ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลเอกชน
ตัวเองเริ่มมีปัญหาสายตาสั้น และสายตาเอียงเมื่อตอนอายุประมาณ 17 - 18 ปี จึงต้องใส่แว่นสายตาสั้นมาตลอด ซึ่งในตอนแรกนั้นใช้งานมาเรื่อย ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร มีอยู่วันหนึ่งก้มลงไปมองนาฬิกาของตัวเอง แต่กลับมองนาฬิกาไม่เห็น จึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เลยลองถอดแว่นตาออกมามองนาฬิกาดู ปรากฎว่าเห็นนาฬิกาชัดดี จึงคิดว่าสายตาตัวเองนั้นมีการเปลี่ยนแปลง เลยไปตรวจวัดสายตาดู จากนั้นจึงเปลี่ยนเลนส์แว่นตาที่ใช้ ซึ่งหมดไปหลายคู่ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขอาการที่เกิดขึ้นได้ โดยตอนนั้นตนเองไม่สามารถทำงานได้เลย เพราะการมองเห็นที่ไม่ชัดเจน
จากนั้นจึงลองค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตดู และเห็นข้อมูลของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จึงได้ตัดสินใจลองมาตัดแว่นกับทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก หลังจากที่เข้ามาตรวจวัดสายตากับศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ปรมาจารย์โบบิ บอกว่าสายตาของตนเองนั้นตรวจวัดยากมาก เนื่องจากดวงตาของตนนั้นมีอาการกล้ามเนื้อเกร็ง และกล้ามเนื้อล้า ทำให้ไม่สามารถวัดสายตาได้ จึงให้ไปลองฝึกเล่นโยคะดูก่อน 1 เดือน แล้วค่อยนัดกลับเข้ามาตรวจวัดสายตาใหม่ ซึ่งตอนนั้นรู้สึกแอบหงุดหงิดนิดหนึ่งว่า ทำไมถึงไม่สามารถตรวจวัดสายตาให้ได้ จึงได้เดินไปตัดแว่นตาอีกร้านหนึ่ง เพื่อเอามาใส่ก่อนในระหว่างรอ 1 เดือน ซึ่งช่วงนั้น การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะลำบาก และไม่สามารถทำฟันได้ ซึ่งแว่นที่ตัดมาระหว่างรอ ก็สามารถใช้งานได้ระดับหนึ่ง แต่ใส่แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายตา และมีอาการเมื่อยตา

และหลังจากนั้น 1 เดือน ก็ได้มาตรวจวัดสายตา ซึ่งพบว่าการวิเคราะห์ระบบการมองเห็น ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเป็นการตรวจวัดสายตาที่นานมาก ไม่เคยตรวจวัดสายตาที่นานขนาดนี้มาก่อน จำได้ว่าใช้เวลาตรวจวัดสายตาไปประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง และหลังจากนั้นอีก 2 เดือน ก็ได้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ซึ่งรู้สึกเหมือนโลกเปลี่ยนไปเลย ทุกอย่างมันดูใส และเคลียร์มาก ซึ่งปกติตนเองเป็นคนที่ใส่แว่นตามาตลอด โดยจะเลือกแต่เลนส์ที่อยู่ในระดับสูง เพราะรู้ว่าสายตานั้นมีความสำคัญมาก พอมาใส่แว่นตาของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกรู้เลยว่าทุกอย่างมันเคลียร์มาก ไม่ว่าจะมองระยะใกล้ หรือระยะไกล เหมือนกับไม่ต้องปรับตัวเข้าหาแว่นตา สามารถที่จะใส่แว่นตาได้เลย ซึ่งแว่นตาที่ได้รับมาจากศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ไม่ว่าจะใส่ทำงาน ใส่อ่านหนังสือ หรือใส่เล่นกีฬา ก็สามารถใช้ร่วมกันได้ เลยรู้สึกว่าทุกอย่างดีมาก ทำให้ชีวิตดีขึ้น ใช้แล้วไม่รู้สึกเหนื่อย และไม่ล้า มันทำให้ชีวิตเรามีความสุขเวลาทำงาน ไม่ต้องคอยถอดแว่นเข้าออก ไม่ต้องคอยเพ่งตา และไม่ต้องคอยยกแว่นตา แบบที่บางคนทำ เพราะมันทำให้เสียบุคลิกภาพ
ส่วนเรื่องการบริการดีมาก มีความใส่ใจ และติดตามผลการใช้งานอยู่ตลอด อย่างตอนที่เปลี่ยนเลนส์เป็นคู่ที่สอง เกิดปัญหาเวลามองแล้วแสงมันฟุ่ง ซึ่งตอนแรกคิดว่าตนเองผิดปกติหรือป่าว ตอนศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกโทรมาติดตามผลการใช้งานแว่นตา เลยบอกอาการกับทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก หลังจากนั้นไม่เกิน 5 นาที ปรมาจารย์โบบิ ก็โทรมาบอกให้ตนเองรีบกลับเข้ามาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เพราะแว่นตาที่ได้รับไปนั้นมันมีปัญหา ต้องได้รับการแก้ไขทันที จากเหตุการณ์นี้ เลยรู้สึกถึงความใส่ใจของทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก โดยทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้แก้ไขแว่นตาให้ จนสามารถกลับมาใช้งานได้ดี
ส่วนตัวคิดว่าดวงตาเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นโลกนี้ และดวงตาก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการประกอบอาชีพของเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับอวัยวะอื่น ๆ แต่ตาก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราเปิดโลกทัศน์ และทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงต้องให้ความสำคัญมาก และรู้สึกโชคดีที่ตัดสินใจทำแว่นตากับศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก