ดร. อนันต์ เจียรวงศ์
อายุ ปี
อนันต์ เจียรวงศ์ นะครับ ผมสายตาสั้นตั้งแต่เด็ก ใส่แว่นมาตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ ตอนย่างเข้า 50 สายตาสั้นมันจะอ่านระยะใกล้ไม่ได้ เป็นอยู่ 1-2 ปี เพราะว่าช่วงนั้นค่าสายตามันยังไม่นิ่ง พอหลังจากที่ระยะใกล้มันเริ่มที่จะอ่านไม่ได้นานขึ้น เลยเริ่มหาแว่นโปรเกรสซีฟ ที่ไอซอพติกรู้สึกว่าละเอียดกว่าที่อื่น มิติการวัดครบถ้วน ทั้งระยะแว่นว่าห่างจากสายตาเท่าไหร่ก็วัดด้วย ไม่รู้สึกว่าต้องปรับตัวอะไรเลย รู้สึกใส่แล้วก็เหมือนเป็นแว่นระยะเดียว ใส่ได้ตลอดเวลา ตื่นขึ้นมาก็หยิบมาใส่เลย ไม่ต้องคอยยกแว่น ถอดแว่นออกตอนดูงานระยะใกล้
ผมเริ่มมีปัญหาสายตายาวตั้งแต่อายุ 49 ปี แต่ตอนนั้นยังไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไรมาก เวลาอ่านหนังสือจะอาศัยยืดแขนให้มีระยะห่างระหว่างสายตากับหนังสือมากขึ้นกว่าเดิมแทน ซึ่งหลังจากทนอยู่ประมาณ 1 ปี ก็ได้ไปตรวจวัดสายตาดู พบว่าสายตายังมีปัญหาไม่เยอะ จึงได้รับคำแนะนำมาว่ายังไม่จำเป็นต้องตัดแว่นตาเพิ่มก็ได้ ส่วนเรื่องแว่นตานั้นเคยตัดแว่นตาชั้นเดียวกับที่อื่นมาก่อน แต่ถ้าเป็นแว่นตาโปรเกรสซีพนั้น ตัดกับทางศูนย์แว่นตาไอซอพติกเป็นที่แรก

โดยแว่นตาชั้นเดียวที่ใช้ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการใช้งาน แต่พอสายตาของผมเปลี่ยนมากขึ้น ตาของผมก็เริ่มมีอาการเกร็ง และเหนื่อยมากขึ้นเวลาทำงาน ทำให้เริ่มรู้สึกรำคาญ จึงไปตัดแว่นสายตาอีกอันหนึ่งมาใส่ คอยสลับกันใช้

หลังจากนั้นผมก็ได้มาตรวจวัดสายตาประกอบแว่นกับศูนย์แว่นตาไอซอพติก พบว่าที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติกมีบริการตรวจวัดสายตาที่ละเอียดมาก หลังจากที่ตรวจวัดเสร็จก็รอแว่นอยูระยะเวลาหนึ่ง พอได้แว่นมาใส่แล้ว ผมใช้เวลาปรับตัวไม่นาน ประมาณ 1 - 2 วัน ผมก็สามารถปรับตัวเข้ากับแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นตาไอซอพติกได้แล้ว ซึ่งผมสามารถใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอันนี้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน ถ้าถามว่าคุ้มไหมกับการที่ลงทุนมาตัดแว่นตากับศูนย์แว่นตาไอซอพติก สำหรับผม คิดว่าคุ้ม เพราะเมื่อเทียบกับแว่นตาอันเก่าแล้ว มันทำให้ผมเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
