อาจารย์ เมธา เกรียงปริญญากิจ
อายุ ปี
ผมเริ่มมีอาการสายตาสั้นตั้งแต่สมัย ป.6 จึงใส่แว่นตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ปัญหาสายตาของผม คือเป็นคนที่มีปัญหาด้านสายตาสั้น อาจจะไม่ได้สายตาสั้นมาก แต่ก็ยอมรับว่ามันก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตเช่นกัน แม้ตอนอยู่ในบ้านอาจจะไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตมากเท่าไร แต่พอต้องออกไปนอกบ้านก็จะเริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต โดยตัวผมเองนั้น ยอมรับว่าเป็นที่คนติดแว่นตามาก ถ้าไม่มีแว่นตาก็จะไม่อยากออกไปไหนเลย
โดยที่ผ่านมาตัวผมไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องแว่นตาเท่าไร ผมใช้แว่นตาที่สามารถหาได้ทั่ว ๆ ไป เจอร้านไหนใกล้ ๆ ก็จะไปตัดแว่นตาร้านนั้น ซึ่งแว่นตาที่ได้มาก็จะใส่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าแว่นตาจะพัง แล้วจึงไปตรวจวัดสายตา และตัดแว่นตาใหม่มาใส่ เพราะตัวผมเป็นคนที่ปรับตัวง่าย แม้แว่นจะมัว หรือสกปรก ผมเองยังก็ไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งมีคนมาทัก เนื่องจากผมเป็นคนที่สนใจการทำงาน และการใช้ชีวิตมากกว่า จึงไม่ค่อยสนใจในรายละเอียดต่าง ๆ มากนัก
จนมาวันหนึ่งผมตัดสินใจมาทำแว่นตาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เพราะตัวผมเองนั้นมีโอกาสได้รู้จักกับ ปรมาจารย์โบบิ ก่อนอยู่แล้ว ซึ่งทราบว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นกึ่งโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด ตอนนั้นผมเองก็คิดกำลังจะเปลี่ยนแว่นตาอันใหม่อยู่พอดี เพราะว่าแว่นตาอันเก่าใช้มานานมากแล้ว ประมาณ 6 - 7 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไปวัดสายตาของตนเองที่ร้านแว่นทั่วไป ก็พบว่าสายตาของตนเองนั้นไม่เหมือนเดิม โดยทางร้านแว่นตาร้านนั้นก็บอกว่า สายตาของผมนั้นค่อนข้างที่จะตรวจวัดยาก ผมจึงได้ไปปรึกษาเรื่องสายตา กับ ปรมาจารย์โบบิ ทาง ปรมาจารย์โบบิ จึงแนะนำให้ผมลองมาตรวจวัดสายตากับทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกดูสิ เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้เข้ามาใช้บริการศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ซึ่งที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทุกอย่างดูเป็นมืออาชีพ และอลังการมาก เมื่อเรานึกถึงการตรวจวัดสายตาทั่ว ๆ ไป ก็จะนึกถึงเครื่องมือที่ทุก ๆ ที่มีเหมือนกันหมด แต่พอมาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก รู้สึกเหมือนมาห้องแลปอะไรสักอย่าง ที่เราไม่เคยเข้ามาก่อน แค่ดูภายนอกก็ทำให้รู้เลยว่ามีความแตกต่างจากที่อื่น รวมถึงกระบวนการตรวจวัดสายตา ซึ่งผมคิดว่า ปรมาจารย์โบบิ ไม่ได้พูดเกินจริงเลย ที่ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นกึ่งโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุดได้ดีที่สุดในโลก ถึงแม้ผมยังไม่รู้ว่าระดับโลกเป็นยังไง แต่ถ้าพูดถึงประสบการณ์ของผมเท่าที่เคยเจอมา ไม่เคยเจออะไรที่มืออาชีพขนาดนี้มาก่อน
และหลังจากที่ผมได้รับแว่นตากึ่งโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีล่าสุด ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแล้ว การใส่แว่นตาครั้งแรกแน่นอนว่าจะต้องมีการปรับตัวทุกครั้ง ซึ่งผมใช้ระยะเวลาปรับตัว ไม่เกิน 24 ชม. ผมก็สามารถปรับตัวเข้ากับแว่นตาของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้แล้ว และรู้สึกชัดเจนมาก แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันดีกว่าขนาดไหน จนกระทั่งวันหนึ่งผมลืมแว่นตาของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกไว้ โดยในตอนนั้นแว่นตาที่ผมมีติดตัวอยู่คือแว่นตาอันเดิมก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนมาใช้แว่นตาของทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ผมจึงได้นำมาใส่ดู ปรากฏว่าผมไม่สามารถกลับไปใส่แว่นเก่าได้เลย เนื่องจากมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งความคมชัด ความสบาย จนไม่กล้าเรียกแว่นตาอันเก่าว่าแว่นตา บอกได้เลยว่าตอนนี้ใส่แว่นตาของทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแล้วไม่กล้าไปใส่แว่นตาของร้านแว่นตาร้านอื่นอีกเลย
แล้วที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเนี่ย นอกจากคุณภาพของแว่นตา และเลนส์ ผมมองว่าเรื่องของการบริการ ความเอาใจใส่ลูกค้า เป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนได้รับการฝึก และตั้งใจทำอย่างดีมาก ทุกองค์ประกอบ ทุกรายละเอียด ของที่นี่ ทั้งในแง่มุมของสินค้า และบริการเป็นสิ่งที่ประทับใจที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกได้เลยว่า การที่เราเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ได้รับการใส่ใจขนาดนี้ ปัญหาสุขภาพตาของเรา ก็คงได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่เช่นกันครับ