คุณ ปิติพงษ์ โรจนสุมาพงศ์
อายุ ปี
ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ที.ฟู้ดโพรเซสซิ่ง จำกัด
ผมมีปัญหาทางสายตามาตั้งแต่อายุ 36 ปี เริ่มแรกจะมีอาการรู้สึกปวดหัว เวลามองอะไรก็พร่ามัว ไม่ชัดเหมือนตอนสมัยอายุ 35 ปลาย ๆ ตอนตัดแว่นตาครั้งแรก ตอนนั้นยังไม่เข้าใจเรื่องของแว่นตาโปรเกรสซีฟ เลยไปตัดแว่นสายตาธรรมดากับร้านแถว ๆ บ้าน หลังจากใส่แว่นตาที่ได้รับมานั้น ภาพที่มองเห็นก็ยังไม่คมชัดเท่าไรหลังจากนั้นได้เปลี่ยนจากแว่นสายตาธรรมดา มาใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟ ซึ่งโชคดีอย่างหนึ่ง ที่ผมเป็นคนปรับตัวค่อนข้างง่าย
ช่วงแรกที่หันมาใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟก็ไม่ได้ใส่แว่นตาตลอดทั้งวัน มันมีปัญหาเกิดขึ้นครับ ความคมชัดของภาพ ความรู้สึกในการที่ใช้แว่นตา ในระหว่างการหมุนตัว หันหน้าหรืออะไรก็แล้วแต่ มันเกิดภาวะความไม่แน่นอนขึ้น
ผมจึงเปลี่ยนมาลองใช้ แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ดู ซึ่งพบว่าเวลามองรู้สึกว่าเป็นธรรมชาติมาก มันไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึก แต่เป็นความจริงที่เกิดขึ้น ผมเริ่มจะมาใส่แว่นตาตลอดทั้งวัน หลังจากที่ได้มาตัดแว่นตากับ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เนี่ยละครับ ก็เลยประทับใจ ปัญหาต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนที่ผมจะมาใส่แว่นตาของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มันหายไปทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง และนอกจากนี้ยังได้รับการบริการที่ดีจาก ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก อีกด้วย ต่อจากนี้ผมคงไม่ไปไหนแล้วละครับ ครั้งนี้ผมก็กลับมาตัดแว่นตากับทาง ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก อีกครั้ง เพราะไม่รู้จะไปทำที่ไหน
ครั้งหนึ่งผมลองไปตัดแว่นตากับที่อื่นดู แว่นตาที่ได้รับมานั้น ยังคงมีปัญหาอยู่เหมือนเดิม ก็ต้องย้อนกลับมาตัดแว่นตากับ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เช่นเดิม แต่ถามว่าที่อื่นตัดแว่นตาถูกกว่า ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เยอะไหม มันเทียบกันไม่ติดเลย ที่อื่นถูกมาก แถมเสนอราคาตัดแว่นตาให้ผม จนผมทิ้งไม่ลงจึงต้องลองตัดแว่นตาดู แต่พอได้ใส่แว่นตาที่ได้รับมา ก็ไม่สามารถใช้งานได้ ผมจึงรู้สึกว่าการที่ตัดแว่นตาไปแล้วแต่ไม่สามารถใช้ได้ผมจะไปตัดแว่นตาอีกทำไม กลับมาที่ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ดีกว่า ถึงแม้จะมีราคาแพงหน่อย
ผมว่าที่อื่นเทียบกับ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ไม่ได้ เพราะไม่รู้ที่อื่นจะมาเทียบอะไรกับที่ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริการ พนักงาน อะไรที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมันดีกว่ากันเยอะ โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย ในเรื่องการรับผิดชอบไม่ว่าแว่นตาจะเสียหายหรือ แป้นจมูกหลุด ที่ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จะคอยบริการดูแลให้ โดยไม่คิดเงินในครั้งต่อมา ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีมาก แม้แว่นตาจะมีราคาแพงหน่อย แต่ก็มีอะไรที่ดีคืนกลับมา
ส่วนในเรื่องของการแสวงหาจนเจอ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก และได้เจอ ปรมาจารย์โบบิ ก็ยังสงสัยอยู่ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มีราคาแพงกว่าที่อื่น แต่ลองกลับไปคิดคำนวณดูว่า ระหว่างที่เราใช้แว่นตาครั้งละ 50,000 บาท หรือ 80,000 บาท ที่เลนส์โปรเกรสซีฟทั่ว ๆ ไป กับการที่เรามาซื้อเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ ในราคา 128,000 บาท เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เอ้!....ทำไมแพงจัง แต่ถ้าเรามาเจอ และทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจ ถามว่าแพงอีกเท่าตัวผมยอมเสียไหม ผมบอกเลยว่า ผมยอมเสียแน่นอน เพราะถ้าไปตัดแว่นตากับที่อื่น 2 ครั้ง เท่ากับว่าคุณสามารถตัดแว่นตากับศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้ 1 ครั้ง แต่ทำครั้งเดียวสามารถใส่ได้เลย กับ ตัดแว่นตากับที่อื่น 2 ครั้งแล้วใส่ไม่ได้ นอกจากนี้มันก็เสียเวลาเราด้วยครับ
ครั้งแรกที่ผมสัมผัสได้เลยถึงแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก คือ ความรู้สึกที่ดี ประทับใจมาก ผมเชื่อว่า การที่จะใช้เลนส์ หรือการทำอะไรสักอย่าง เปรียบเหมือนกับว่า เราใช้มันถูกที่ ถูกทางหรือเปล่า โดยเฉพาะปรมาจารย์โบบิ ที่ใช้เลนส์ได้เหมาะกับฝีมือที่ ปรมาจารย์โบบิ มี ประกอบกันแล้ว ทำให้ผมได้สิ่งที่ถูกต้อง ถูกเวลา และถูกสถานที่ นั่นคือ ไอซอพติก
ถ้าถามว่าแว่นสำคัญตรงไหน ผมใส่แว่นมาตั้งแต่อายุ 30 ปี ในการใส่แว่นนี้ ครั้งแรกเลย คิดว่าทำไม แว่นถึงราคาเป็นแสน ประมาณแสนกว่าบาท ที่ผมใส่ครั้งแรกสุด ก็เลยคิดว่าทำไมมันแพงจัง แต่ถ้าได้มาสัมผัสจริง ๆ เงินแสน กับที่อาจารย์พูดว่า การมองแค่ตัวหุ้นตัวเดียว แค่นี้ก็เกิดแล้วครับ มันก็เป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะว่าสิ่งที่เราคาดไม่ถึงอีกหลาย ๆ เรื่อง มันทำให้เรารู้สึกว่า ใส่เข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเหมาะสม เรื่องของรูปลักษณ์ของกรอบแว่น เรื่องของเลนส์ เรื่องของ ปรมาจารย์โบบิ ที่เค้าสามารถทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ผมว่ามันคุ้มมากครับ กับสิ่งที่เราได้มา
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับแว่นเดิม ตามร้านแว่นตาปกติทั่วไป ต่างกันมากมายนะครับ บางท่านคิดว่าเงินมันเยอะ แต่ถ้าเรามาคิดถึงแง่ของระบบธุรกิจ ถามว่าครั้งละ 5 หมื่น หรือ 3 หมื่น 3 ครั้งก็เกินแล้วครับ ฉะนั้นผมยอมเสียครั้งเดียว เพื่อที่จะได้ของที่ดีกว่า ที่จะต้องไปเสียหลาย ๆ ครั้ง และไม่รู้อีกกี่ครั้ง
ส่วนในเรื่องของการดูแลบริการหลังการขาย ปรมาจารย์โบบิ ดีมาก ๆ โดยเฉพาะทีมงานก็ดีมากด้วย เป็นอะไรที่ประทับใจ และทุกครั้งที่มาใช้บริการ เค้าจะดูแลเราอย่างดี โดยเฉพาะอุบัติเหตุของการที่เราทำแว่นหล่น มีอะไรที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ปรมาจารย์โบบิ ดูแลให้หมดเลย และจะคอยแนะนำให้เราว่า จะต้องใช้แว่นแบบไหน เลนส์ประเภทไหน แว่นอะไร ให้เข้ากับรูปหน้าเรา ให้ดูดีขึ้นกว่าเก่าด้วย ปกติหน้าตาผมไม่ได้เด็กขนาดนี้ หลังจากที่ใส่แว่นของ ปรมาจารย์โบบิ แล้ว ดูดีขึ้นกว่าตัวจริงเยอะ ดูเด็กลงไปเยอะเลยครับ
ส่วนเรื่องของการซื้อแพ็กเกจที่มีระยะเวลาการรับประกัน ผมเชื่อ ปรมาจารย์โบบิ เพราะท่านมีประสบการณ์ในการทำแว่น หรือมีความใฝ่ฝันในการทำแว่นตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ฉะนั้นผมมั่นใจเลยว่าการพัฒนาคงมีต่อเนื่องแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของการที่จะทำให้ผู้ที่ต้องการใช้แว่นสายตาหรือแว่นกันแดดหรือแว่นอะไรก็แล้วแต่ จะต้องประทับใจในสิ่งต่าง ๆ ที่ไอซอพติกมี ต้องบอกได้คำเดียวว่า ต้องประทับใจ ในสิ่งที่ได้มา และขอย้ำที่สักครู่ได้บอกไปแล้วว่า การเสียเงิน 3 ครั้ง กับการเสียเงินครั้งเดียว แต่ได้ของดี ๆ มา อันไหนมันดีกว่ากัน เท่านั้นแหละครับ