คุยข่าว 10 โมง : ISOPTIK ตอน 1

พิธีกร ชาย : ท่านผู้ชมครับ ในช่วงคุยข่าวชวนคุยวันนี้ได้เวลามาปรับโฟกัสสายตาให้ชัดขึ้นแล้ว อย่างที่บอกครับว่าวันนี้ตัวจริงเสียงจริง ของผู้ที่ขึ้นปกหนังสือเล่มนี้ มาอยู่กับเราในห้องส่งแล้วนะครับ ที่จะมาเติมเต็มความชัดเจนให้กับดวงตาของคุณครับ

พิธีกร หญิง : ใช่แล้วค่ะ ต้องบอกว่าเป็นมาสเตอร์ เป็นปรมาจารย์โบบิ เป็นผู้เชี่ยวชาญการวัดสายตาประกอบแว่นระดับไฮเอนด์ จะมาพูดคุย แบ่งปันวิธีการดูแลสุขภาพสายตาของคุณ สามารถ SMS มาถามสดๆได้เลยนะค่ะที่ 4221424 ต้องขอต้อนรับ คุณสมบูรณ์ เชาวนโกศน หรือว่ามาสเตอร์โบบิค่ะ สวัสดีค่ะ

พิธีกร ชาย : ถือว่าอาจารย์คิวทองมากๆเลยครับ เพราะทุกๆวันหลายๆคน จะรอพบอาจารย์ แต่วันนี้อาจารย์มาพบคุณผู้ชมถึงรายการคุยข่าว 10 โมงเลยครับ ก่อนอื่นต้องถามก่อนครับ เรื่องของดวงตาของเรา ยิ่งอายุมากขึ้น การมองเห็นก็ยิ่งลดน้อยลง จริงๆแล้วเรามีวิธีดูแลดวงตาของเราบ้าง ให้แบบชัดไปได้นานๆ มีวิธีไหน ครับอาจารย์

ปรมาจารย์โบบิ : เรื่องของสุขภาพสายตาเริ่มต้นจาก โภชนาการก่อนเลย หลักการง่ายๆก็คือ ทานอาหารให้หลากหลาย แต่อย่าทานหนักอย่างใดอย่างหนึ่ง หลังอาหารทุกมื้อก็แค่ทานผลไม้ ส่วนน้ำ หลีกเลี้ยงน้ำเย็นกว่าอุณหภูมิร่างกาย ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องดีที่สุดครับ

พิธีกร ชาย : เห็นเค้าบอกว่าเวลาดูแลดวงตาของคนเรา สามารถดูแลได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาเลยเหรอครับ

ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ จริงๆแล้วเด็กเค้าเริ่มรับรู้เรื่องของแสงตั้งอยู่อยู่ในท้องแม่ การกระตุ้นให้เด็กมีการรับรู้เรื่องของภาพ เราสามารถใช้ไฟฉายช่วยได้ ลองปรึกษากุมารแพทย์ดูเค้าจะบอกได้

พิธีกร ชาย : ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีนะครับ เพราะฉนั้นเราต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน สิ่งที่จะเข้ามาสู่ร่างกายของเราให้ดี เราก็จะมีการมองเห็นที่ยั่งยืนขึ้น กินผักบุ้งเยอะๆ จะได้เห็นชัดๆ

พิธีกร หญิง : อย่างยุคนี้ไม่ต้องรอให้แก่นะค่ะ คนวัยรุ่น วัยทำงาน สายตามันก็เสื่อมไปได้ ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิต แล้วมีคนมาหาคุณหมอเยอะไหมค่ะ ที่ไอซอพติก

ปรมาจารย์โบบิ : คืออย่างนี้ครับ ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เราจะมีจักษุแพทย์ ด็อกเตอร์ทางด้านสายตาประจำในการดูแลตรงนี้ ส่วนในเรื่องของการดูแลสุขภาพสายตา เบื้องต้นเลย ชีวิตของเราปัจจุบันเรานอนดึก ตื่นสาย นอนไม่เป็นเวลา ทานอาหารไม่เป็นเวลา และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เดี๋ยวนี้สบายมากคือ เวลาดูทีวีจะมีรีโมท กดอย่างเดียว ไม่เดิน บรรไดก็ไม่ได้ขึ้น เพราะมีบรรไดเลื่อน ลิฟท์ ชีวิตการเดินแทบไม่มี ใช้รถยนต์ตลอด ตรงนี้คือข้อเสีย บวกกับใช้คอมพิวเตอร์เยอะ ต้องเข้าใจ ว่าจอคอมพิวเตอร์กับกระดาษ ต่างกันมาก การอ่านเราใช้สายตาน้อยกว่าที่ใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ 10 เท่า เพราะจอมันจะมีแสง ดังนั้นกลุ่มที่ใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เยอะจะมีแนวโน้มเกิดอาการสายตาล้า หรือสายตาแก่ก่อนวัยได้ง่าย แต่ของคุณลีซ่า นี้คงอีกนานครับ ดูจากหน้าตาแล้วอีกประมาณ 20 ปี ส่วนของคุณน่าจะประมาณ 15 ปี ครับ

พิธีกร ชาย : เห็นเค้าบอกว่าอายุใกล้ 40 ปี ภาวะเสี่ยงยิ่งเยอะ อย่างผมนี้ภาวะเสี่ยงเยอะนะ ต้องดูแลเป็นพิเศษ

พิธีกร หญิง : มีอาการหนึ่ง อาการสายตายาวระยะใกล้ ที่คนเป็นกันเยอะแยะ ให้อธิบายนิดหนึ่งได้ไหมค่ะอาจารย์

ปรมาจารย์โบบิ : อาการสายตายาวระยะใกล้ เกิดขึ้นในวัยประมาณ 38-40 ปี ที่จะเริ่มเป็น เริ่มต้นตั้งแต่ เวลาดูหนังสือ จะไม่ชัด ต้องยืดออกไปนิดหนึ่ง ต้องหาเหลี่ยมแสง หามุมในการอ่าน แล้วใช้วิธีเพ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ความสามารถในการเพ่งตรงนี้ มันจะลดลงตามวัย เวลาเราเป็นเด็ก อายุ 20 ปี ก็จะมองตำแหน่งปกติได้ แต่พอ 25 30 35 40 ปี จะต้องมองออกไปเรื่อยๆถึงจะมองเห็นได้ชัด

พิธีกร ชาย : นี้เป็นแนวคิดหนึ่งหรือเปล่าครับที่อาจารย์ตั้งปณิธานไว้ว่า ผมจะพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า คนไทยตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีพไฮเอนด์ได้ดีที่สุดในโลก ด้วยจุดประสงค์นี้ ให้มองเห็นชัดขึ้น

ปรมาจารย์โบบิ : ให้ชัดขึ้น สบายขึ้น และมีพลังวัยหนุ่มคืนมาใหม่ เหมือนว่าเค้าได้กลับไปอายุ 30 ปี หรือ 20 ปี แม้ว่าเค้าตอนนั้นจะอายุ 40-60 ปี แล้วก็ตาม แล้วคนเราวัยอายุ 60-80 ปี สมองไม่ได้มีปัญหา กล้ามเนื้อ และทุกอย่างยัง ok เสียแค่เรื่องตาอย่างเดียว ถ้าแก้เรื่องตาได้ เราสามารถทำให้คนอายุ 60-80 ปี สามารถทำงานได้เหมือนวัย 40-60 ปี เหมือนย้อนเวลาได้ 30 ปี

พิธีกร หญิง : เลนส์แว่นมันเปลี่ยนชีวิตคนได้จริงไหมค่ะ เทียบกับแว่นตามท้องตลาดทั่วไป ที่เราซื้อเพื่อมาอ่านหนังสือ มันต่างกันยังไงค่ะ

ปรมาจารย์โบบิ : ต้องเข้าใจก่อนว่า เรามองด้วยตา แต่เห็นด้วยสมอง ถ้าการมองภาพของเราไม่ชัด สมองส่วนการมองเห็นที่แปลงสัญญาณภาพเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อให้สมองรับรู้ได้ ต้องทำงานหนัก จะทำงานหนักขึ้นๆเพื่อปรับภาพให้ได้ ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหา คือตาข้างหนึ่ง ชัดอีกข้างหนึ่ง พวกนี้จะมีปัญหามากกว่าคนทั่วไป เพราะภาพข้างหนึ่งชัด ข้างหนึ่งไม่ชัด สมองต้องมาปรับบาลานซ์ให้ได้ พอสมองทำงานด้านการมองเห็นด้านแปลสัญญาณภาพมากเกินไป ความสามารถในการทำงานด้ายอื่นๆก็จะลดลง แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนในวัย 40 ก็คือ เค้าจะเริ่มรู้สึกว่า ชั่วโมงการทำงานที่ 4-8 เค้าจะล้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะเกิดอาการที่ ( ไม่อยากใช้คำนี้แต่จริงๆ ต้องขออนุญาตินะครับถ้าหากคำพูดนี้อาจแรงไป ) มีอาการฉลาดตอนเช้า โง่ตอนบ่าย

พิธีกร ชาย : แล้วถ้าเกิดมีภาวะเสี่ยงแบบนี้แล้ว ฉลาดตอนเช้า โง่ตอนบ่าย มีเลนส์อะไร ยังไงที่แก้ได้ไหมครับ

ปรมาจารย์โบบิ : วิธีแก้ก็คือ เราจะต้องทำให้ความสามารถในการมองเห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที ซึ่งเราทำได้ตอนวัยหนุ่มสาวเหมือนตอนอายุ 20 ปี ให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อก่อนเรามองตรงไหนก็ชัด ภายใน 1 วินาทีแล้วสบายด้วย ส่วนตอนนี้ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แล้วกว่าจะชัดทุกระยะ จะต้องเกร็ง ต้องฝืน

พิธีกร ชาย : แล้วเครื่องไม้เครื่องมือ ที่อาจารย์เอามา ขอดูนิดหนึ่งได้ไหมครับ อันนี้คืออะไรครับ

ปรมาจารย์โบบิ : อันนี้เป็นตัวอย่างของแว่นตาโปเกรสซีพครับ

พิธีกร ชาย : มันต่างจากทั่วไปใช่ไหมครับ เห็นการทำเลนส์ ดูตัวอย่างจากขั้นตอนการทำเมื่อสักครู กว่าจะทำออกมาได้แต่ละคน ใช้เวลานานพอสมควร และเฉพาะบุคคลเท่านั้น

ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ ในแต่ละชิ้นของเลนส์ มีกำลังเลนส์แปรผันต่างกัน 42,600 ล้านจุด ในแต่ละจุดมีกำลังเลนส์ไม่เท่ากัน เพื่อจะทำให้คนในวัย 40-80 ปี สามารถมองเห็นชัดทุกระยะได้ โดยการใช้กำลังเลนส์ที่เหมาะสมกับแต่ละระยะ เพื่อทำให้คนๆนั้นกลับมาเห็นชัดได้ทุกระยะ ให้รู้สึกสบาย

พิธีกร ชาย : เพราะฉนั้น ตอนนี้ก็สามารถเป็นหนุ่ม เป็นสาวขึ้นได้ ส่วนขั้นตอนในการตรวจ ก็ค่อนข้างละเอียดนะครับ จากที่ผมดูเมื่อสักครู่นี้ ก็มีเครื่องมือที่ทันสมัยเลย หลายๆคนที่สนใจ ส่ง SMS มา แล้วจะสามารถไปพบอาจารย์ ได้เลยไหม ที่ไหนยังไงครับ

ปรมาจารย์โบบิ : สามารถไปได้ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกครับ ตรงตึกเอรวัณแบ้งค็อก 4 แยกราชประสงค์ครับ ถ้าไม่สะดวกไปพบ ก็สามารถโทรมาหาผม เบอร์มือถือได้โดยตรงเลยครับที่ 081-5384200

พิธีกร หญิง : สายด่วนโทรมาได้เลยค่ะ ส่วนคำถามที่ส่งมา สายด่วนนี้เลยค่ะ ตอนนี้มีทีมงานรอรับอยู่แล้วค่ะ

พิธีกร ชาย : หลายๆคนที่มีปัญหาตรงนี้ ให้ฝากนิดหนึ่ง เรื่องของการดูแล ว่าทำยังไงให้มันยั่งยืนยาวนาน ในการดูแลสายตาของเรา

ปรมาจารย์โบบิ : เรื่องการดูแลสุขภาพสายตา วิธีที่ง่ายที่สุด แนะนำว่า ทุกๆวันตอนไหนก็ได้ที่สะดวก ปิดตาข้างหนึ่ง แล้วมองอีกข้างหนึ่งดูว่าตาเรา OK ไหม กับอีกข้างหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่า ตาสองข้างของท่าน การมองเห็นมันไม่ต่างกันเยอะ ถ้าหากว่าเห็นชัดทั้งสองตา แล้วอยู่ๆมาเช้าวันหนึ่ง ข้างหนึ่งชัด ข้างหนึ่งไม่ชัด รีบไปหาจักษุแพทย์ทันทีครับ

พิธีกร ชาย : เพราะฉนั้นเป็นการเตือนท่านผู้ชมด้วยนะครับ เสียดายมีเวลาจำกัด โทรไปก็แล้วกันนะครับ ขอบคุณปรมาจารย์โบบิเป็นอย่างยิ่งครับ

ปรมาจารย์โบบิ : ยินดีครับ