พันตำรวจเอก ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์
อายุ ปี
รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ
ผมมีปัญหาทางสายตาเมื่อประมาณ 4 - 5 ปี ที่แล้วครับ ก็จะมีอาการมองระยะใกล้ไม่ค่อยชัดเจน และการอ่านหนังสือไม่สามารถทำได้ในระยะใกล้ ซึ่งผมจะต้องเซ็นต์งาน ทำให้มองเอกสารไม่ค่อยสะดวก
หลังจากทราบถึงปัญหาทางสายตาแล้ว ผมก็ไปตรวจวัดสายตา แต่แว่นที่ได้มา การมองแต่ละระดับบางครั้งก็ต้องมองสูง บางครั้งก็ต้องมองลง แว่นตาก็จะเลื่อนบ้าง หลุดบ้าง ไม่ค่อยพอดีกับใบหน้า ทำให้ไม่ค่อยคล่อง เลยรู้สึกว่าใส่แว่นตาเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ และต้องใช้เวลาปรับตัวนานเหมือนกันครับ ใช้เวลาน่าจะประมาณ 2 สัปดาห์ บางครั้งก็ต้องถอดแว่นออกเพื่อพักสายตา จึงเกิดความรำคาญ บางครั้งตำแหน่งแว่นก็เลื่อนไม่ตรง เพราะมันอาจจะไม่ค่อยพอดีกับใบหน้า ทำให้ต้องมีการปรับมุมของดวงตาในการมอง จึงเกิดความรู้สึกไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่ หลังจากที่ปรับตัวเข้าหาแว่นตาโปรเกรสซีฟก่อนที่จะมาที่ไอซอพติก ก็ใช้ได้ดีพอสมควร เพียงแต่ยังไม่ชินที่จะต้องใส่ไว้ตลอด แล้วก็ไม่ได้ใส่ตลอดทั้งวันนะครับ ก็ต้องพักบ้าง เวลาที่จะมองไปไกล ๆ ก็ต้องพักสายตา โดยช่วงที่พักก็คือ ไม่ได้ใช้เซ็นต์เอกสาร
หลังจากเปลี่ยนมาใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกแล้ว ผลการใช้งานถือว่าเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก วิเศษสุด ๆ เพราะว่า ใส่แล้วมันเหมือนไม่ใส่แว่นตา มันเหมือนตาเราใช้สายตาอย่างอิสระ เหมือนสมัยเด็ก ๆ มันเคลียร์ ชัด คม แล้วก็ไม่ต้องกระดกตา คือ ปรับระดับสายตาลงมาในการมองใกล้หรือมองไกล และการเดินก็เหมือนปกติ ไม่มีลอย ไม่มีลักษณะพื้นที่บุ๋มลงไปหรือนูนขึ้นนะครับ
และกะระยะในการเดินขึ้นหรือลงบันได และเดินพื้นเอียงก็อิสระ เหมือนการใช้สายตาธรรมดา ถือว่าเป็นแว่นที่ค่อนข้างมีคุณสมบัติพิเศษ และค่อนข้างจะฟิตติดใบหน้า ไม่ว่าเราจะก้ม จะเงย จะหันซ้าย หันขวา มันไม่กระเด็น กระดอนไปไหนเลย ค่อนข้างที่จะถูกใจ อันนี้ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจนะครับ เพราะดีจริง ๆ เป็นแว่นตาที่สามารถทำให้เราเห็นได้ทุกระยะคมชัด ไม่ว่าจะเป็นไกลหรือใกล้ โดยที่เราไม่ต้องไปปรับสายตาของเราขึ้น ๆ ลงๆ ดังนั้นผมจึงมีความรู้สึกอยากใส่ไว้ตลอด และติดกับแว่นอันใหม่แล้ว เลยกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องถอดพักสายตาอีกด้วย
แล้วผมแทบไม่ต้องปรับตัวเลยครับ เพราะว่าตั้งแต่ใส่ออกจากร้านไป ก็รู้สึกว่ามันปรับตัวได้เลยโดยไม่ต้องใช้เวลา และสามารถกะระยะได้แม่นยำอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะใส่เวลากลางวันหรือกลางคืนก็ชัดเจน เหมือนคนไม่มีอาการทางสายตาเลย แต่ถ้าเป็นอันเก่าใช้กลางวันจะดีกว่า แต่สำหรับภาพในการมองเห็นในเวลากลางคืน ทัศนวิสัยจะไม่ค่อยดี จึงเป็นห่วง เพราะว่าเวลาขับรถตอนกลางคืน เราจะต้องเห็นรถ เห็นคน ที่อาจจะมาตัดผ่านรถของเราหรือว่าเดินเข้ามาในทางของเราได้ชัดเจนทุกขณะ ไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ ผมจึงไม่เคยนึกอยากจะกลับไปใส่แว่นอันเดิมเลย
แล้วจะบอกว่าการตรวจวิเคราะห์ระบบการมองเห็นของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกใช้เวลาตรวจละเอียดมากเลยครับ ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าไปตรวจในห้องกับคุณหมอครึ่งชั่วโมง ออกมาก็มีช่างทำแว่นมาตรวจอีกครึ่งชั่วโมง ผมว่าไม่ใช่แค่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านไป เพราะปรมาจารย์โบบิ จะต้องมาตรวจความเรียบร้อย ซึ่งจริง ๆ ก่อนที่ ปรมาจารย์โบบิ จะมา ก็ให้ช่างอีกท่านหนึ่งมาดู มาวัดขนาดของแว่นให้มันพอดี วัดให้แว่นมันเข้ากับตาของผมทุกขณะ โดยเฉพาะช่วงใบหน้าจากดวงตาไปถึงใบหู ก็มีการวัดด้วยนะครับ นอกจากช่างคนแรกเสร็จ ช่างคนที่สองเสร็จ ก็ยังมีช่างคนที่สาม คือ ปรมาจารย์โบบิ ใช้เวลาทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง
วันนั้นผมถูกตรวจนานมากประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เลยเป็นอะไรที่แบบ โห้! ทำไมละเอียดขนาดนี้ ใช้เวลามากจริง ๆ แต่มันคุ้มค่ากับแว่นตาที่เราต้องใช้ตลอดเวลา ผมถือว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่า เพราะว่ามันพอดีกับเราคนเดียว มันเหมาะกับเรามาก และเราคงขาดมันไม่ได้ ก็เลยไม่อยากไปถอดไว้ที่ไหน จึงใส่ไว้ตลอดเวลา ซึ่งผมค่อนข้างจะติดแว่นมากครับ
และถ้าพูดถึงการให้บริการหลังการขายของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกนั้นดีมากครับ มีการโทรศัพท์เข้ามาถามว่า การมองเห็นเป็นอย่างไร ลักษณะของการใส่แว่นเป็นอย่างไร มีปัญหาหรือไม่ มีการให้บริการสอบถามเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการสนใจลูกค้า หลังจากที่ได้มีการขายสินค้าไปแล้ว ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่ครับ
ผมว่าที่แว่นของไอซอพติกมหัศจรรย์มาก ๆ เพราะ ปรมาจารย์โบบิ เป็นคนที่ละเอียดมาก ดูแว่นตาถึงขนาดที่จะเอามาวัดกับสเกล วัดแล้ววัดอีก วัดละเอียด ดูทุกซอกทุกมุมเลยครับ เพราะฉะนั้นแว่นสายตาซุปเปอร์โปรเกรสซีฟที่เป็นเฉพาะบุคคล มันเฉพาะบุคคลจริง ๆ ก็ถือว่าหาความละเอียดอย่างนี้คงไม่มีอีกแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณนะครับ ที่ทำแว่นตาที่แสนจะวิเศษอย่างนี้
ผมอายุ 61 ปี ภรรยาเป็นจักษุแพทย์ มีปัญหาทางสายตาตั้งแต่อายุ 40 เริ่มจากมองระยะใกล้ไม่ค่อยชัดเจน ซึ่งผมจะต้องเซ็นต์งานจำนวนมาก ทำให้มองเอกสารไม่ค่อยสะดวก จึงตัดแว่นโปรเกรสซีฟแบบชัดทุกระยะ แต่ปรับตัวยากมาก ใส่ไม่สบาย เมื่อยตา กลางคืนยิ่งแย่ ใช้งานไม่สะดวกเลย ต้องถอดแว่นออกเพื่อพักสายตาบ่อยๆ จึงใส่เฉพาะเวลาต้องการมองใกล้
หลังจากเปลี่ยนมาใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ระบบดิจิตอล 3 มิติ แล้ว ผลการใช้งานถือว่าเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก ไม่ต้องปรับตัวเลย วิเศษสุดๆ ใส่แล้วสบายเหมือนไม่ใส่แว่นตา มันเหมือนตาเราใช้สายตาอย่างอิสระ เหมือนสมัยเด็กๆ มันเคลียร์ ชัด คม ดีเยี่ยม ทั้งกลางวัน และกลางคืน แล้วก็ไม่ต้องกระดกตา คือ ปรับระดับสายตาลงมาในการมองใกล้หรือมองไกล และการเดินก็เหมือนปกติ ไม่มีลอย ไม่มีลักษณะพื้นที่บุ๋มลงไปหรือนูนขึ้น
กะระยะในการเดินขึ้นหรือลงบันไดได้อย่างแม่นยำ เดินพื้นเอียงก็อิสระ เหมือนการใช้สายตาธรรมดา ถือว่าเป็นแว่นที่ค่อนข้างมีคุณสมบัติพิเศษ และฟิตติดใบหน้า ไม่ว่าจะก้ม เงย หันซ้าย หันขวา ก็ไม่กระเด็น กระดอนไปไหนเลย ค่อนข้างที่จะถูกใจ เห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที ไม่ว่าจะเป็นไกลหรือใกล้ โดยที่เราไม่ต้องไปปรับสายตาของเราขึ้นๆ ลงๆ ใส่สบายตลอดเวลา
ไม่ว่าจะใส่เวลากลางวันหรือกลางคืนก็ชัดเจน เหมือนคนไม่มีอาการทางสายตาเลย แต่ถ้าเป็นอันเก่าใช้กลางวันจะดีกว่า แต่สำหรับภาพในการมองเห็นในเวลากลางคืน ทัศนวิสัยจะไม่ค่อยดี จึงเป็นห่วง เพราะว่าเวลาขับรถตอนกลางคืน เราจะต้องเห็นรถ เห็นคน ที่อาจจะมาตัดผ่านรถของเราหรือว่าเดินเข้ามาในทางของเราได้ชัดเจนทุกขณะ ไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ ผมจึงไม่เคยนึกอยากจะกลับไปใส่แว่นอันเดิมเลย
แล้วจะบอกว่าการตรวจวิเคราะห์ระบบการมองเห็นของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกใช้เวลาตรวจละเอียดมากเลยครับ ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าไปตรวจในห้องกับคุณหมอครึ่งชั่วโมง ออกมาก็มีช่างทำแว่นมาตรวจอีกครึ่งชั่วโมง ผมว่าไม่ใช่แค่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านไป เพราะปรมาจารย์โบบิ จะต้องมาตรวจความเรียบร้อย ซึ่งจริง ๆ ก่อนที่ ปรมาจารย์โบบิ จะมา ก็ให้ช่างอีกท่านหนึ่งมาดู มาวัดขนาดของแว่นให้มันพอดี วัดให้แว่นมันเข้ากับตาของผมทุกขณะ โดยเฉพาะช่วงใบหน้าจากดวงตาไปถึงใบหู ก็มีการวัดด้วยนะครับ นอกจากช่างคนแรกเสร็จ ช่างคนที่สองเสร็จ ก็ยังมีช่างคนที่สาม คือ ปรมาจารย์โบบิ ใช้เวลาทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง
วันนั้นผมถูกตรวจนานมากประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เลยเป็นอะไรที่แบบ โห้! ทำไมละเอียดขนาดนี้ ใช้เวลามากจริง ๆ แต่มันคุ้มค่ากับแว่นตาที่เราต้องใช้ตลอดเวลา ผมถือว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่า เพราะว่ามันพอดีกับเราคนเดียว มันเหมาะกับเรามาก และเราคงขาดมันไม่ได้ ก็เลยไม่อยากไปถอดไว้ที่ไหน จึงใส่ไว้ตลอดเวลา ซึ่งผมค่อนข้างจะติดแว่นมากครับ
และถ้าพูดถึงการให้บริการหลังการขายของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกนั้นดีมากครับ มีการโทรศัพท์เข้ามาถามว่า การมองเห็นเป็นอย่างไร ลักษณะของการใส่แว่นเป็นอย่างไร มีปัญหาหรือไม่ มีการให้บริการสอบถามเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการสนใจลูกค้า หลังจากที่ได้มีการขายสินค้าไปแล้ว ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่ครับ
ผมว่าที่แว่นของไอซอพติกมหัศจรรย์มาก ๆ เพราะ ปรมาจารย์โบบิ เป็นคนที่ละเอียดมาก ดูแว่นตาถึงขนาดที่จะเอามาวัดกับสเกล วัดแล้ววัดอีก วัดละเอียด ดูทุกซอกทุกมุมเลยครับ เพราะฉะนั้นแว่นสายตาซุปเปอร์โปรเกรสซีฟที่เป็นเฉพาะบุคคล มันเฉพาะบุคคลจริง ๆ ก็ถือว่าหาความละเอียดอย่างนี้คงไม่มีอีกแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณนะครับ ที่ทำแว่นตาที่แสนจะวิเศษอย่างนี้