ทัศนวิสัยในการมองเห็นแคบลง
- เห็นภาพเหมือนมีหมอกขาว ๆ มาบัง
- มีอาการปวดศีรษะ หรือตาล้าหลังจากทำงานที่ต้องใช้สายตาระยะใกล้เป็นเวลานาน
- ต้องการแสงสว่างมากขึ้นกว่าปกติในการอ่านหนังสือหรือทำงาน
- มีน้ำตามากผิดปกติ ตาแฉะ และมีขี้ตามากกว่าปกติ
อายุ 40 ตาพร่ามัว รักษาอย่างไร
วิธีการรักษาอาการอายุ 40 ตาพร่ามัว จะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ตามัวเป็นหลัก โดยทั่วไปมักรักษาได้หลายวิธี เช่น การใช้ยาหยอดตา การรับประทานยา การทำเลเซอร์ หรือการผ่าตัด ทั้งนี้จำเป็นต้องวินิจฉัยให้ชัดเจนก่อนว่าตาพร่ามัวเกิดจากอะไร เพื่อเลือกวิธีแก้ไขให้ตรงจุด เช่น หากมีสาเหตุมาจากตาแห้ง มักใช้วิธีหยอดน้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ถ้ามีสาเหตุจากตาล้าจากการใช้สายตาหนัก ก็ควรพักสายตาให้เพียงพอ
ในกรณีที่ตาพร่ามัวเกิดจากปัญหาค่าสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตายาวตามวัย หรือสายตาเอียง สามารถแก้ไขได้ด้วยการใส่แว่นตา คอนแทคเลนส์ หรือการทำเลสิก
หากสาเหตุมาจากโรคต้อกระจก การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาที่ขุ่นเป็นเลนส์เทียมจะช่วยให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนขึ้น ส่วนโรคต้อหิน อาจต้องหยอดยาลดความดันในลูกตาหรือผ่าตัดเพื่อระบายน้ำในลูกตา
เพราะสาเหตุของตาพร่ามัวมีได้หลากหลาย การตรวจโดยจักษุแพทย์จึงสำคัญ ทั้งการวัดสายตา ตรวจสุขภาพตา และอาจรวมถึงการตรวจเลือด หรือร่างกายเพิ่มเติม หากเริ่มมีอาการมองเห็นไม่ชัด ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ
วิธีป้องกันสายตาพร่ามัวในวัย 40
แม้เราจะหยุดยั้งความเสื่อมตามวัยไม่ได้ แต่เราสามารถชะลอและดูแลสุขภาพดวงตาให้ดีอยู่เสมอได้ด้วยวิธีง่าย ๆ
- ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ควรตรวจวัดสายตากับนักทัศนมาตร และเช็กสุขภาพตากับจักษุแพทย์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- พักสายตาจากการใช้หน้าจอ ใช้กฎ 20-20-20 คือพักสายตาทุก 20 นาที ด้วยการมองออกไปไกล ๆ ( ระยะ 20 ฟุต ) เป็นเวลา 20 วินาที
- จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ทำงานหรืออ่านหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ และปรับความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอดี
- รับประทานอาหารบำรุงสายตา เน้นอาหารที่มีวิตามินเอ ลูทีน และซีแซนทีน เช่น ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง และผลไม้ตระกูลเบอร์รี
- ปกป้องดวงตาจากแสงแดด สวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100% เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง
สรุปบทความ
อายุ 40 ตาพร่ามัว เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อเลนส์ตาสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้การโฟกัสในระยะใกล้ทำได้ยากขึ้น การตรวจสายตาเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคทางตาอื่น ๆ แฝงอยู่ และเพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสม ช่วยให้คุณกลับมามองเห็นได้คมชัดและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง
สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาการมองเห็นในวัย 40 ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ( ISOPTIK ) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ที่สุดของเทคโนโลยีแว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ แว่นทุกคู่ได้รับการออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรมาจารย์โบบิ ผู้คิดค้นชุดทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล 3 มิติ คนแรกของโลก ร่วมกับนักทัศนมาตรประสบการณ์สูงและช่างแว่นที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ใส่สบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ต้องฝืนเพ่ง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง และมีชุดทดลองให้ทดลองใช้งานจริงก่อนซื้อ พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
ปรึกษาฟรี กับปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ระดับโลก โทร : 081-538-4200
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81 538 4200
อีเมล : isoptik@gmail.com