ปกติคนเราจะมีปัญหาด้านการมองเห็นมากขึ้น จนกระทบต่อขีดความสามารถในการทำงานของสมอง ในวัยประมาณ 40 ปี จะเริ่มมีปัญหาในการมองระยะใกล้ ต้องฝืนเพ่ง และยื่นระยะออกไปให้มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยี ที่สามารถที่จะช่วยเหลือคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ด้วยเลนส์ที่เราเรียกว่า เลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ แต่เลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ จะมีหลายคุณภาพหลายระดับ ซึ่งจะมีข้อจำกัดอยู่เยอะมากในแง่ของเลนส์โปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น ซึ่งจะมีข้อจำกัดในเรื่องของภาพด้านข้างที่บิดเบี้ยวเยอะ ทำให้เวลาหันศีรษะ รู้สึกไม่สบายตา โฟกัสภาพได้ช้า ใส่ไม่สบาย ไม่เป็นธรรมชาติ กะระยะลำบาก คุณภาพการมองมีความคมชัดต่ำ ทำให้ต้องฝืนเพ่งอยู่ตลอดเวลา ฝืนปรับตัวเข้าหาแว่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องสูญเสียพลังงานมาก ต้องปรับตัวเข้าหาแว่นทุกครั้งที่ใส่ ทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
ไอซอพติก เป็นศูนย์สร้างแว่นตาเฉพาะบุคคล เพื่อคุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด ออกแบบ ผลิต ประกอบ อย่างเฉพาะเจาะจง ตามพฤติกรรมการใช้สายตาที่แท้จริง สำหรับผู้ใช้แต่ละคน ให้คุณภาพการมองเห็น คมชัด สมจริง ทุกระยะ ในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมองได้อย่างก้าวกระโดด เหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง
เลนส์แว่นตาเฉพาะบุคคล ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทุกรุ่น ถูกสร้างขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจง สำหรับผู้ใช้แต่ละคน เข้าหาพฤติกรรมการใช้สายตา ในชีวิตจริง ของผู้ใช้แว่นตาแต่ละคนทั้งชีวิต เพื่อช่วยให้ไม่ต้องใช้สมองฝืนเพ่งทั้งชีวิต เพื่อปรับเข้าหาความจำกัดของแว่นตาอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างคนที่มีปัญหาทางสายตาทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน อีกต่อไป
คำยืนยันถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อใช้แว่นไอซอพติกโปรเกรสซีฟ
คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อายุ 62 ปี
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
(แว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ช่วยให้ผมสามารถกลับมา LIVE ACTIVE LIVE ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้อย่างเต็มที่ ผมจึงชวนทั้งภรรยา และเพื่อนมาทำแว่นที่นี่)
ผมเริ่มมีปัญหาทางสายตาตอนอายุ 40 ต้น ๆ ในช่วงแรกนั้น ไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไร แต่พออายุ 45 ปี เริ่มมีปัญหาทางสายตามากขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องใส่แว่นตา โดยเฉพาะตอนเวลาอ่านหนังสือ ผมมีแว่นตาเอาไว้ใช้สำหรับอ่านหนังสือ กับไว้สำหรับดูคอมพิวเตอร์ในเวลาทำงาน ส่วนตอนขับรถผมไม่ได้ใส่แว่นตา แต่ก็เริ่มสังเกตตัวเองว่า เวลามองระยะไกลมันเริ่มจะแย่ลงเรื่อย ๆ พอได้ใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟ รู้สึกได้ว่าโลกมันชัดขึ้น
ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับแว่นตาโปรเกรสซีฟนั้น รู้มาจาก ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เนี่ยละครับ ช่วงแรกที่ได้ใช้งานแว่นตาโปรเกรสซีฟ ตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไร แต่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถปรับตัวเข้ากันแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้แล้ว ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะใช้เวลาปรับตัวเป็นอาทิตย์ก็ตาม สาเหตุนั้นไม่ใช่เพราะว่าใส่แล้ว รู้สึกมีอาการเวียนหัวแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะรู้สึกไม่คุ้นชินกับแว่นตาโปรเกรสซีฟเท่าไร จึงทำให้ต้องถอดแว่นตาบ่อย ๆ ในช่วงแรก แต่พอได้ใช้ไปสักพักหนึ่งแล้ว รู้สึกขาดไม่ได้เลย รู้สึกได้เลยว่าโลกมันสว่างขึ้น แล้วสามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ต้องบอกเลยว่าถูกใจแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเป็นอย่างมาก จนทำให้ต้องกลับมาตัดแว่นตาเพิ่มอีกหลายคู่ คนรอบข้างผมหลาย ๆ คนก็ตามมาตัดแว่นตากับทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือเพื่อน
แต่ผมก็เคยลองเปลี่ยนไปใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟของที่อื่นดูนะครับ ซึ่งบอกได้เลยว่า แว่นตาโปรเกรสซีฟที่ทำจากที่อื่นมานั้นใช้งานได้ไม่ดีเท่า แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ผมว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก มีประสิทธิ์ภาพการใช้งานที่ดี ผมคุยกับบางคนเค้าก็ยังทนใช้แว่นตาแบบคอยสลับเปลี่ยนเอา ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ผมคิดว่าต้องให้เค้าได้ลองใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟ ของ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ดู ซึ่งถ้าได้ลองเค้าน่าจะรู้ถึงความแตกต่าง โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันดีกว่าแน่นอน อีกทั้ง ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ยังมีการบริการที่ดีอีกด้วยครับ
แต่ผมก็ยังมีปัญหานิดหนึ่ง ตรงที่ว่าผมเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาประเภทดำน้ำ และสกี ซึ่งกีฬา 2 ประเภทนี้จำเป็นที่ต้องใส่ Goggles จึงอยากให้มีเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีขนาดใหญ่พอที่สามารถนำทำมาเป็น Goggles ได้ เนื่องจากเวลาที่ผมเล่นกีฬา 2 ประเภทนี้ ผมต้องหา Goggles ที่มีขนาดใหญ่มาก และแว่นตาโปรเกรสซีฟที่มีขนาดเล็กมาก เพื่อที่จะใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟเข้าไปแล้ว สามารถใส่ Goggles ทับเข้าไปอีกทีหนึ่งได้ จึงทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไร