Skip to main content

7 วิธีแก้อาการคันตาง่าย ๆ บรรเทาอาการระคายเคืองได้จริง

เขียนโดย พญ. ณัฐธิดา นิ่มวรพันธุ์ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตา และผ่าตัดแก้ไขสายตา ( Cornea Specialist )

อาการคันยิบ ๆ ที่ดวงตาเป็นเรื่องน่ารำคาญที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ บางครั้งก็คันจนทนไม่ไหวเผลอไปขยี้จนตาแดงก่ำ ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ยังอาจทำให้อาการแย่ลงไปอีก แต่ไม่ต้องกังวลไป ปัญหาคันตาส่วนใหญ่สามารถรับมือได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการและคืนความสบายให้ดวงตาของเราได้

อาการคันตาคืออะไร

อาการคันตา คือความรู้สึกระคายเคืองบริเวณดวงตา ไม่ว่าจะเป็นที่เปลือกตา หัวตา หรือในลูกตา จนทำให้เกิดความอยากที่จะเกาหรือขยี้อยู่ตลอดเวลา อาการคันตาอาจเกิดขึ้นกับตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ และบางครั้งก็อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตาแดง น้ำตาไหล แสบตา หรือมีขี้ตา ซึ่งสร้างความรำคาญและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่น้อย

คันตาเกิดจากอะไร

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการคันตามีอยู่หลายอย่าง ทั้งจากสิ่งแวดล้อมและจากร่างกายของเราเอง

  • ภูมิแพ้ เมื่อดวงตาของเราเจอกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ หรือเชื้อรา ร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งสารฮีสตามีนออกมา ทำให้เกิดอาการคันตา ตาบวม แดง และมีน้ำตาไหล
  • ตาแห้ง ภาวะที่ดวงตาขาดความชุ่มชื้นเพราะผลิตน้ำตาไม่พอ หรือน้ำตาระเหยเร็วเกินไป เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองและอาการคันตาได้ง่าย
  • การติดเชื้อ ภาวะเยื่อบุตาอักเสบ หรือที่เรียกกันว่า " ตาแดง " ซึ่งเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ก็ทำให้เกิดอาการคันตาอย่างรุนแรงร่วมกับอาการตาแดงและมีขี้ตามากผิดปกติ
  • สิ่งแปลกปลอม หรือสิ่งระคายเคือง ฝุ่น ควัน เครื่องสำอาง หรือแม้แต่ขนตาที่งอกผิดทิศทางทิ่มเข้าไปในดวงตา ก็สามารถสร้างความระคายเคืองจนเกิดอาการคันตาได้
  • เปลือกตาอักเสบ การอักเสบที่บริเวณขอบเปลือกตา ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือการอุดตันของต่อมไขมัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกคันยิบ ๆ ที่ขอบตาได้เช่นกัน

7 วิธีแก้อาการคันตา

เมื่อรู้สึกคันตา สามารถดูแลเบื้องต้นด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1. ประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบ

การประคบเย็นจะทำให้หลอดเลือดบริเวณรอบดวงตาหดตัวลง ซึ่งจะช่วยลดอาการบวม แดง และที่สำคัญคือช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีนซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดอาการคัน การประคบเย็นยังให้ความรู้สึกสดชื่นและสบายตา ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองได้ทันที วิธีการแค่นำผ้าสะอาดนุ่ม ๆ ไปชุบน้ำเย็น บิดให้หมาด แล้วนำมาวางบนเปลือกตาที่ปิดสนิท ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที สามารถทำซ้ำได้หลาย ๆ ครั้งต่อวันเมื่อรู้สึกว่าอาการคันตากลับมาอีก

2. ล้างตาด้วยน้ำเกลือสะอาด

ในกรณีที่รู้สึกว่าอาการคันตาเกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา เช่น ฝุ่นละออง หรืออาจจะเพิ่งไปสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้มา การล้างตาเพื่อชะล้างสิ่งเหล่านั้นออกไปถือเป็นทางเลือกที่ดี ควรใช้น้ำเกลือสำหรับล้างตาโดยเฉพาะ ( Normal Saline Solution ) ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป การล้างตาจะช่วยกำจัดตัวการที่ทำให้ระคายเคืองออกไปโดยตรง ทำให้อาการคันตาลดลงอย่างเห็นได้

3. หลีกเลี่ยงการขยี้ตา

การขยี้ตาเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติที่เหมือนจะช่วยให้หายคัน แต่ความจริงแล้วมันคือการซ้ำเติมให้สถานการณ์แย่ลง มือของเราที่อาจไม่สะอาดจะเป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้โดยตรง นอกจากนี้แรงขยี้ยังอาจทำให้กระจกตาเกิดรอยถลอก หากทนไม่ไหวจริง ๆ ให้ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีประคบเย็นแทนจะดีกว่า

4. ใช้น้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้น

หลายครั้งที่อาการคันตาเกิดจากภาวะตาแห้ง ซึ่งพบบ่อยมากในคนที่ทำงานในห้องแอร์ หรือจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ การใช้น้ำตาเทียมจึงเป็นเหมือนการเติมน้ำหล่อลื่นให้ดวงตา ช่วยลดการเสียดสีระหว่างเปลือกตากับผิวตา ทำให้รู้สึกสบายขึ้นและลดการระคายเคืองได้ดี น้ำตาเทียมยังช่วยชะล้างฝุ่นผงเล็ก ๆ หรือสารก่อภูมิแพ้ที่อาจตกค้างอยู่ในตาออกไปได้ด้วย

5. พักการใส่คอนแทคเลนส์ชั่วคราว

สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ หากเกิดอาการคันตาขึ้นมา ควรหยุดใส่ทันทีแล้วเปลี่ยนไปสวมแว่นตาแทนก่อน เพราะผิวของคอนแทคเลนส์สามารถเป็นที่เกาะของฝุ่นละออง โปรตีนจากน้ำตา และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้สิ่งระคายเคืองเหล่านี้สัมผัสกับดวงตาของเราตลอดเวลา นอกจากนี้ การใส่คอนแทคเลนส์ยังอาจทำให้ตาแห้งมากขึ้น การหยุดใส่จะช่วยให้ดวงตาได้พักฟื้น ลดการระคายเคือง และกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น

6. พักสายตาระหว่างวัน

การใช้สายตาอย่างหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพ่งหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลานาน จะทำให้เรากะพริบตาน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของอาการตาแห้งและตาล้า นำไปสู่อาการคันตาได้ง่าย ควรฝึกพักสายตาให้เป็นนิสัยด้วยกฎง่าย ๆ ที่เรียกว่า 20-20-20 คือ ทุก ๆ 20 นาทีของการทำงาน ให้ละสายตาจากหน้าจอแล้วมองออกไปไกล ๆ ที่ระยะ 20 ฟุต ( ประมาณ 6 เมตร ) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้ดวงตาได้ปรับโฟกัสและผ่อนคลาย

7. ใช้ยาแก้แพ้เมื่อจำเป็น

หากคุณรู้ตัวว่าอาการคันตาที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ เช่น เกิดขึ้นตามฤดูกาล หรือหลังจากไปเล่นกับสัตว์เลี้ยง การใช้ยาแก้แพ้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของเภสัชกร หรือแพทย์เพื่อความปลอดภัยและเหมาะสมกับอาการ

วิธีรักษาทางการแพทย์

หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการคันตาไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ปวดตามาก ตามัว มองเห็นไม่ชัด หรือมีขี้ตาสีเขียวเหลือง ควรไปพบจักษุแพทย์ทันที แพทย์จะทำการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและให้การรักษาที่เหมาะสม เช่น การสั่งยาหยอดตาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ หรือทำการรักษาภาวะผิดปกติอื่น ๆ ต่อไป

วิธีป้องกันอาการคันตา

  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่เรารู้ว่าแพ้
  • รักษาความสะอาดของบ้านและเครื่องนอน เพื่อลดปริมาณไรฝุ่น
  • ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และไม่นำมือมาสัมผัสบริเวณดวงตา
  • สวมแว่นกันแดด หรือแว่นป้องกันเมื่อต้องออกไปในที่ที่มีลมแรง หรือฝุ่นเยอะ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของร่างกายและดวงตา

คำถามที่พบบ่อย ( FAQ )

คันหัวตามาก ๆ เกิดจากอะไร

อาการคันหัวตามากมักเกิดจากการระคายเคือง หรือการอักเสบของเยื่อบุตา ซึ่งอาจมาจากภูมิแพ้ ฝุ่นละออง ตาแห้ง การติดเชื้อ หรือสิ่งแปลกปลอม เช่น ขนตาหลุดเข้าตา รวมถึงการแพ้คอนแทคเลนส์ หรือเครื่องสำอาง หากอาการไม่หาย หรือมีตาแดง บวม ขี้ตาเยอะ ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจและรักษาอย่างถูกวิธี

ภูมิแพ้ขึ้นตามีลักษณะยังไง

ภูมิแพ้ที่ขึ้นตามักจะมีอาการคันตาเป็นหลัก อาจมีอาการน้ำตาไหล บวม แดงในตาร่วมด้วย

อาการคันตาเกิดจากฝุ่นได้หรือไม่

อาการคันตาเกิดจากฝุ่นได้ ฝุ่นและไรฝุ่นเป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้และสิ่งระคายเคืองที่พบบ่อยที่สุด เมื่อเข้าตาก็จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาและทำให้เกิดอาการคันตาได้ทันที

สรุปบทความ

อาการคันตาพบได้บ่อยและเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ภูมิแพ้ ตาแห้ง ไปจนถึงการติดเชื้อ การดูแลเบื้องต้นอย่างการประคบเย็น การใช้น้ำตาเทียม และที่สำคัญคือการไม่ขยี้ตา มักจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ แต่หากอาการยังคงอยู่ หรือรุนแรงขึ้น การไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงคือสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ดวงตาของเรากลับมาสดใสและสบายตาอีกครั้ง

นอกจากอาการคันตา หากคุณกำลังประสบปัญหาสายตายาวตามวัย ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ( ISOPTIK ) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ที่สุดของเทคโนโลยีแว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ แว่นทุกคู่ได้รับการออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรมาจารย์โบบิ ผู้คิดค้นชุดทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล 3 มิติ คนแรกของโลก ร่วมกับนักทัศนมาตรประสบการณ์สูงและช่างแว่นที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ใส่สบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่ต้องฝืนเพ่ง ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง

ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ ISOPTIK Bespoke ย่อบาง 1.6 Blue Block เริ่มต้นคู่ละ 58,800 บาท เลนส์รับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริง 180 วัน

ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด ISOPTIK SMP ย่อบาง 1.6 Blue Block เริ่มต้นคู่ละ 33,800 บาท เลนส์รับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริง 90 วัน

ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ISOPTIK MP ย่อบาง 1.6 Blue Block เริ่มต้นคู่ละ 18,800 บาท เลนส์รับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริง 60 วัน

" ถ้าเชื่อ ก็ทำได้ทุกสิ่ง "

ปรึกษาฟรี กับปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวด 3 มิติ Bespoke ระดับโลก โทร : 081-538-4200

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200

LINE ID : @isoptik

เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com

whatsapp : +66 81 538 4200

อีเมล : isoptik@gmail.com