ผมมีความเชื่อว่าเลนส์มันสามารถพัฒนาต่อไปได้ โดยเฉพาะเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ

การที่ผมเป็นผู้นำในการพัฒนาเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟคุณภาพสูงสุดในโลกนี้ ความแตกต่างของผมคือ ผมมีความเชื่อว่าลูกค้าผมมีปัญญาจะจ่าย แล้วก็ผมมีความเชื่อว่าเลนส์มันสามารถพัฒนาต่อไปได้ โดยเฉพาะเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ ถ้าคุณภาพดีจริงเท่าไหร่ก็ขายได้อย่าว่าแต่ 5 แสนบาท คู่ละล้านก็ได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ความต้องการเขายังเหนือกว่าเทคโนโลยีที่รองรับได้ในปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้เวลาพัฒนาอีกประมาณ 3-5 ปี

ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่เรามีลูกค้าของไอซอพติก ที่เขาเห็นประโยชน์ของการที่ว่า เขาซื้อเลนส์คู่ละแสน สองแสน สามแสน สี่แสนบาท แล้วคุณภาพการมองเห็นเขาดีขึ้น คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น เขารู้ว่าเขาได้อะไร ดังนั้นคนเหล่านี้จึงมีความกระตือรือร้นที่จะมาซื้อเลนส์รุ่นที่ดีกว่าเสมอ การที่เราจะสร้างแว่นที่ตอบโจทย์ให้กับคนที่มีพฤติกรรมการใช้สายตาหลากหลายคือเราต้องเอาพฤติกรรมทั้งหมดของเขามาวิเคราะห์ทั้งหมด แล้วก็สร้างเลนส์ขึ้นมาตามทิศทางการมองของคนแต่ละคนว่า แต่ละคนก็ก้มหน้า บางคนเงยหน้า บางคนเอียงคอ ปัจจัยเหล่านี้ต้องมาคำนวณหมด แล้วก็คำนวณเรื่องของการกลอกตาของตาสองข้าง ของตาขวา – ซ้าย ทุกตำแหน่งหนึ่งส่วนล้านจุดของการกลอกตาสองข้าง ต้องเอามาคำนวณหมดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ที่ใช้ โดยเฉลี่ยจะใช้ทั้งหมดทั้งหมด 100 ชุด ซึ่งแต่ละชุดเมื่อคำนวณแล้วจะมีความเป็นไปได้ประมาณหนึ่งส่วนล้านล้านค่า ซึ่งในการผลิตจริงเราจะต้องใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประเทศเยอรมนี เป็นตัวคำนวณ การเอาค่าเหล่านี้มาคำนวณถ้าเราทำได้สำเร็จเราก็จะสามารถสร้างแว่นตาที่ดีที่สุด สำหรับคนแต่ละคน ซึ่งความยากเหล่านี้ทำให้เราต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนในการสร้างเลนส์แต่ละคู่

ไอซอพติกสามารถสร้างแว่นโปรเกรสซีฟระดับสุดยอดให้ใช้อันเดียว แล้วสามารถที่จะจบในอันเดียวคือ สามารถที่จะใช้ทำทุกอย่างได้โดยไม่ต้องถอดแว่นเปลี่ยนไปมา

สำหรับคนที่ต้องการจะพลิกโลกเปลี่ยนโลกมีแนวคิดใหม่ๆ แว่นไอซอพติกสามารถที่จะเพิ่มพลังสมองของท่านให้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ท่านมีพลังเพิ่มขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการนำส่งนวัตกรรมที่ท่านคิดค้นขึ้นมา ไปสู่ระดับโลก แล้วทำให้คนทั้งโลกได้ประโยชน์ ผมแนะนำให้ทำนัดเข้ามาทดลอง เข้ามาวิเคราะห์ระบบการมองเห็น ทดลองเลนส์ แล้วลองด้วยตัวท่านเองว่า เทคโนโลยีใหม่ของไอซอพติกช่วยชีวิตของท่านดีขึ้นได้อย่างไร เราเห็นว่าดีแต่ต้องลอง ผมแนะนำให้มาลองเองที่ไอซอพติก

Mr. Steve Landeck อายุ 71 ปี
Former Director of Sales of Gotti Switzerland

ผมมีค่าสายตายาว ผมจึงต้องการแว่นตาที่ทำให้ ผมสามารถมองเห็นได้ชัดเจนทุกระยะ ทั้งระยะใกล้ ระยะกลาง และ ระยะไกล

ผมจึงได้ศึกษาข้อมูลมากมาย เกี่ยวกับร้านแว่นตาที่ดีที่สุด เคยใช้เลนส์แว่นตามากมาย และตัวผมเอง ก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านแว่นตา มาเกือบ 40 ปี ดังนั้นผมจึงมีเพื่อนในวงการมากมาย และมีเพื่อนที่ประเทศเดนมาร์กแนะนำผมว่า ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกนี้คือร้านแว่นตาที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ

ซึ่งเลนส์คู่นี้ที่ผมใช้อยู่เป็นเลนส์คู่แรกที่ผมทำกับศูนยแว่นตาไอซอพติก ซึ่งเลนส์คู่นี้ก็ทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้การมองเห็นของผมสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เพียงแค่ภาพในมุมกว้าง แต่ยังสามารถทำให้ผมมองเห็นได้ชัดทั้งระยะใกล้ และระยะไกล ซึ่งผมบอกได้เลยว่านี่เป็นเลนส์แว่นตาที่ดีที่สุด เท่าที่ผมเคยใช้มา เป็นเลนส์แว่นตาที่วิเศษมาก

และจากประสบการณ์ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ที่ผมเคยใช้บริการร้านแว่นตามานับร้อยร้าน และรับบริการจากพนักงานผู้ให้บริการ อีกนับพันคน รวมทั้งเคยมีประสบการณ์ เกี่ยวกับเทคนิคการวัดสายตามามากมาย แต่เทคนิคของทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เป็นเทคนิคที่ล้ำหน้ากว่าประเทศอื่น ๆ ที่นำเสนอได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งคุณภาพของเลนส์แว่นตา และความเป็นมืออาชีพ ในแต่ละขั้นตอนของที่นี่ ทำให้ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก แตกต่างจากที่อื่น จึงได้ผลิตสินค้าที่มหัศจรรย์นี้ขึ้นมาได้

อย่างที่ผมบอกไปว่าทางร้าน มีการให้บริการที่โดดเด่น พนักงานทุกคนได้ผ่านการอบรมมาอย่างดี และให้บริการได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งขั้นตอนการวัดสายตาของที่นี่ มีความละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านจักษุแพทย์ , Doctor of Optometry ไปจนถึงช่างประกอบแว่นตา ขั้นตอนทั้งหมด มีความโดดเด่น ความละเอียด และใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งความใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ นั้น ทำให้เกิดแว่นตาที่มีคุณภาพได้

ส่วนถ้าพูดถึง ปรมาจารย์โบบิ เขาเป็นคนที่มีความพิเศษมาก อย่างที่ผมได้บอกไป ว่าผมเคยใช้บริการร้านแว่นมานับร้อยร้าน และรับบริการจากพนักงานร้านแว่นมาแล้วเป็นพันคน จากทุกที่ในทวีปอเมริกาเหนือ และผมบอกคุณได้เลยว่า ปรมาจารย์โบบิ เป็นบุคคลที่พิเศษมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ หรือแม้กระทั่งความรู้ที่เขามี