ตอนอายุ 7 ขวบ ผมฝันเห็นคนแต่งตัวภูมิฐานหลายหมื่นคน นั่งเครื่องบิน มาจากทั่วโลก เพื่อมาทำแว่นกับผม เพราะผมทำแว่นได้ดีที่สุดในโลก เมื่อผมตื่นขึ้นมา ก็วิ่งไปเล่าความฝันให้คุณพ่อฟัง ท่านยิ้มแล้วพูดว่า " ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง " ผมจึงมุ่งมั่นอยู่กับการทำแว่นสายตาให้ดีที่สุดในโลก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากทุ่มเทเวลาหลายสิบปีกับการอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้า ศึกษา ค้นคว้า หาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านแว่นสายตาจากทั่วโลก แล้วนำมาต่อยอดพัฒนา ในที่สุด ก็สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ ของการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ที่ตรวจวัด ออกแบบ ผลิต ประกอบ อย่างเฉพาะเจาะจง สำหรับผู้ใช้แว่นสายตาแต่ละคน ได้แว่นสายตาที่ให้คุณภาพการมองเห็นคมชัด สมจริง ทุกระยะในเสี้ยววินาที และใส่สบาย
ผมสามารถสร้างสถิติจำหน่ายเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ เป็นอันดับต้น ๆ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี จนได้รับเชิญให้สอนเรื่องการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อขั้นสูงแบบทวีคูณ ทั้งในเอเชียและยุโรป ที่เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้ทันที เพิ่มคุณภาพการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟได้หลายเท่า ภายในวันรุ่งขึ้น จนที่มีชื่อเสียงว่า " คนไทย ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อระดับไฮเอนด์ ได้ดี"
พระเจ้าทรงนำผมให้เปิด ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการตรวจวัดสายตา ออกแบบ ประกอบแว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ให้คุณภาพการมองเห็นคมชัด สมจริง ทุกระยะ ใส่สบาย มีพลังเพิ่มขึ้น ทำงานได้มากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง ใส่แล้วสนุกกับการทำงาน มีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น เหมือนวัยหนุ่มสาว จนมีลูกค้าจากทั่วโลกเดินทางมาใช้บริการเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เหมือนภาพนิมิตที่แจ่มชัดเมื่อเกือบสี่สิบกว่าปีก่อน
ผมเชื่อว่า คนไทยถ้าลองตั้งใจทำอะไรแล้ว เราผลิตสินค้า และให้บริการ ที่มีคุณภาพสู้ทั้งโลกได้ เพียงแต่ขาดการสนับสนุน และขาดการส่งเสริม แต่ผมเชื่อว่าคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก และผมก็ภูมิใจที่ได้พิสูจน์ให้โลกรู้ว่า คนไทยทำแว่นได้ดี
ผมขอส่งพลังแห่งความเชื่อนี้ไปถึงทุกท่าน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ผมอยากจะให้ลุกขึ้นมามีความฝันจะเป็นผู้ประกอบการระดับโลก อยากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทั้งโลกยอมรับ
สิ่งแรกที่ต้องเริ่ม และยึดไว้ในใจเลย คือ ต้องมีความเชื่อ ถ้าสำหรับคนที่เชื่อพระเจ้าก็จะง่าย เพราะว่าเราจะเชื่อว่า เรามีพระเจ้า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ เราจะกล้าทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า ผมแนะนำให้ตั้งจิตอธิษฐานต่อพระเจ้าผู้สูงสุด และจงเชื่อมั่นในพลังของตนเอง จงเชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์แต่ละคนอย่างมีวัตถุประสงค์ และมีศักยภาพ
ดังนั้นเรื่องแรกเลย คือ ต้องเชื่อมั่นในตัวเองก่อน ต้องเลิกคิดว่าฉันทำไม่ได้ เลิกคิดลบ พยายามคิดบวก ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง และมีความฝัน ถึงแม้ว่าการค้นหาตัวเองให้พบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมแนะนำสั้นๆ ง่ายๆ ว่า ถ้าอยากจะหาตัวเองให้เจอ แล้วเราไม่รู้ว่าเราชอบทำอะไร อยากทำอะไร หรือเราทำอะไรได้ดี ผมแนะนำให้ทำทุกอย่าง เพื่อให้รู้ว่าอะไรที่เราหลงใหล อะไรที่เราทำแล้วมีความสุข ทำแล้วเราทำออกมาได้ดีกว่าคนอื่น ทำออกมาแล้วดีขึ้นเรื่อย ๆ จนลืมวัน ลืมคืน ลืมเวลา เราจะขลุกอยู่กับมันได้ โดยไม่คิดว่ามันเป็นงาน นั่นคือสิ่งที่ เป็นตัวตนที่แท้จริง
ถ้าเกิดเราทำอะไรก็ตาม เราแค่ตั้งใจว่าทำให้ดีขึ้นทุกวันแค่นั้น เวลาอาจจะผ่านไปเป็นปี 10 ปี หรืออาจจะหลายสิบปี เพียงตื่นขึ้นมาเช้าวันหนึ่ง จะพบว่าเรากลายเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในโลกไปแล้ว ให้ตั้งเป้าไว้เลยว่า พรุ่งนี้เราต้องทำให้ดีกว่าวันนี้ี้
ทุกคนทำได้ถ้ามีความเชื่อ ต้องเชื่อในตัวเอง ต้องคิดใหญ่ อย่าไปคิดเล็ก แล้วเวลาเราคิด เรามีความฝัน เราอย่าไปฟังคนที่คอยดับฝันเรา ผมขอร้องพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่าดับความฝันของลูก ผมเข้าใจว่าหลายครอบครัว อยากจะให้ลูกเป็นหมอ ผมเข้าใจว่าหลายครอบครัวอยากจะให้ลูกมีอาชีพหน้าที่ การงานที่ดี แต่ความสุขของลูกคืออะไร คนแต่ละคนจะมีความสุขในชีวิตได้ เขาต้องได้ทำในสิ่งที่เขารัก และชอบ
เพราะฉะนั้น ถ้าลูกมีความฝัน พ่อแม่อย่าไปดับความฝันของลูก แต่คอยสังเกต และส่งเสริมเขา อธิบายง่ายๆ ถ้าคิดจะเป็นคนที่ผัดผักบุ้งไฟแดงได้อร่อยที่สุดในโลก ผมรับรองเลยว่า คนคนนั้นจะเป็นเศรษฐี เพราะคนทั่วโลกจะเดินทางมาทานผักบุ้งไฟแดงกับคนที่ผัดได้อร่อยที่สุดในโลก จะขายจานละ 100 บาท 500 บาท หรือจานละ 1,000 บาท ผมบอกเลยว่า มีคนกล้ากิน เพราะสิ่งที่สำคัญคือมันอร่อยที่สุดในโลก และมันอร่อยขึ้นทุกวัน ถ้าอย่างนั้นผมเชื่อว่ารุ่งอย่างแน่นอน
VDO รายการ Lightning Talk โดย คุณ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง
ตอน " วิสัยทัศน์และศรัทธา สู่ธุรกิจแว่นสายตาระดับโลก "