โดย แพทย์หญิง ณัฐธิดา นิ่มวรพันธุ์ ( จักษุแพทย์ที่ปรึกษาประจำศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก )
น้ำตาเทียม คือ สารที่ให้ความชุ่มชื้นและหล่อลื่นดวงตา ที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับน้ำตาตามธรรมชาติ สามารถช่วยบรรเทาอาการแสบตา เคืองตา รู้สึกไม่สบายตา น้ำตาไหลที่เกิดจากภาวะตาแห้งได้
น้ำตาเทียมจะประกอบไปด้วยสารหลายชนิด ได้แก่
-
สารที่ให้ความชุ่มชื้นกับดวงตา
-
สารปรับสมดุลความเป็นกรดด่างของน้ำตาเทียม
-
สารปรับสภาพความตึงตัวให้น้ำตาเทียม
-
สารกันเสีย ซึ่งจะมีเฉพาะในน้ำตาเทียมบางผลิตภัณฑ์เท่านั้น
น้ำตาเทียมมี 3 แบบ
1. น้ำตาเทียมแบบขวด
บรรจุภัณฑ์เป็นขวดใหญ่จึงสะดวกในการหยิบจับเพื่อหยอดตา ราคาถูกกว่าแบบหลอดรายวัน เมื่อเปิดใช้แล้วมีอายุ 1 เดือน แต่น้ำตาเทียมแบบขวดนั้นจะมีสารกันเสีย ทำให้มีโอกาสแพ้หรือระคายเคืองได้ และหากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน เมื่อนำมาหยอดตาจะทำให้ตาติดเชื้อได้ น้ำตาเทียมแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่มีตาแห้งเพียงเล็กน้อย หยอดน้ำตาเทียมวันละไม่เกิน 4 ครั้ง
2. น้ำตาเทียมแบบหลอด
น้ำตาเทียมแบบนี้จะไม่มีสารกันเสีย จึงสามารถหยอดได้บ่อยมากกว่าวันละ 4 ครั้ง ส่วนบรรจุภัณฑ์จะเป็นหลอดเล็กๆ จึงพกพาง่าย และการที่มีอายุใช้งานไม่เกิน 24 ชั่วโมงจึงลดโอกาสการปนเปื้อนเชื้อโรค แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าน้ำตาเทียมแบบขวด ในบางคนอาจไม่สะดวกในการหยิบจับหลอดขนาดเล็กเพื่อหยอดตา น้ำตาเทียมแบบนี้เหมาะกันคนที่ตาแห้งมาก จำเป็นต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ หรือคนที่ใส่คอนแทคเลนส์
3. น้ำตาเทียมแบบเจลหรือแบบขี้ผึ้ง
น้ำตาเทียมแบบนี้จะมีความหนืดค่อนข้างมาก จะให้ความชุ่มชื่นกับดวงตาได้นานกว่าน้ำตาเทียมแบบน้ำ จึงไม่จำเป็นต้องใช้บ่อย แต่จากความหนืดที่ค่อนข้างมาก เมื่อใช้งานอาจจะทำให้ตาพร่ามัวไปชั่วขณะ จึงมักแนะนำให้ใช้เฉพาะก่อนนอนและไม่ควรใช้หากใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากเมื่อเปิดใช้แล้วมีอายุ 1 เดือน จึงมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค หากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี น้ำตาเทียมแบบนี้เหมาะกับคนที่ตาแห้งปานกลางถึงมาก หรือคนที่ไม่มีเวลาหยอดตาบ่อยๆ
การเก็บรักษาน้ำตาเทียม
น้ำตาเทียมทุกแบบนั้นควรจะเก็บใส่บรรจุภัณฑ์เดิม ปิดฝาให้สนิท เก็บให้พ้นแสงแดด ความร้อน และไม่เปียกชื้น ในที่มีอุณหภูมิประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส
น้ำตาเทียมแบบขวดและแบบเจลหรือขี้ผึ้ง ไม่ควรใช้เกิน 1 เดือน ส่วนน้ำตาเทียมแบบหลอดนั้นควรใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย
การเลือกซื้อน้ำตาเทียม
ให้พิจารณาจากความรุนแรงของภาวะตาแห้ง หากตาแห้งมากจำเป็นต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ควรใช้แบบหลอดรายวัน เนื่องจากไม่มีสารกันเสียที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับดวงตา แต่หากไม่มีเวลาในการหยอดตาบ่อยๆ สามารถเลือกเป็นน้ำตาเทียมแบบเจล เนื่องจากให้ความชุ่มชื่นกับดวงตามากกว่าแบบน้ำ สามารถใช้เพียงวันละ 1-4 ครั้งเท่านั้น หากตาแห้งไม่มาก หยอดน้ำเทียมเพียงวันละ 4 ครั้งก็เพียงพอ สามารถเลือกเป็นน้ำตาเทียมแบบขวดก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้
หากหยอดน้ำตาเทียมแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น เปลือกตาบวม ตาแดง คันตา น้ำตาไหล ตามัวมากขึ้น แนะนำให้หยุดหยอดน้ำตาเทียมและพบจักษุแพทย์โดยเร็ว