หลายคนยังมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับอาการสายตาเอียงอยู่มากพอสมควร บางทีอาจเกิดความสับสนว่าตาเหล่ แปลว่าสายตาเอียง หรือตาเข แปลว่าสายตาเอียง เนื่องจากคำแปลความหมายในภาษาไทยนั้นค่อนข้างกำกวม และใกล้เคียงกันมาก แต่แท้จริงแล้วทั้งตาเหล่ และสายตาเอียงนั้นจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรืออาการเดียวกันจริงไหม ไปหาคำตอบกันเลย
แค่ชื่อโรคก็ต่างกันแล้วนะ
สายตาเอียง (Astigmatism)
จุดเกิดของโรคก็ต่างกัน
ตาเหล่ (Strabismus)
เกิดจาก ความผิดปกติของกล้ามเนื้อตาที่ทำงานไม่สมดุลกัน ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างทำงานไม่ประสานกัน แม้จะพยายามมองตรงแต่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่งจะเขไป หรือจะเหล่ไป ไม่ว่าจะทั้งทางหัวตา ด้านบน ด้านล่าง หรือหางตา จะเหล่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล และคนที่มีอาการตาเหล่จะไม่สามารถมองภาพเป็นแบบสามมิติเหมือนคนปกติได้ และไม่สามารถใช้ดวงตาทั้งสองข้างพร้อมกันได้ จึงมักจะเลือกใช้ตาข้างที่ถนัดที่สุดในการมอง ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคตาขี้เกียจตามมากับดวงตาข้างที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอีกด้วย
สายตาเอียง (Astigmatism)
เกิดจาก ความผิดปกติ และความบิดเบี้ยวของกระจกตา โดยกระจกตาของคนปกติมักจะเป็นทรงกลมเหมือนลูกบอลโค้งรับเท่ากันพอดีทำให้แสงที่ผ่านเข้ากระจกตาไปถูกรวมกันเป็นจุดโฟกัสเดียวและถูกส่งไปยังจอประสาทตาต่อไป แต่คนสายตาเอียงจะมีกระจกตาที่ไม่กลม บ้างเป็นทรงรีเหมือนรักบี้ หรือบิดเบี้ยวแบบผิดปกติก็มี จึงทำให้แสงที่ทะลุผ่านเข้าไปยังกระจกตาเกิดการหักเหเป็นเส้น จนเกิดการสะท้อนเข้าไปยังจอประสาทตาเป็นจำนวนมากกว่า 1 จุดโฟกัส แต่ด้วยกลไกของดวงตามนุษย์จะสามารถโฟกัสได้เพียงแค่จุดเดียว จุดอื่นที่ถูกสะท้อนเข้ามาจึงไม่สามารถโฟกัสได้อีก ส่งผลให้ผู้ที่มีอาการสายตาเอียงเห็นภาพเบลอ และมีเงาซ้อนกันนั่นเอง
5 สิ่งที่สัมพันธ์กันของอาการตาเหล่ และสายตาเอียง
1. เป็นโรคที่สามารถเป็นได้ตั้งแต่กำเนิด
2. มีผลจากกรรมพันธุ์ได้เหมือนกัน
3. อาจจะเกิดการเห็นภาพซ้อน ภาพเบลอได้เหมือนกัน
4. สามารถแก้ไขหรือบรรเทาอาการได้ด้วยการสวมแว่นที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล
5. ผู้ที่มาการสายตาเอียงรุนแรง รวมทั้งสายตาสั้น หรือยาว แล้วไม่ได้รับการแก้ไขเป็นเวลานานอาจส่งผลทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก จนเกิดเป็นอาการตาเหล่ ตาเขได้เหมือนกัน
จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า อาการตาเหล่ และสายตาเอียงนั้นคือคนละโรค คนละภาวะอย่างแน่นอน บ่งชี้จากชื่อเฉพาะของโรคที่แตกต่างกัน และโดยเฉพาะจุดกำเนิดโรคที่เป็นคนละจุดกัน อาการตาเหล่ สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อ แต่อาการสายตาเอียง เกิดจากความผิดปกติของกระจกตา แต่ก็มีบางอาการของคนตาเหล่ที่ใกล้เคียงหรือเหมือนกับคนที่มีอาการสายตาเอียงอยู่มาก อีกทั้งอาการสายตาเอียงที่ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็ยังอาจส่งผลให้ท่านมีอาการตาเหล่ ตาเขตามมาในอนาคตได้อย่างแน่นอน ดังนั้น การสังเกตตัวเอง และการตรวจวัดสายตาเป็นประจำจึงเป็นเรื่องจำเป็นและไม่ควรถูกละเลยอย่างมาก
กังวลเรื่องสายตาเอียง ลองเช็คอาการสายตาเอียงด้วยตัวเองผ่านลิงค์ด้านล่างนี้เลย
แบบทดสอบสายตาเอียง : แบบทดสอบสายตาเอียง (Fan Chart) ฉบับทำเองได้ที่บ้าน
เช็คอาการสายตาเอียง : 7 สัญญาณเตือนอาการสายตาเอียง เช็คเลย ก่อนสายตาแย่ลง