การตรวจวัดสายตาเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ในการตัดแว่นตา และการสร้างเลนส์สายตา เพื่อให้ได้ผลลัพท์สูงสุดแบบเฉพาะเจาะจงแต่ละบุคคล ดังนั้น การตรวจสายตาที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก จึงจำเป็นที่จะต้องพบกับจักษุแพทย์ แต่มีบางเคสที่ลูกค้าไม่สามารถตรวจวัดสายตาได้ เนื่อง

1. ตาแห้ง เมื่อลูกค้ามีอาการตาแห้งมาก ๆ มักจะมีแผลถลอกที่กระจกตา เป็นแผลจุดเล็ก ๆ ทำให้เวลามองนั้นเหมือนมองผ่านกระจกฝ้า เห็นภาพที่ไม่ชัด จึงทำให้ไม่ว่าจะวัดสายตาอย่างไรภาพที่มองเห็นก็จะไม่ชัด ทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ขอแนะนำให้หยอดน้ำตาเทียม เพื่อให้อาการตาแห้งดีขึ้นก่อน แล้วจึงกลับมาตรวจวัดสายตาอีกครั้ง

2. ต้อกระจก ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าเป็นมาก หรือเป็นน้อย บางท่านที่เป็นน้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น จะสามารถตัดแว่นได้ แต่ถ้าหากท่านใดอาการหนัก หรือเป็นต้อกระจกในตำแหน่งที่บดบังการมองเห็น จนทำให้มีค่าสายตาแย่ลง อาจจะต้องไปรักษาอาการต้อกระจกก่อนจึงค่อยกลับมาตัดแว่นตา

3. หนังตาตก สำหรับลูกค้าบางท่านที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีอาการหนังตาตก จนมาบดบังทัศนวิสัย จะทำให้ไม่สามารถทำการตรวจวัดสายตาได้ เนื่องจากขั้นตอนการตรวจวัดสายตานั้น ต้องมีการมองผ่านรูเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงกลางตาดำ หากหนังตาตกลงมาจนบังลูกตา ก็จะทำให้ลูกค้าไม่สามารถมองเห็นจุดดังกล่าวได้ ดังนั้นทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกจึงขอแนะนำว่าควรแก้ไขอาการหนังตาที่ตกก่อน แล้วจึงเข้ามาทำการตรวจวัดสายตาเพื่อตัดแว่นตาต่อไป เช่นเดียวกับผู้ที่มีต้อเนื้อขนาดใหญ่ที่บดบังการมองเห็น ณ ตรงกลางดวงตา หรือบางคนที่มีขนตาม้วนเข้าไปในกระจกตา ทำให้เกิดแผลถลอก และเกิดอาการตามัว หรือตาอักเสบ ทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกแนะนำว่าควรทำการรักษาในส่วนตรงนั้นก่อน แล้วจึงเข้ารับการตรวจวัดสายตาและตัดแว่นตาอีกครั้ง

ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการตรวจวัดสายตาจากศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก

1. รักษาอาหารตาแห้ง ภาวะตาแห้งในคนทั่วไป อาการหลัก ๆ ที่อาจสังเกตุได้คือ แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล ตาสู้แสงไม่ได้ รู้สึกเคืองตา เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา หรือตาพร่ามัวในบางครั้ง ในตอนเช้าสามารถมองเห็นภาพชัดเจนดี ในช่วงบ่ายเริ่มใช้สายตามากขึ้น ดวงตาเริ่มมีอาการมัว โฟกัสไม่ได้ ส่วนใหญ่อาการจะเป็นช่วงบ่าย หรือช่วงเย็น ผู้ที่ทราบว่าตนเองมีภาวะตาแห้ง แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมบ่อย ๆ ก่อนมาตรวจวัดสายตา ทุก 1-2 ช.ม. พักสายตาจากการทำกิจกรรมที่ใช้สายตาเยอะ เช่น การเล่นคอมพิวเตอร์ การใช้งานโทรศัพท์มือถือ การขับรถยนต์ หรือการอ่านหนังสือ ควรพักสายตาทุก ๆ 20 นาที โดยพักสายตาครั้งละประมาณ 20 วินาที สามารถหลับตาไว้หรือมองออกไปไกล ๆ กระพริบตา หยอดน้ำตาเทียม เมื่อครบ 1-2 สัปดาห์ จึงสามารถเข้ามาตรวจวัดสายตาได้

2. รักษาอาการหนังตาตก อาการหนังตาตกสามารถรักษาได้กับแพทย์ทั้ง 2 แผนก คือ แพทย์ศัลยกรรมพลาสติก และจักษุแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับการผ่าตัดหนังตาและเปลือกตา ซึ่งมีหน่วยย่อยเฉพาะ ที่เรียกว่า Oculoplastic เป็นการศัลยกรรมตกแต่งเปลือกตาโดยเฉพาะ ที่สามารถแก้ไขในเรื่องหนังตาตกได้

3. ผ่าตัดต้อกระจก อาการต้อกระจกควรทำการผ่าตัดให้หายเป็นปกติก่อน และควรจะรออย่างน้อย 1 เดือน เพราะในช่วง 1 เดือน อาจจะมีการอักเสบของดวงตาหลังจากการผ่าตัดที่ยังคงค้างอยู่ ซึ่งทำให้ค่าสายตาอาจแกว่งไปมาได้ จึงแนะนำว่า ควรทำการตรวจวัดสายตาหลังการผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป

อ่านบทความอื่น ๆ ของ ISOPTIK ได้ที่นี่ค่ะ : https://www.isoptik.com/th/p/3759

คำยืนยันจากผู้ใช้

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

ผู้สร้างภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ และ ละครพรหมลิขิต ★ ★ ★ ★ ★

แว่นที่ดี สำคัญมากกับการดำเนินชีวิต ดีใจที่เจอแว่นที่ถูกใจ ก็เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ

อ่านต่อ
นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

หัวหน้าหน่วยจุลศัลยกรรมโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ★ ★ ★ ★ ★

ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกแล้ว ทำให้เหนื่อยน้อยลง มีพลังในการทำงานมากขึ้น และมีความสุขเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิต ครับ

อ่านต่อ

รวมคำยืนยันจากผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ 3 มิติ เฉพาะบุคคล อย่างยิ่งยวด สะท้านโลกา

อ่านต่อ

เลนส์แว่นตาไอซอพติก มีจำหน่ายที่
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เท่านั้น
โปรดระวังการแอบอ้าง

go to top
คุณภาพการมองเห็นมีผลกับ คุณภาพชีวิตอย่างไร ?