การมองเห็นถ้าไม่ทำให้มันดีตั้งแต่แรก หรือไม่ได้รับการวิเคราะห์ตั้งแต่แรกจะทำให้เรารู้สึกมองไม่ชัด อึดอัด เวลามองอะไรแล้วรู้สึกว่าไม่มีความสุข เวลาเราเห็นลูกค้าเราได้ใส่แว่น 1. ความสดใส 2. ความชัดเจน 3. ใส่สบาย และก็ความเป็นธรรมชาติในการใส่แว่น ใช้ในชีวิตประจำวัน อันนี้เราก็รู้สึกว่าเรามีความสุข Happy กับการทำแว่น 1 อัน แล้วให้ลูกค้าเขาได้ใช้งาน
หลัก ๆ จะดูเรื่องของการตรวจวัดสายตา และเรื่องของการทำงานของกล้ามเนื้อตาแต่ละข้าง นักทัศนมาตรในแง่ของการตรวจวัดสายตา นั้นคือ เรามีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เราทำจริง เราใช้จริง " แก้ปัญหาได้ถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ตอบโจทย์กับปัญหาที่ลูกค้าแต่ละบุคคล " อย่างเคสหนึ่งจะมีค่าสายตาอยู่ประมาณ 3 ค่า 1. สายตาสั้น 2. สายตาเอียง 3. สายตายาวระยะใกล้ คน ๆ นึงสามารถเกิดสายตาสั้นในแต่ละข้างก็ได้ ข้างหนึ่งเป็นสายตาสั้น อีกข้างเป็นสายตาสั้นกับสายตาเอียง หรือบางเคสข้างหนึ่งเป็นสายตาสั้นอีกข้างหนึ่งเป็นสายตายาว เป็นสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากโครงสร้างภายในดวงตาที่มันมีความซับซ้อนในเรื่องของขนาดของลูกตาแต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน ถามว่าถ้าเป็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของแต่ละคนก็มีส่วน เช่น กลุ่มคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เยอะ ๆ หรือว่าเป็นอาชีพที่เป็น Special กลุ่มนี้ส่วนใหญ่แล้วระบบการเพ่งในระยะใกล้ กลาง จะไม่ค่อยดี เนื่องจากต้องทนอยู่กับสภาวะของระยะที่ต้องมองคอมพิวเตอร์ และแสงสว่างของคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ กลุ่มนี้ก็ต้องใช้เลนส์ที่เขาเรียกว่า เลนส์กึ่งโปรเกรสซีฟ
#เลนส์กึ่งโปรเกรสซีฟ คือ เลนส์ที่สามารถมองไกลได้ มองใกล้ได้ แล้วมองคอมพิวเตอร์ได้ จะช่วยเรื่องการลดภาวะล้า หรือว่าภาวะที่เขาเรียกว่า สายตาเกร็งค้างในระยะใกล้ กลาง อายุไม่เกิน 38 ปี ก็จะเป็นกลุ่มนี้ ที่ต้องใช้เลนส์กึ่งโปรเกรสซีฟค่ะ
เมื่อมีการวัดสายตาออกมาทั้งหมดแล้ว การวัดสายตาในที่นี้คือการวัดทีละข้าง เริ่มจากขวาก่อนแล้วมาซ้าย หลังจากนั้นจะต้องดูในเรื่องของกล้ามเนื้อตา ระบบความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อตาแต่ละข้างมีการสอดคล้องกันไหม อย่างกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องตาเหล่ ตาเข กลุ่มนี้ก็ต้องวิเคราะห์ออกมา หลังจากมีการวัดสายตาด้านในห้องตรวจแล้วก็ต้องมีการทดลองเลนส์ เลนส์แต่ละตัวของไอซอพติกมีเป็นหลายร้อยตัวนะคะ เลนส์กลุ่มนี้จะต้องเอามาทดลองเลนส์ตามค่าสายตาที่เราได้กับปัญหาที่เราเจอ สอดคล้องกับอายุและอาชีพ
ดังนั้น เมื่อมีการทดลองเลนส์แล้วก็ต้องให้ลูกค้ามีการทดสอบจริง เช่น หมอฟัน ระยะทำฟันค่อนข้างจะใกล้ อาจจะต้องให้ดูในระยะที่เขาใช้ประจำ หรือว่านักกอล์ฟ ที่ต้องการมองลูกให้มีความคมชัดเวลาสวิง อันนี้ก็ต้องให้ลองเลนส์สำหรับกลุ่ม Sport สำหรับเล่นกอล์ฟก็มีการทดสอบ " ทุกเคสต้องมีการทดสอบเดินขึ้น-ลงบันได ไม่ว่าจะแว่นชั้นเดียว หรือว่าแว่นโปรเกรสซีฟ หรือว่าเป็นเลนส์กึ่งโปรเกรสซีฟ เพื่อให้มั่นใจว่าเขาใช้งานได้ แล้วก็ปลอดภัย "
หลังจากที่มีการวิเคราะห์ทั้งหมดแล้ว อาจารย์โบบิก็จะต้องดูในเรื่องของภาพรวม 1. พฤติกรรมการใช้สายตา 2. อายุ 3. ความชอบงานอดิเรก อาจารย์โบบิก็จะต้องดึงออกมาให้หมด เอาไปสอดคล้องกับอาชีพที่เขากำลังทำอยู่นะคะ เรื่องของค่าสายตา การจ่ายค่าสายตาในที่นี้ คือจะต้องประเมินว่า เช่น ลูกค้ามีแว่นมา แต่แว่นอันนี้ใส่ไม่สบาย ก็ต้องประเมินเปรียบเทียบกับแว่นตัวที่ใช้อยู่ว่าใส่ได้หรือใส่ไม่ได้ ค่าต่างกันมากน้อยเพียงใด ก็ต้องเอาวิเคราะห์ทั้งหมด อาจารย์โบบิก็ต้องมีการออกแบบโครงสร้างเลนส์จากพฤติกรรมและค่าสายตาที่เราวิเคราะห์ออกมา
ถ้าเมื่อไหร่ที่เจอเรื่องของโรคตาเบื้องต้น เพราะว่าเป็น Primary Eye Care ( การคัดกรองและส่งต่อผู้ป่วยโรคตา ) เป็นกลุ่มคนที่ Scanning เบื้องต้น เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม ต้อหิน เราสามารถดูเองได้เบื้องต้น ทุกเคสที่เข้ามาวัดสายตาหรือแม้ทุกเคสที่เข้ามา Service ที่เป็นลูกค้าเรา อาจารย์โบบิก็จะมีมาตรการวางไว้ให้กับทีมงานทุกคนได้ปฏิบัติกันตรงที่ว่า ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาไอซอพติกต้องมีการตรวจตากับจักษุแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าอายุขนาดไหน หรือว่า Visual Acuity ( ความสามารถในการมองเห็น ) เขาแย่หรือว่าดีอย่างไรค่ะ
ซึ่งนั้นหมายถึงว่า " การที่จะได้ค่าสายตาออกมาถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ100% ต้องมีการคัดกรองหลายที่ความชัดเจนในทุกมิติ ความเร็วในการโฟกัสภาพ เมื่อโฟกัสภาพได้เร็วสมองของเราจะไม่ต้องฝืนเพ่ง เพราะเราสามารถเห็นภาพชัดทุกมิติ ไม่ว่าคุณจะมองใกล้ กลาง ไกล หรือเปลี่ยนระยะไปดูไกลเราสามารถโฟกัสภาพในเสี้ยววินาทีในการมอง "
กุสุมา เหรียญคำ ( เอ็ม )
นักทัศนมาตร ประจำศูนย์แว่นตาไอซอพติก