ผู้ที่เคยผ่านการวัดสายตาที่ร้านแว่น หรือศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกมาก่อนคงจะรู้จักกับเครื่อง Auto refractometer กันเป็นอย่างดี หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าเครื่องวัดสายตานั่นเอง บางคนอาจเคยเห็น หรือไม่เคยได้เห็นค่าสายตาที่ถูกวัดออกจากเครื่องมาก่อนว่ามีค่าอะไรของสายตาเราบ้าง ในวันนี้ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกจะนำความรู้ฉบับย่อๆมาให้ว่ามาวัดสายตาแต่ละครั้ง เรามักจะวัดค่าอะไรกันบ้าง
เครื่อง Auto Refractometer หรือ Autorefractor คืออะไร?

หากอธิบายให้นึกออกได้ง่ายที่สุด ก็คงจะเป็น เครื่องที่ให้เรามองภาพบอลลูนที่อยู่สุดปลายถนนนั่นเอง เครื่อง Autorefractor นี้ก็ยังมีหลายบริษัท หลายรุ่น หลายราคา เครื่องที่แพงที่สุดก็จะอยู่ที่หลักล้านขึ้นไป โดยสิ่งที่จะถูกวัดออกมาจากเครื่องก็จะได้ตั้งแต่ ค่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง องศาสายตาเอียง ความห่างรูม่านตา การหดและขยายตัวของม่านตา ความยาวของกระบอกตา และอีกมากมายตามเรทราคาเครื่อง
การใช้เครื่อง Autorefractor วัดค่าสายตาจะแม่นยำแค่ไหน
ต้องขอบอกว่าการวัดสายตาจากเครื่อง Autorefractor นั้น คาดหวังค่าที่แม่นยำได้ยากมาก เมื่อทำการทดลองวัดสายตาจากเครื่อง Autorefractor ภายในวันเดียวกันต่างกันแค่ช่วงเวลา ค่าที่ได้ออกมาก็ไม่เท่าเดิมแล้ว เนื่องจากมีตัวแปรจากปัจจัยแวดล้อมมากมายที่ทำให้ค่าสายตาที่ได้ออกมาในแต่ละครั้งไม่มีความเสถียร เพราะ เครื่องนี้ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่ายแม้แต่กับผู้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องทัศนศาสตร์เลยก็ตาม ดังนั้น การวัดสายตาด้วยเครื่อง Autorefractor แล้วนำค่าที่ได้นั้นไปใช้ในการตัดแว่นทันทีจึงถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
หากคุณไปตัดแว่นร้านไหนเมื่อโดนจับวัดสายตาผ่านเครื่องแล้วทางร้านบังคับให้คุณตัดแว่นทันทีขอให้รีบเดินหนีโดยด่วน เพราะ ร้านแว่นตาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆจะใช้ค่าสายตาสั้น ยาว เอียงได้จากเครื่องเพื่อใช้ในการอ้างอิงเท่านั้น และต้องการทราบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับดวงตาที่วัดด้วยวิธีอื่นๆไม่ได้ อาทิเช่น ความห่างของรูม่านตา, ความผิดเพี้ยนของการรวมแสง (HOA), พื้นผิวของกระจกตา, ความดันในลูกตา แม้กระทั่งความยาวของกระบอกตา เป็นต้น หลังจากนั้นต้องทำการ Retinoscope อย่างละเอียดในบางเคสที่มีค่าสายตาสูง และซับซ้อนมาก

1. Sphere / Spherical (SPH) มีหน่วยเป็น Diopter
ค่านี้หมายถึง : ค่ากำลังเลนส์ที่ต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาสายตาของลูกค้า หรือค่าสายตาของลูกค้านั่นเอง โดยค่าสายตานี้มีเกณฑ์กำหนดด้วยเครื่องหมาย + และ
- เครื่องหมาย + : หมายถึง กำลังเลนส์แก้ไขสำหรับคนสายตายาว
- เครื่องหมาย - : หมายถึง กำลังเลนส์แก้ไขสำหรับคนสายตาสั้น
2. Cylinder (CYL)
ค่านี้หมายถึง : ค่ากำลังสำหรับผู้ที่มีภาวะสายตาเอียง เมื่อวัดสายตาบางท่านอาจไม่มีค่านี้ขึ้นหากไม่มีภาวะสายตาเอียง โดยปกติค่าสายตาเอียงมักมาคู่กับค่าสายตาสั้น หรือยาว
- เครื่องหมาย + ตามด้วยค่าสายตาเอียง หมายถึง ค่ากำลังเลนส์ที่ใช้แก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่มีสายตาเอียง และสายตายาวร่วมด้วย
- เครื่องหมาย - ตามด้วยค่าสายตาเอียง หมายถึง ค่ากำลังเลนส์ที่ใช้แก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่มีสายตาเอียง และสายตาสั้นร่วมด้วย
3. Axis
ค่านี้หมายถึง : ค่าสายตาเอียงที่ถูกระบุเป็นองศา โดยมีเลของศากำลังตั้งแต่ 001-180 องศา
ใครที่อยากทราบองศาสายตาเอียงของตัวเองอย่างคร่าวๆ ลองทำแบบทดสอบที่นี่เลย
4. Pupil distance (PD) มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
ค่านี้หมายถึง : ค่าระยะห่างระหว่างรูม่านตาทั้งสองข้าง จัดจากกึ่งกลางตาดำด้านขวา ถึงระยะห่างระหว่างจุดกึ่งกลางตาดำด้านซ้าย ซึ่งจะต้องทำการวัด PD ทุกครั้ง ก่อนทำการตรวจวัดสายตา
5. Prism มีหน่วย Diopter
ค่านี้หมายถึง : สามารถใช้ตัดแว่นเพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีภาวะตาเข (Hyper/Exo/Esotropia) หรือตาเขซ่อนเร้น (Hyper/Exo/Esophoria) ที่มีภาวะดวงตาหนีโฟกัส ไม่โฟกัสภาพพร้อมกันทั้งสองข้างจนมองเห็นภาพซ้อน จึงต้องจ่ายเลนส์ที่มีค่าปริซึมเพื่อบังคับให้ดวงตาทั้งสองข้างทำงานร่วมกันโฟกัสภาพได้ตามปกติ
6. Spherical Equivalent (S.E.)
ค่านี้หมายถึง : ค่าสายตาสั้น หรือยาวที่ถูกคำนวณชดเชยค่าสายตาเอียงไว้ทั้งหมด สำหรับตัดเลนส์แว่นตาที่ใช้ Spheric lens แทน Cylinder lens
7. Cornea Vertex Distance (VD or CVD) มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
ค่านี้หมายถึง : ค่าระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างกระจกตา ไปถึงเลนส์แว่นตา
8. ADD
ค่านี้หมายถึง : ค่ากำลังเลนส์ที่จะถูกใส่ลงบนเลนส์โปรเกรสซีพ สำหรับผู้ที่มีภาวะสายตาผู้สูงอายุ (Presbyopia) และเลนส์กึ่งโปรเกรสซีฟเพื่อช่วยลดความเกร็งของดวงตาจากการมองใกล้
9. Interpupillary Distance at near (NPD) มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
ค่านี้หมายถึง : ค่าระยะห่างระหว่างตาดำทั้งสองข้าง ขณะมองใกล้
ค่าสายตาหลักๆที่ถูกวัดจากเครื่อง Autorefractor จะเป็นเพียงค่าคร่าวๆที่ถูกนำมาใช้เพื่ออ้างอิงในการวัดสายตาด้วยวิธีอื่นๆควบคู่ไปด้วยเท่านั้น ไม่สามารถนำไปตัดแว่น หรือซื้อคอนแทคเลนส์มาสวมใส่ได้ทันที หากยังไม่ผ่านการวัดสายตาด้วยวิธี Retinoscope และ Subjective refraction เพิ่มเติม หรือจนกว่าจะได้ค่าสายตาที่เป็นความจริงของผู้สวมใส่ได้จนครบ
เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพสายตาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้สายตามองหน้าจอเป็นประจำ การลงทุนกับเลนส์คุณภาพดีจะช่วยให้คุณมีสุขภาพสายตาที่ดีในระยะยาว digital progressive lenses price