คนเรามองดูด้วยตา แต่มองเห็นด้วยสมอง

isoptik

มนุษย์เรา มองดูด้วยตา แต่มองเห็นด้วยสมอง

การมองเห็นภาพคมชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติ รู้สึกสบาย คือ ความสามารถในการมองเห็นของวัยหนุ่มสาว แต่เราเริ่มสูญเสียความสามารถนี้ไปตั้งแต่วัย 40 ทำให้ประสิทธิ์ภาพในการทำงานของสมอง ลดลงอย่างรวดเร็ว เหนื่อยล้าง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องฝืนเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกัน วันละหลายชั่วโมงหรือต้องอ่านเอกสารจำนวนมาก ติดต่อกันตลอดทั้งวัน อาการเหล่านี้เกิดจากความสามารถในการเพ่งลดลงตามวัย จนไม่สามารถใช้สมองฝืนเพ่ง โฟกัสภาพได้คมชัดอย่างสบายตา ที่ระยะอ่านหนังสือปกติได้อีกต่อไป ต้องยืดระยะห่างออกไป หรือเพิ่มแสงสว่างมากกว่าปกติ เรียกว่าอาการสายตายาวตามอายุ

isoptik

แว่นสายตาชั้นเดียว เป็นเทคโนโลยีที่เริ่มมีใช้กันเมื่อ 700 กว่าปีก่อน ในการแก้ไขอาการสายตายาวตามอายุ แม้จะช่วยให้มองภาพระยะใกล้ได้ชัดขึ้นบ้าง แต่มีผลทำให้ความสามารถในการเพ่ง ลดลงเร็วกว่าวัยอันควร เนื่องจากในชีวิตประจำวัน เมื่อสวมแว่นอ่านหนังสือแล้วเผลอมองไกลกว่าจุดโฟกัสของกำลังเลนส์ ทำให้ระบบการมองเห็น พยายามปรับให้เข้ากับระยะโฟกัสที่ไกลกว่าจุดโฟกัสของเลนส์ เป็นผลให้ต้องเพิ่มกำลังเลนส์แว่นตามองใกล้ให้มากขึ้นเร็วกว่าปกติทุกปี

isoptik

นอกจากนี้ ยังต้องคอยถอดออกหรือมองลอดแว่น เมื่อมองไกล ทำให้เสียบุคลิกภาพ ไม่สะดวกในการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีอาการสายตายาวตามอายุ ที่มีสายตาสั้น หรือสายตายาว หรือสายตาเอียงระยะไกลร่วมด้วย ทำให้ต้องใช้แว่นสายตาสองอัน หรือสามอัน ถอดเข้า ถอดออก สลับใส่ไปมา เมื่อมองไกล มองกลางหรือมองใกล้ ต้องใช้วิธีคาดแว่นอันหนึ่งไว้บนหัว อีกอันหนึ่งห้อยไว้ที่คอ อีกอันหนึ่งใส่ไว้บนหน้า ทำให้เสียบุคลิกภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนักธุรกิจหรือผู้บริหาร

isoptik

เบนจามิน แฟรงคลิน นักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้ชื่อว่าเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดแว่นสายตาชนิดสองชั้นเมื่อ 200 กว่าปีก่อน เนื่องจากเขามีอาการสายตายาวในระยะไกล ทำให้ต้องใส่แว่นสายตายาวสำหรับมองไกลตั้งแต่อายุ 20 แต่เมื่อเขาอายุได้สี่สิบ ก็เริ่มมีอาการสายตายาวตามอายุ จึงต้องมีแว่นสายตาสำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะอีกอันหนึ่ง หลังจากใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับการพกแว่นสายตาสองอัน ถอดใส่สลับกันเมื่อมองไกลหรือมองใกล้อยู่หลายปี เขารู้สึกไม่สะดวกเป็นอย่างยิ่ง จึงออกแบบแว่นตาสองชั้นด้วยการใช้เลนส์สายตายาวระยะไกลชิ้นหนึ่ง ฝนเป็นครึ่งวงกลมยึดติดกับด้านบนของกรอบแว่น แล้วใช้เลนส์สายตายาวตามอายุอีกชิ้นหนึ่งยึดติดกับด้านล่างของกรอบแว่น ทำให้เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกลด้วยการมองผ่านเลนส์ชิ้นบน และอ่านหนังสือได้ชัดเจนด้วยการมองผ่านเลนส์ชิ้นล่าง ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีแว่นตาที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น และยังคงมีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายตามร้านแว่นตาราคาแพงและราคาถูก ตลอดระยะเวลา 200 ปี มาจนถึงทุกวันนี้ ( ยกเว้นที่ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ที่ไม่จำหน่ายเลนส์สองชั้น )

isoptik

แว่นตาแบบสองชั้น แม้จะช่วยให้มองภาพระยะใกล้ และระยะไกลได้ แต่ระยะกลางที่มองจอคอมพิวเตอร์จะมัว ทำให้ผู้ใช้ ต้องแหงนหน้าเข้าไปใกล้แล้วมองผ่านเลนส์อ่านหนังสือด้านล่างหรือถอยออกห่างแล้วมองด้วยเลนส์มองไกลด้านบน จึงมีการพัฒนาต่อเป็นเลนส์แว่นตาแบบสามชั้น ให้มีชั้นกลางสำหรับมองในระยะสุดปลายมือ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว แต่เลนส์แว่นตาแบบสองชั้นและสามชั้น นอกจากแลดูไม่สวยงามแล้ว ยังคงมีปัญหาเรื่องตำแหน่งของภาพกระโดดไปกระโดดมา และไม่สามารถแก้ปัญหาความสามารถในการเพ่ง ลดลงเร็วกว่าวัยอันควรได้อย่างแท้จริง เมื่อเปลี่ยนระยะการมองอย่างรวดเร็ว ยังรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ หาระยะชัดได้ช้า และใส่ไม่สบาย

isoptik

ตลอดระยะเวลา 200 ปี จนถึงปัจจุบันนี้ ยังมีผู้ใช้แว่นตาจำนวนมาก ไม่สามารถปรับตัวเข้าหาเลนส์แว่นตาสองชั้นหรือสามชั้นได้เลย โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินบนพื้นต่างระดับเช่น บันไดหรือพื้นที่ลาดชัน หรือขึ้นลงยานพาหนะ ในแต่ปีมีผู้เริ่มใช้เลนส์แว่นตาสองชั้น และสามชั้นเป็นครั้งแรกหลายหมื่นราย เผลอมองพื้นด้วยเลนส์สำหรับอ่านหนังสือ ทำให้กะระยะผิดพลาด เป็นเหตุให้ลื่นหกล้มจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนถึงขั้นพิการ เป็นจำนวนมาก จึงมีการพัฒนาเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อ เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ที่มองเห็นชัด และสบายตามากขึ้นในทุกระยะ และถนอมสายตาได้ดีกว่า

isoptik

แต่เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นแบบสำเร็จรูป และกึ่งสำเร็จรูป ที่มีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ยังใช้รากฐานเทคโนโลยีของเลนส์โปรเกรสซีฟเมื่อเกือบ 100 ปีก่อน ที่ให้ความคมชัดต่ำ จนต้องฝืนเพ่งอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกไม่สบายตา ถูกรบกวนจากภาพบิดเบี้ยวด้านข้างสูงมากอยู่ตลอดเวลา จนปรับตัวยาก การเปลี่ยนแปลงกำลังเลนส์จากระยะไกลมาระยะใกล้ไม่นุ่มนวล โฟกัสภาพได้ช้า ใส่ไม่สบาย ในแต่ละปีมีผู้ใช้จำนวนมากเสียเงินเปล่า ครั้งละ 50,000 บาท หลายครั้ง ซื้อเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นเหล่านี้ ที่ไม่เคยสามารถใช้งานได้จริง และไม่ได้มีการรับประกันคุณภาพที่ชัดเจนจากบริษัทผู้ผลิตเลนส์ยักษ์ใหญ่แต่อย่างใด ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้ใช้แว่นตาเป็นอย่างยิ่ง

isoptik

ไอซอพติก เป็นศูนย์ออกแบบเลนส์แว่นตาความคมชัดสูง เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกเทคโนโลยใหม่ ด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติ มีความละเอียดถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ออกแบบ ผลิตเลนส์แว่นตา และกรอบแว่นแต่ละอัน อย่างเฉพาะเจาะจง ตามลักษณะการใช้สายตาที่แตกต่างกันของผู้ใช้แต่ละท่าน ใส่สบาย ปรับตัวง่าย มุมมองกว้าง หาระยะชัดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมองได้อย่างก้าวกระโดดเหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง

isoptik

แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกทุกอันของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ได้รับการตรวจวัดออกแบบ ผลิต และประกอบ อย่างประณีตในทุกขั้นตอน ภายใต้การควบคุมคุณภาพในทุกรายละเอียด อย่างเข้มงวดที่สุด โดย ปรมาจารย์โบบิ เพื่อให้ได้แว่นสายตาคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ ที่ให้คุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ

คำยืนยันจากผู้ใช้

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

ผู้สร้างภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ และ ละครพรหมลิขิต ★ ★ ★ ★ ★

แว่นที่ดี สำคัญมากกับการดำเนินชีวิต ดีใจที่เจอแว่นที่ถูกใจ ก็เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ

อ่านต่อ
นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

หัวหน้าหน่วยจุลศัลยกรรมโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ★ ★ ★ ★ ★

ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกแล้ว ทำให้เหนื่อยน้อยลง มีพลังในการทำงานมากขึ้น และมีความสุขเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิต ครับ

อ่านต่อ

รวมคำยืนยันจากผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ 3 มิติ เฉพาะบุคคล อย่างยิ่งยวด สะท้านโลกา

อ่านต่อ

เลนส์แว่นตาไอซอพติก มีจำหน่ายที่
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เท่านั้น
โปรดระวังการแอบอ้าง

go to top
คุณภาพการมองเห็นมีผลกับ คุณภาพชีวิตอย่างไร ?