คุณ จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี
ด้วยความอาลัยยิ่ง
ผมเริ่มมีปัญหาทางสายตาตอนอายุ 40 ต้น ๆ ในช่วงแรกนั้น ไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไร แต่พออายุ 45 ปี เริ่มมีปัญหาทางสายตามากขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องใส่แว่นตา โดยเฉพาะตอนเวลาอ่านหนังสือ ผมมีแว่นตาเอาไว้ใช้สำหรับอ่านหนังสือ กับไว้สำหรับดูคอมพิวเตอร์ในเวลาทำงาน ส่วนตอนขับรถผมไม่ได้ใส่แว่นตา แต่ก็เริ่มสังเกตตัวเองว่า เวลามองระยะไกลมันเริ่มจะแย่ลงเรื่อย ๆ พอได้ใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟ รู้สึกได้ว่าโลกมันชัดขึ้น
ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับแว่นตาโปรเกรสซีฟนั้น รู้มาจาก ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เนี่ยละครับ ช่วงแรกที่ได้ใช้งานแว่นตาโปรเกรสซีฟ ตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไร แต่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถปรับตัวเข้ากันแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้แล้ว ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะใช้เวลาปรับตัวเป็นอาทิตย์ก็ตาม สาเหตุนั้นไม่ใช่เพราะว่าใส่แล้ว รู้สึกมีอาการเวียนหัวแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะรู้สึกไม่คุ้นชินกับแว่นตาโปรเกรสซีฟเท่าไร จึงทำให้ต้องถอดแว่นตาบ่อย ๆ ในช่วงแรก แต่พอได้ใช้ไปสักพักหนึ่งแล้ว รู้สึกขาดไม่ได้เลย รู้สึกได้เลยว่าโลกมันสว่างขึ้น แล้วสามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ต้องบอกเลยว่าถูกใจแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเป็นอย่างมาก จนทำให้ต้องกลับมาตัดแว่นตาเพิ่มอีกหลายคู่ คนรอบข้างผมหลาย ๆ คนก็ตามมาตัดแว่นตากับทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือเพื่อน
แต่ผมก็เคยลองเปลี่ยนไปใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟของที่อื่นดูนะครับ ซึ่งบอกได้เลยว่า แว่นตาโปรเกรสซีฟที่ทำจากที่อื่นมานั้นใช้งานได้ไม่ดีเท่า แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ผมว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มีประสิทธิ์ภาพการใช้งานที่ดี ผมคุยกับบางคนเค้าก็ยังทนใช้แว่นตาแบบคอยสลับเปลี่ยนเอา ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ผมคิดว่าต้องให้เค้าได้ลองใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ดู ซึ่งถ้าได้ลองเค้าน่าจะรู้ถึงความแตกต่าง โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันดีกว่าแน่นอน อีกทั้ง ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ยังมีการบริการที่ดีอีกด้วยครับ
แต่ผมก็ยังมีปัญหานิดหนึ่ง ตรงที่ว่าผมเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาประเภทดำน้ำ และสกี ซึ่งกีฬา 2 ประเภทนี้จำเป็นที่ต้องใส่ Goggles จึงอยากให้มีเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีขนาดใหญ่พอที่สามารถนำทำมาเป็น Goggles ได้ เนื่องจากเวลาที่ผมเล่นกีฬา 2 ประเภทนี้ ผมต้องหา Goggles ที่มีขนาดใหญ่มาก และแว่นตาโปรเกรสซีฟที่มีขนาดเล็กมาก เพื่อที่จะใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟเข้าไปแล้ว สามารถใส่ Goggles ทับเข้าไปอีกทีหนึ่งได้ จึงทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไร
ผมสายตาดีเยี่ยมมาตลอดตั้งแต่เด็กโดยไม่ต้องใช้แว่นสายตา แต่เริ่มมีปัญหาสายตายาวในวัย 40 ต้น ๆ อ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้าหรือดูเมนูอาหารในร้านอาหาร ต้องเริ่มยืดแขนไกลขึ้นจึงจะเห็นชัด เพื่อนฝูงเริ่มล้อว่า จะให้ถือให้เมนูอาหารข้ามโต๊ะให้ไหม ผมพยายามยื้อไม่ยอมใส่แว่นสายตายาวอยู่ประมาณ 2 ปี จนทนมองเห็นภาพพร่ามัวในระยะใกล้ไม่ไหว ลองไปวัดสายตา คนวัดก็บอกสายตายาว 1.00 เลยตัดสินใจใช้แว่นสายตายาวชั้นเดียว ใส่เฉพาะเวลามองใกล้
ใส่อยู่หลายปีมารู้ทีหลังว่ามีเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟที่มองได้ชัดทุกระยะ ที่ช่วยให้ผมมองไกลได้ชัดขึ้น และมองใกล้ได้ชัดเจน ก็เลยลองตัดมาใส่ดู พบว่ายังโฟกัสภาพได้ช้า รู้สึกฝืนธรรมชาติ ใส่ไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาหันศีรษะหรือเหลียวตามอง จะถูกรบกวนจากภาพบิดเบี้ยวด้านข้างอยู่ตลอดเวลา ก็เลยใส่ ๆ ถอด ๆ ทนใส่อยู่หลายปี
ต่อมาผมไปตัดแว่นโปรเกรสซีฟบนกรอบแว่นโค้ง แต่ใส่แล้วปวดหัว ใช้ไม่ได้เลย พอดีภรรยาผมลองใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแล้วติดใจในคุณภาพที่ใส่สบายกว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟทั่วไปมาก ก็เลยแนะนำให้ผมตัดบ้าง ปรากฏว่าใส่สบาย รู้สึกเป็นธรรมชาติมาก โฟกัสภาพได้เร็วเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ ดีกว่าแว่นโปรเกรสซีฟทุกอันที่ผมเคยใช้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมจึงใช้บริการไอซอพติกมาโดยตลอด ทั้งแว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ สำหรับยิงปืน เล่นสกี และขี่ช๊อปเปอร์
ทำให้ผมสามารถกลับมาสนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ด้วยสายตาชัดคมเหมือนวัยหนุ่ม
ถ้าเกิดให้เลือก ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากใส่แว่น แต่สิ่งที่เราได้คืนมาจากการใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ของไอซอพติก ทำให้เรากลับไปใช้ Live Active Life เหมือนเดิมได้ ผมคิดว่ามันเกินคุ้ม ถ้าประเด็นเรื่องปัญหาด้านสายตา ทำให้เราไม่สามารถทำสิ่งที่เราต้องการทำ ผมก็แนะนำให้ใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ที่ไอซอพติก เพื่อดึงเรากลับไปสมัยยังหนุ่มยังแน่นอยู่นะครับ