แสงสีฟ้า ( Blue Light ) คืออะไร อันตรายไหม ป้องกันอย่างไร

แสงสีฟ้า (Blue Light) คืออะไร

แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ที่เราใช้งานทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว แต่น้อยคนนักที่จะตระหนักถึงอันตรายจากแสงสีฟ้าจนดวงตาเสื่อมสภาพการมองเห็นก่อนวัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแสงสีฟ้า ผลกระทบ และวิธีป้องกันไปพร้อมกันในบทความนี้

แสงสีฟ้า ( Blue Light ) คืออะไร

แสงสีฟ้า คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นประมาณ 400-500 นาโนเมตร สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งแยกออกมาจากรังสียูวี ( Ultra Violet ) มีทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและจากแหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น พลังงานที่สูงของแสงสีฟ้าสามารถทำลายสุขภาพดวงตาในระยะยาว

แสงสีฟ้ามาจากไหนบ้าง

แสงสีฟ้ามาจากไหนบ้าง

แสงสีฟ้าอยู่รอบตัวเรามากกว่าที่คิด ทั้งจากธรรมชาติและอุปกรณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น

  • แสงอาทิตย์ที่ผ่านชั้นบรรยากาศมีคลื่นสั้นและพลังงานสูง ทำให้ชนกับโมเลกุลของน้ำและอากาศจนกระจายทั่วฟ้า ส่งผลให้มองเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้า

  • แสงสีฟ้าจากหลอดไฟ

  • แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต โทรทัศน์ หรือโน้ตบุ๊ก

แสงสีฟ้าช่วยอะไร มีข้อดีไหม

แม้จะมีข้อเสียมากมาย แสงสีฟ้าก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น

  • ช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว

  • ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า และโรคอารมณ์ตามฤดูกาล ( SAD )

อันตรายที่เกิดขึ้นได้จากแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้าอันตรายต่อสายตาอย่างไร

ถึงแม้จะมีประโยชน์ แต่การได้รับแสงสีฟ้ามากและนานเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ดังนี้

1. โรคจอประสาทตาเสื่อม

การสัมผัสแสงสีฟ้าเป็นเวลานานอาจทำลายเซลล์ประสาทตาและเร่งการเสื่อมของจอประสาทตา โดยเฉพาะบริเวณจุดภาพชัด ( Macula ) หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะจอประสาทตาเสื่อม การมองเห็นเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ

2. ภาวะนอนไม่หลับ

แสงสีฟ้าจากหน้าจอมีผลโดยตรงต่อการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับ ดังนั้น การใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนจะยับยั้งการผลิตเมลาโทนิน ส่งผลให้นอนหลับยาก คุณภาพการนอนลดลง และอาจเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา

3. ตาล้า ตาแห้ง

การจ้องหน้าจอที่มีแสงสีฟ้าเป็นเวลานานทำให้เกิดอาการตาล้าและตาแห้ง มักพบอาการปวดตา แสบตา มองเห็นไม่ชัด และอาจนำไปสู่ภาวะผิวกระจกตาอับเสบพร้อมกับรอยแผลบนกระจกตาได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม

4. เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจก

แสงสีฟ้าที่มีพลังงานสูงสามารถทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่บริเวณเซลล์ของเลนส์แก้วตา และเกิดการเปลี่ยนแปลงของโปรตีน ทำให้เลนส์ขุ่นมัวและแข็งตัว นำไปสู่ภาวะต้อกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

5. ผิวหน้าหมองคล้ำ

นอกจากผลกระทบต่อดวงตา แสงสีฟ้ายังส่งผลต่อผิวพรรณ โดยสามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังเข้าไปกระตุ้นการเกิดเม็ดสีเมลานิน ( Melanin ) ทำให้ผิวเกิดเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ และหมองคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าที่สัมผัสกับแสงเป็นประจำ

วิธีป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า

ในเมื่อแสงสีฟ้าอยู่รอบตัวเราและหลีกเลี่ยงได้ยาก เราจึงควรหาวิธีป้องกันดวงตาจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

1. ใช้แว่นกรองแสงสีฟ้า

แว่นกรองแสงสีฟ้าถูกออกแบบมาเพื่อกรองแสงสีฟ้าโดยเฉพาะ แต่ยังคงให้การมองเห็นที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ช่วยลดอาการเมื่อยล้าตาและป้องกันผลกระทบจากแสงสีฟ้าในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม

การปรับลดความสว่างของหน้าจอ และเปลี่ยนอุณหภูมิสีให้อุ่นขึ้นช่วยลดปริมาณแสงสีฟ้าที่ส่งไปยังดวงตาได้ อุปกรณ์สมัยใหม่มักมีโหมดกลางคืน ( Night Mode ) หรือโหมดถนอมสายตา ( Eye Care ) ที่จะปรับหน้าจอให้เป็นโทนสีอุ่นโดยอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาดวงตาได้

3. ติดฟิล์มกรองแสง

สามารถติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้าบนหน้าจอโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง ฟิล์มเหล่านี้ถูกออกแบบให้กรองแสงสีฟ้าโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการมองเห็น ทั้งยังช่วยลดแสงสะท้อนและป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอ ทำให้การใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปลอดภัยมากขึ้น

4. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ

การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม จักษุแพทย์สามารถตรวจหาความผิดปกติของดวงตาที่อาจเกิดจากแสงสีฟ้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีป้องกันที่เหมาะสมกับสภาพตาของแต่ละบุคคล

สรุปบทความ

แสงสีฟ้านำมาซึ่งปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคตา ปัญหาการนอน หรือแม้แต่ผลกระทบต่อผิวพรรณ ดังนั้น ใครที่มีปัญหาสายตา และจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกวัน ควรเลือกใช้แว่นตาที่มีคุณสมบัติกรองแสงสีฟ้า อย่างเช่น แว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่มีฟังก์ชันกรองแสงด้วยเทคโนโลยีเคลือบฟิลม์ป้องกันแสงสีฟ้า ( Blue Block ) ซึ่งสามารถกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากสนใจแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ และนักทัศนมาตรด้านสายตาได้ที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เราให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นคุณภาพสูง มีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik

เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com

whatsapp : +66 81-538-4200

อีเมล : isoptik@gmail.com

คำยืนยันจากผู้ใช้

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

ผู้สร้างภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ และ ละครพรหมลิขิต ★ ★ ★ ★ ★

แว่นที่ดี สำคัญมากกับการดำเนินชีวิต ดีใจที่เจอแว่นที่ถูกใจ ก็เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ

อ่านต่อ
นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

หัวหน้าหน่วยจุลศัลยกรรมโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ★ ★ ★ ★ ★

ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกแล้ว ทำให้เหนื่อยน้อยลง มีพลังในการทำงานมากขึ้น และมีความสุขเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิต ครับ

อ่านต่อ

รวมคำยืนยันจากผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ 3 มิติ เฉพาะบุคคล อย่างยิ่งยวด สะท้านโลกา

อ่านต่อ

วิธีเดินทางมาศูนย์เเว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ISOPTIK

เลนส์แว่นตาไอซอพติก มีจำหน่ายที่
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เท่านั้น
โปรดระวังการแอบอ้าง

go to top
คุณภาพการมองเห็นมีผลกับ คุณภาพชีวิตอย่างไร ?