ปัญหาสายตาของผม มันเริ่มจากที่ผมสังเกตได้ว่าเวลาผมอ่านหนังสือพิมพ์ บ่อยครั้งที่ผมต้องคอยถอดแว่นเวลาอ่านหนังสือ ช่วงแรก ๆ นั้น จะถอดแว่นตาบ้างไม่ถอดบ้าง แต่พอมาช่วงหลัง ๆ จะต้องถอดแว่นตาทุกครั้งเวลาอ่านหนังสือ ตอนนั้นและ ที่ผมรู้ตัวว่ามีปัญหาสายตายาว เพิ่มขึ้นมา ผมจึงไปร้านแว่นตา พอได้ตรวจวัดสายตาใหม่ พบว่ามีปัญหาเรื่องสายตายาวเพิ่มขึ้นมาจริง ๆ จึงลองตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟมาใส่ หลังจากที่ได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟมา วันแรกที่ได้ใส่นั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองเดินยากขึ้น เนื่องจากที่ได้ใส่แว่นตาแล้วรู้สึกเลยว่าพื้นมันนู่นขึ้นมา แต่ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะ ที่ผมยังปรับตัวเข้ากับแว่นตาโปรเกรสซีฟไม่ได้มากกว่า จึงทนใส่ต่อเนื่องมาอีกสักระยะ จนรู้สึกว่าเวลามองพื้นมันเรียบแล้ว จากนั้นปัญหาต่อมาที่เจอคือ ผมใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟ ผมจะมีอาการใส่แล้วรู้สึกไม่สบายตา เวลาที่ผมกลับบ้าน ผมต้องถอดแว่นตาออก เพราะตาผมจะเกร็ง และค่อนข้างเครียดตลอดเวลา ผมเลยรู้สึกไม่มีความสุขกับแว่นตาโปรเกรสซีฟ
หลังจากนั้นพอได้อ่านข้อความของปรมาจารย์โบบิ ในหนังสือมติชน ที่พูดถึงเรื่องแว่นตาโปรเกรสซีฟ ผมจึงเกิดความสนใจขึ้นมา ประกอบกับสมัยนั้นร้านยังอยู่ที่เอราวัณ และผมต้องไปเอราวัณอยู่เป็นประจำ เนื่องจากต้องไปส่งลูกทำกิจกรรมทุกสัปดาห์ เลยลองแวะเข้าไปคุยที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกดู พอเข้าไปครั้งแรกก็รู้สึกตกใจ ว่าทำไมร้านถึงใหญ่โตขนาดนี้ นอกจากนี้ยังมีการบริการเครื่องดื่มให้เลย ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ได้เป็นลูกค้าเลย จึงเกิดความประทับใจที่ดีต่อศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกขึ้นมา
หลังจากนั้นก็ได้ลองคุยกับ ปรมาจารย์โบบิ และดูราคาเลนส์ รู้สึกว่าราคาก็แรงเหมือนกัน แต่ ปรมาจารย์โบบิ อธิบายว่า แว่นตาของทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกนั้นมีประกันให้ด้วย ซึ่งสรุปง่าย ๆ ว่า ใส่แว่นตาอันแรกไปก่อน พอสายตาเปลี่ยนก็สามารถมาเปลี่ยนเลนส์อีกคู่ได้ฟรี พอเฉลี่ยราคาเลนส์ออกมา ราคาไม่เท่าไหร่ นอกจากนี้ภรรยาผมบอกว่า ถ้าใส่แล้วสบาย จ่ายไปเถอะ เท่าไหร่ก็จ่ายไป เพราะผมต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันวันละ 16 ชม. จะถอดแค่ตอนนอนเท่านั้น ซึ่งพอคิดออกมาแล้วก็คุ้ม ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับเตียงนอน เวลาซื้อ ก็ซื้อให้มันดีที่สุด เพราะเราใช้ชีวิตกับมันอยู่ตลอด ถ้านอนแล้วไม่สบาย เราก็จะไม่สบาย ก็เลยตัดสินใจ ลองตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟกับศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกดู
ขั้นตอนในการตรวจวัดสายตาเป็นอะไรที่ละเอียดและใช้เวลานานมาก ผมใช้เวลาอยู่ในการตรวจวัดสายตาประมาณ 2 ชม. ซึ่ง เป็นการตรวจวัดสายตาที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน พอตรวจวัดสายตาเสร็จแล้ว รอแว่นตาประมาณ 1 เดือน หลังจากที่ได้แว่นมา แล้วก็ลองใส่ทันที ครั้งแรกที่ใส่นั้น รู้สึกได้เลยว่าแว่นตามันเบาดี แต่ยังมีอาการพื้นยังนูนนิด ๆ แต่พอผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ผมก็ ชินกับแว่นตาอันใหม่นี้แล้ว แต่สิ่งที่ผมยังไม่ชินก็คือ การเหลือบตามองไปข้างๆ โดยที่ผมจะเห็นภาพเบลอ ๆ ซึ่งผมก็เข้าใจว่า มันเป็นโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ ซึ่งจะโฟกัสได้เฉพาะตรงกลาง ถ้าจะหันข้างก็จะต้องหันทั้งตัว แต่ถ้าเลนส์ที่ดีมุมองศา ความกว้างของมุมมองจะกว้างขึ้นกว่าปกติ ซึ่งผมยอมรับว่าผมใส่แว่นโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแล้วสบาย เวลา ที่ผมกลับบ้าน ผมไม่มีความรู้สึกที่อยากจะถอดแว่นตาเลย
ในส่วนของกรอบแว่น ตอนแรก ๆ นั้นกรอบแว่นไม่ค่อยพอดีกับโครงหน้าเท่าไหร่ ช่วงนั้นผมจึงไปหาปรมาจารย์โบบิ อยู่บ่อย ๆ เพื่อให้ ช่วยปรับกรอบแว่นให้เข้ากับโครงหน้า เพื่อที่จะได้ปรับแว่นตาให้ใส่แล้วรู้สึกสบายที่สุด นอกจากนี้ผมยังประทับใจ เรื่องการ รับประกันหลังการขาย ผมยังไม่เคยเจอที่ไหนดีเท่านี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น ปรมาจารย์โบบิ หรือพนักงานในร้านจะคอยดูแลลูกค้าอยู่ ตลอดเวลา ตั้งแต่คุณเริ่มเข้าไปในร้าน หรือหลังคุณจ่ายเงินเสร็จแล้ว แม้คุณกลับมาขอความช่วยเหลือภายหลัง ปรมาจารย์โบบิ กับทีม งานก็จะคอยดูแลตลอดทุกครั้ง จนกระทั้งทุกวันนี้ ผมยังรู้สึกว่าบริการดีเกินไปหรือเปล่า ซึ่งยอมรับว่าเป็นอะไรที่ผมประทับใจ มาก
พอผมตัดเลนส์คู่แรกใช้ไปนาน ๆ สายตาผมก็เปลี่ยน ซึ่งบางคนอาจคิดว่าตัดเลนส์ครั้งหนึ่งใช้ได้ตลอดชีวิต ผมว่ามันไม่ใช่ เพราะสายตาคุณเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ถ้าสายตาคุณไม่เปลี่ยนก็สามารถใช้ได้ต่อไป แต่สายตาผมเปลี่ยนเพราะผมแก่ตัวลง แล้วที นี้การตัดเลนส์คู่ใหม่ตัดสินใจได้ง่ายมาก ผมจะไม่ไปร้านไหนอีกและ ต่อไปนี้ ผมจะมาแต่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ซึ่งชุดที่ผมใช้ อยู่ปัจจุบันนี้เป็นชุดที่ 2 แล้ว และผมเชื่อว่าอีกสักปี 1 ผมคงมาตัดเลนส์ชุดที่ 3 ซึ่งผมมั่นใจแน่นอน ว่าผมจะมาตัดที่ไอซอพติก เหมือนเดิม
ปัจจุบันตั้งแต่ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกย้ายมาที่ตึก AIA CAPITAL CENTER ผมรู้สึกว่าเดินทางไปมาสะดวกมากเลยสำหรับผม สรุปแล้วก็คือประทับใจทั้งคุณภาพและราคา ซึ่งมันไปด้วยกัน ของดีราคาถูกไม่มีในโลก มันเป็นไปไม่ได้
แล้วถ้าไปเทียบกับการเปลี่ยนเลนส์ตา ผมยอมรับว่าการเปลี่ยนเลนส์ตามันถูกกว่า แต่บอกตามตรงผมกลัว ผมไม่ค่อยมั่นใจ เพราะผมยังเห็นหมอตาหลายคนใส่แว่นอยู่ ซึ่งถ้าเปลี่ยนเลนส์ตาดี แล้วทำไมหมอตาถึงยังใส่แว่นอยู่ นี้คือจุดที่ผมสังเกตเห็น ผมเลยตัดสินใจตัดแว่นดีกว่า และอย่างน้อยมันก็ยังกันฝุ่นได้ด้วย ถ้าถามว่าคุ้มไหม ในแง่ความสะดวกสบายก็ถือว่าสบายมาก แต่คุณต้องเลือกกรอบที่เบา ด้วยนะ เพราะตัวเลนส์มันเบาอยู่แล้ว ถ้าคุณเลือกรอบหนัก คุณก็จะเสียประสิทธิ์ภาพการเบาของ เลนส์ไป