ดร. ชัยวุฒิ กมลพิลาส
อายุ ปี
นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะ และวัสดุแห่งชาติ
เมื่อผมมีปัญหาสายตาก็ตัดแว่นปกติครับ คือ ไปร้านตัดแว่นทั่ว ๆ ไป ใช้มาอยู่สักพักหนึ่งน่าจะประมาณ 4 - 5 ปี จนมีเพื่อนแนะนำว่าให้ลองมาปรึกษาที่ไอซอพติกดู จึงเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสมาที่ไอซอพติก อายุตอนนั้นก็น่าจะประมาณ 31 ปี ครับ ตอนมาตัดแว่นที่ไอซอพติกครั้งแรกก็เลือกเลนส์แบบธรรมดา ยังไม่ได้เป็นเลนส์แบบโปรเกรสซีฟ ใช้มา 2 ปี ก็กลับมาวัดสายตาใหม่ มีความรู้สึกว่าสายตาเรามันสั้นลงไปอีกเยอะพอสมควร แล้วก็มีลักษณะสายตาทั้ง 2 ข้างสั้นไม่เท่ากัน ปรมาจารย์โบบิ ก็เลยแนะนำให้ลองใช้เลนส์โปรเกรสซีฟดู

เริ่มจากใช้เลนส์ระดับที่ไม่ได้แพงมาก ใช้มาอยู่ 2 ปี วันนี้ก็กลับมาวัดสายตาอีกรอบ ก็ปรากฎว่าสายตาก็ยังปกติเหมือนกับ 2 ปีที่แล้ว จึงมีความรู้สึกว่าเลนส์มันก็ช่วยรักษาคุณภาพของสายตาเราได้ดีพอสมควร แล้วการปรับตัวครั้งแรกกับแว่นตาเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีใหม่ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกไม่นานนะครับ ความจริงประเด็นนี้ผมก็ยังสงสัยเหมือนกัน คนชอบบอกว่าต้องใช้เวลาปรับตัวกับแว่นโปรเกรสซีฟ แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมไม่ค่อยต้องปรับตัวมากเท่าไหร่ มีความรู้สึกว่าใส่แล้วสบายตา ทั้งมองในระยะใกล้ และระยะไกล

แว่นตาเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีใหม่ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทำให้คุณภาพชีวิตของผมดีขึ้น ปัญหาเรื่องการมองเห็นก็น้อยลง ใส่แล้วก็รู้สึกสบายตา ไม่รู้สึกเหมือนว่าใส่แว่น หรือใส่เลนส์ที่มีราคาถูกกว่า ที่อาจจะรู้สึกว่าใส่แล้วไม่สบายตาเวลาใส่นาน ๆ และถ้าพูดถึงการบริการ และการวิเคราะห์ระบบการมองเห็นของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก อันนี้เป็นอีกประเด็นที่ผมอาจจะต้องชื่นชม เพราะมีความรู้สึกว่าที่นี่บริการดีมาก ทั้งในเรื่องของการต้อนรับ การวัดสายตา และความละเอียดในการวิเคราะห์ มีความรู้สึกว่าเราได้รับการตรวจอย่างจริงจัง แล้วที่นี่เหมือนให้ความสำคัญกับดวงตาของคนเราว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญ และผมคิดว่าถ้าสมมุติมีกำลังทรัพย์ ก็ควรจะลงทุนใช้เลนส์ที่ดีระดับหนึ่ง เพราะว่าตาเราก็อยู่กับเราไปตลอดชีวิต ถ้ามีโอกาสก็แนะนำให้ดูแลให้ดีที่สุดครับ