พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น
" แว่นที่ดี สำคัญมากกับการดำเนินชีวิต ดีใจที่เจอแว่นที่ถูกใจ ก็เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ "
➡️ ก่อนหน้าที่จะเข้ามาที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก คุณหน่องมีปัญหาสายตายังไงบ้างคะ ?
สายตาสั้นตั้งแต่เรียน ใส่แว่นมาตลอด พอเราทำงาน เราใช้สายตา ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น มีแต่คนแนะนำว่าต้องไปทำเลนส์โปรเกรสซีฟ แต่มันใส่ไม่ค่อยได้ ใส่แล้ว งง ๆ บ้าง อะไรบ้าง ก็เลยไม่ได้ใช้ค่ะ
จนกระทั่งมาที่ไอซอพติก ได้ยินคำร่ำลือว่ามีความชำนาญ อย่างคุณโบบิชำนาญเรื่องของการออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ให้เข้ากับแต่ละคน และเท่าที่เห็นตัวอย่างลูกค้าทุก ๆ ท่านก็ใช้สายตากันเยอะนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ หรือหลาย ๆ อาชีพค่ะ ก็ อู้ฮู!! คิดว่าเลนส์ต้องดีมาก ๆ เลย เพราะว่าเป็นอะไรที่ต้องดูละเอียด การผ่าตัด หรืออะไรต่าง ๆ ก็คือได้ยินกิตติศัพท์มานานค่ะ
➡️ ตอนนั้นอาการอะไรบ้างที่ทำให้คุณหน่องรู้สึกว่าเราต้องเริ่มเขยิบมาใส่เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟคะ ?
เกิดจากวันนั้นมาร่วมงานที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก และก็ได้เห็นผู้ใหญ่ หรือคนที่เราชื่นชมในเมืองไทย เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ ท่านก็ใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ ของที่ไอซอพติก เราก็เลยคิดว่าตรงนี้น่าสนใจ และที่สำคัญอาชีพของพี่หน่องเป็นอาชีพที่ใช้ตาเยอะมาก ตั้งแต่อ่านบท อ่านนิยาย เช็คเทป ดูเทป ดูคลิปโปรโมท หรือวีทีอาร์ อะไรต่าง ๆ ต้องใช้สายตาเยอะมาก เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่ามันได้เวลาที่เราต้องใช้เลนส์โปรเกรสซีฟจากมืออาชีพจริง ๆ แล้วค่ะ
➡️ หลังจากที่คุณหน่องเข้ามาตรวจวัดสายตาที่นี่ ไม่ทราบว่าขั้นตอนการตรวจวัดสายตาที่นี่แตกต่างจากที่อื่นอย่างไงบ้างคะ ?
ประทับใจ เพราะว่าสายตามันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน คือที่มาครั้งที่แล้ว จนถึงครั้งนี้นะคะ ก็คือว่าการวัดสายตามีความละเอียดทุกขั้นตอน มีหลายขั้นตอนด้วย เพราะฉะนั้นเรียกว่า ฮู!! เช็คกันละเอียดมาก ๆ
เลยทำให้รู้สึกเรามั่นใจ ว่าสิ่งที่เราจะได้รับ หรือว่าเลนส์ที่มีการตรวจสอบ และก็เช็คเป็นอย่างดี มันน่าจะเข้ากับเราที่สุดเลย
" มันเหมือนเราตัดเสื้อผ้า ที่ตัดเฉพาะเราคนเดียว " แล้วก็มีความเฉพาะเจาะจง เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เลยรู้สึกมั่นใจค่ะ
และทราบมาว่ากรรมวิธี นอกจากจะวัดมีความละเอียดอ่อนแล้ว การที่ว่าละเอียดได้ขนาดนี้ต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ ก็เลยคิด โอ้โฮ!! ที่นี่แบบ Professional จริง ๆ และขั้นตอนหลังจากวัดเสร็จแล้ว จะต้องส่งไปทำที่ประเทศเยอรมัน เพื่อที่จะให้เป็นไปตามที่วัดเอาไว้ โห้!! แล้วตอนที่ส่งกลับมาก็ตื่นเต้นว่าจะเป็นยังไงอะค่ะ
➡️ หลังจากที่คุณหน่องได้รับแว่นไอซอพติกไปใช้ เมื่อตั้งแต่ปี 2019 ไม่ทราบว่าตอนนั้นเมื่อใส่ไปแล้ว เราต้องปรับตัวอย่างไงบ้างไหมคะ หรือว่าใส่ได้เลย ?
ตอนนั้นปี 2019 จนถึงวันนี้ " เป็นแว่นที่ ไม่เปลี่ยนเลยนะคะ " ตอนที่ได้รับแว่นก็ตื่นเต้นนะคะ แล้วก็คิดว่าใส่แล้วจะเป็นยังไง เพราะว่าประสบการณ์เดิมเราใส่แล้วเรา งง ๆ และเราต้องปรับตัวเยอะ ปรับสายตาเยอะ การมองซ้าย มองข้าง หรืออะไรต่าง ๆ ต้องฝึกเยอะ
แต่พอมาใส่ตรงนี้ การปรับตัวไม่เยอะมากเท่าที่คิดไว้ ตอนที่ได้รับแว่น ปุ๊ป! ก็ให้เริ่มใส่ และก็มีคำแนะนำให้ลองไปเดิน ลองขึ้นบันได และก็การเหลือบตามอง มันง่ายมาก ไม่ว่าจะมองตรง จะมองใกล้ ก็แค่หลบสายตาลงมามอง ซึ่งมันทำให้ไม่ได้ยุ่งยากกับเราอะไรเลย และที่สำคัญมากก็คือได้รับคำแนะนำที่ดีมาก ทำตามคำแนะนำไปก็คิดว่ามันไม่ได้ยุ่งยาก หรือว่าปรับตัวอะไรที่เยอะเกินไป ก็รู้สึกว่าง่ายนะคะ ง่ายกับการที่ใส่เลนส์โปรเกรสซีฟของไอซอพติกนะคะ
➡️ หลังจากที่คุณหน่องลองใช้แว่นที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก แล้วได้ลองกลับไปใช้แว่นเดิมบ้างไหมคะ ?
แว่นเดิมมีความเคยชิน เราก็ลองทดลองเหมือนกันนะคะ แต่อันนี้มันเหมือนเบ็ดเสร็จ เพราะว่าเรา " ใส่แว่นอันนี้อันเดียว มันอยู่หมดเลย " และโดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญมาก ๆ
โดยวิชาชีพด้วยนะคะ ที่บอกว่าเราจะต้องใช้สายตาเยอะ การออกงานสำคัญมาก มันมีงานที่เราจะต้องอ่านเอกสาร หรือไปบรรยาย เราต้องมองตรง และเราก็ต้องอ่านเอกสาร โห้!! อันนี้ถ้าไม่มีแว่นนี้ถึงตายเลย เพราะว่าช่วยได้เยอะจริง ๆ ค่ะ เพราะว่าการเหลือบตามองใกล้ และก็มองไกล เราใช้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในการบรรยายในที่สาธารณะ บางทีเราต้องยืนอ่านรายงาน ต่อหน้ากล้อง มีกล้องจับหรือถ่ายมา
เคยประสบปัญหาเดิม คือว่า พอมองไกลไม่มีปัญหา พอมองใกล้สายตาปรับไม่ทัน ก็อึ้ง ๆ ไปเหมือนกันว่า อู้ฮู!! นี้มันเรื่องใหญ่กับชีวิต เพราะว่าเราไม่คิดว่าวันนึงเราจะต้องใช้ในที่สาธารณชน และเราต้องมองทั้งไกล และใกล้ในเวลาเดียวกัน
เพราะฉะนั้นการใช้แว่นที่เป็นโปรเกรสซีฟมันสำคัญในการดำเนินชีวิตด้วย เพราะว่าเราไม่รู้ว่าวันไหนเราจะต้องให้สัมภาษณ์ หรือจะต้องมองใกล้ และไกลในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันก็เลย " ทำให้ชีวิตดีขึ้น "
➡️ คุณหน่องคิดว่าการที่เราลงทุนกับแว่นดี ๆ สักอันนึง คุ้มค่ามากน้อยกับชีวิตเรายังไงบ้างคะ ?
คุ้มที่สุดแล้ว คุ้มมาก ๆ เพราะว่า ดวงตาก็เป็นหน้าต่างของทุก ๆ อย่างนะคะ และการที่เราสามารถใช้ชีวิต และใส่แว่นตาแล้วเราก็ไม่ต้องเปลี่ยนแว่น
หลาย ๆ คนต้องเปลี่ยนแว่นไป มา ซึ่งเราก็มีประสบการณ์นี้เหมือนกัน คือเราไม่ได้เปลี่ยนแว่น แต่เราต้องถอดแว่น เพราะเราสายตาสั้น
เพราะฉะนั้นตรงนี้มันเป็นอะไรที่ทำให้ " คุณภาพชีวิตเราดีขึ้นจริง ๆ " มันสอดคล้องกับการทำงาน และมันก็ช่วย Support การทำงานของเราให้ชีวิตเราง่ายขึ้นจริง ๆ นะคะ สะดวกมาก
➡️ คุณหน่องอยากจะแชร์ประสบการณ์กับคนที่เริ่มจะใส่แว่นโปรเกรสซีฟไหมคะ ว่าจริง ๆ แล้วการปรับตัว หรือการใช้แว่นโปรเกรสซีฟไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้น ถ้าเราเจอแว่นดี ๆ สักอันนึงค่ะ
จริงค่ะ สำหรับเรื่องการใช้สายตาในชีวิตประจำวัน สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คืออะไรที่ง่ายกับเรา บางคนอาจจะไม่ใช่เรื่องวัย แต่เป็นเรื่องสายตาที่เปลี่ยน เพราะฉะนั้น แว่นอันเดียวก็เอาอยู่ เป็นอะไรที่จำเป็นมาก เพราะว่าการมองใกล้ มองไกล เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น ต้องบอกว่าทุกคนอยากมีแว่นในฝัน ที่ทำได้ทุกอย่าง ก็คือมองไกลแล้วก็เห็นชัด มองใกล้อ่านหนังสือ ซึ่งทุกคนมันเป็นชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นการที่เรามีแว่นดี ๆ แว่นคู่ใจ อยู่กับเราตลอดเวลา 💌 ยิ่งกว่าเพื่อนอีกนะ เพื่อนยังไม่เจอกัน แต่แว่นต้องอยู่กับเราตลอดนะคะ
เพราะฉะนั้น แว่นที่ดีมันสำคัญมากกับการดำเนินชีวิต " ก็ดีใจนะคะที่ได้มีแว่นที่ถูกใจ และก็ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ " 💌
คุณหน่อง อรุโณชา ภานุพันธุ์
ผู้สร้างภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ และ ละครพรหมลิขิต
บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
Broadcast Thai Television