ทำไมศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกจึงเป็นแห่งเดียวในโลก ที่สามารถสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ ได้เป็นผลสำเร็จ เป็นแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ดีที่สุดในโลก ใส่สบายที่สุดในโลก ให้ภาพคมชัดในทุกเสี้ยววินาที เหมือนกับได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง เพิ่มพลังสมองได้อย่างก้าวกระโดด เหมือนกับไม่ได้ใส่แว่นอยู่
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้คิดค้น พัฒนาแว่นตาโปรเกรสซีฟเป็นเทคโนโลยีของตัวเอง ซึ่งจะไม่มีจำหน่ายในที่ใด ๆ ในโลก นอกจากที่ไอซอพติก เป็นเลนส์ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง ตามพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคน ตามลักษณะของการมองเห็น ความสามารถในการมองเห็น ตามการทำงานร่วมกันของตาทั้ง 2 ข้างที่จะต้องทำงานประสานร่วมกันในการมองไปทางขวา - ซ้าย มองสูง - ต่ำ ก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ให้ภาพคมชัดสมจริง และรู้สึกสบายอย่างที่สุด
หลายคนคงไม่เข้าใจว่าทำไมเลนส์แว่นตาคู่ละ 500,000 บาท ของไอซอพติกถึงขายได้ ทำไมถึงมีคนกล้าจ่าย แล้วลูกค้าเป็นใคร ?
คนที่ซื้อรถยนต์คันละ 500,000 บาท ก็คือลูกค้าที่กล้าซื้อเลนส์คู่ละ 500,000 บาทใส่ ประหลาดใจหรือไม่ครับ แต่คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังไม่กล้าที่จะซื้อแว่นตาที่ราคาคู่ละ 1 แสนบาท หรือ หลายแสนบาท ให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่จะคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงในการใช้งาน เพราะว่าโดยหลักการแล้ว ส่วนใหญ่คนที่มีรถราคาคันละหลายล้านบาท โดยวันนึงเราใช้รถยนต์เฉลี่ยวันละ 5 ชั่วโมง ขณะที่เราจะต้องใช้สายตาอยู่ตลอดทั้งวัน วันนึงอย่างน้อย 15 ชั่วโมง สังเกตหรือไม่ครับ 15 กับ 5 ต่างกันถึง 3 เท่า แต่เรากล้าที่จะจ่ายเงินหลายล้านบาท เพื่อจะซื้อรถยนต์ราคาแพงมาใช้งาน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องความปลอดภัย สมรรถนะ ความหรูหรา ความสะดวกสบาย เป็นความสุขที่เราจ่ายได้ แต่พอกับตาเราเอง ซึ่งเราจะต้องใช้สายตาตลอดทั้งวัน ใช้สมองทั้งวัน เรากลับไม่ยอมที่จะจ่ายเงินหลักแสน เพื่อที่จะซื้อแว่นดี ๆ ใส่ แต่เรากลับซื้อแว่นหลักหมื่นใส่ ซึ่งเรารู้สึกว่าเราไม่อยากจะจ่ายเงินกับแว่น นั่นคือความเข้าใจที่ไม่ได้ผิดพลาดแต่ประการใด
เมื่อเราซื้อแว่นมาใส่ แว่นที่ช่วยให้เรามองเห็นชัดขึ้น หรือ ทำให้มองเห็น ราคา 30,000 บาท ถือว่าแพง แต่ถ้าเป็นแว่นที่เพิ่มพลังสมองได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้สามารถทำงานได้มากขึ้น หาเงินได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น สนุกสนานกับการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง ถ้าคุณซื้อคุณภาพการมองเห็น ซื้อคุณภาพการทำงานของสมองอย่าว่าแต่ 30,000 เลยครับ ราคา 300,000 บาท ผมยังคิดว่าถูกมาก และที่ไอซอพติกเราไม่ได้ขายแว่น แต่เราขายคุณภาพการมองเห็น เราขายคุณภาพชีวิต เราขายความสบาย เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ ที่ใส่สบายที่สุด ใส่แล้วรวย ใส่แล้วทำมาหากินได้ดีขึ้น ทำงานได้มากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง นี่คือแว่นของไอซอพติก เป็นแว่นที่ฉีกข้อจำกัดของเลนส์แว่นตาแบบเดิม ๆ สาเหตุที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเราเป็นที่เดียวในโลกที่ทำแว่นโปรเกรสซีฟระบบอัลตร้า เพราะว่าเรามีลิขสิทธิ์ มีความรู้โดยเฉพาะ ถ้าถามว่าที่อื่นทำได้หรือไม่ ทำได้ครับ ถ้าเขายอมเสียเวลาหลายสิบปี เพื่อคิด ค้นคว้า พัฒนา ลงทุนมหาศาล และใช้เวลาสร้างแว่นที่มีต้นทุนสูงกว่าแว่นโปรเกรสซีฟราคาแพง เทคโนโลยีอื่น เพียงแต่ว่าในโลกนี้เคยมีคนที่จะพยายามทำ แล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จ ทำไม เพราะว่าแว่นโปรเกรสซีฟ ถ้ากระบวนการวิเคราะห์ผิดพลาด ประสิทธิภาพของเลนส์หลักแสน ก็จะทำงานได้เหมือนกับเลนส์คู่ละหลักหมื่น
ที่ไอซอพติกเราเป็นที่เดียวในโลกที่ทำ และที่เราทำอยู่เพราะว่าเรามีใจรัก เพราะแว่นโปรเกรสซีฟในราคาคู่ละหลายแสนบาท กำไรของเราน้อยมาก ถ้าเทียบกับการทำแว่นแบบธรรมดา เนื่องจาก 1 อัน ใช้เวลาตรวจวัด 3 ชั่วโมง และใช้เวลาในการผลิต ออกแบบ สร้าง ควบคุมคุณภาพ ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นแว่น 1 อัน จะใช้เวลาถึง 2 เดือน ลูกค้าก็ต้องคอย เราเองก็ต้องทำงานกันหนัก เพื่อให้แว่นตาออกมามีคุณภาพดีที่สุด ใช้ประสิทธิภาพได้เต็ม 100 %
ดังนั้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกจึงเป็นที่เดียวในโลกที่สร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เพียงที่เดียวในโลก ตอนนี้เรามีเลนส์รุ่นใหม่ครับ เป็นเลนส์รุ่น Ultra Individual Super Personal เป็นเลนส์ที่รวมสุดยอดของเทคโนโลยีมาไว้บนเลนส์อันเดียว ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติที่รวมแสงให้ภาพคมชัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และสามารถออกแบบเลนส์ได้ละเอียดกว่าเดิมถึง 1 ล้านเท่า และสามารถที่จะทำให้ผิวเลนส์ป้องกันรังสี UV รังสีอินฟราเรด รังสีที่เป็นอันตรายต่อดวงตาทุกชนิดได้ในเลนส์คู่เดียว ยังรวมถึงการเคลือบผิวแบบป้องกันสิ่งสกปรกจับ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากเยอรมนี ทำให้เลนส์สกปรกยากขึ้น ทำความสะอาดง่ายขึ้น ซึ่งเลนส์ดังกล่าว จะต้องใช้กระบวนการประกอบ การฝน การตัดเลนส์ ด้วยวิธีพิเศษเท่านั้น ในสุดยอดเทคโนโลยีดังกล่าวยังมีเทคโนโลยีของการรวมแสง ทำให้เลนส์ทำงานได้ดีแม้แต่ในสภาวะแสงน้อย ให้ภาพคมชัด สีสันสมจริงขึ้น และเราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้แว่นตาที่ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้