1. หัวใจในการสร้างสุดยอดแว่นตาอัลตร้าเอ็กซ์ คือความใส่ใจอย่างยิ่งยวด ในทุกรายละเอียดอย่างประณีต บรรจง ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งยวดที่ละเอียดกว่าแว่นตาราคาแพงเทคโนโลยีอื่นคู่ละ 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านเท่า
2. กุญแจสู่ไอซอพติก ประสบความสำเร็จมาจากความตั้งใจ และความตั้งใจนี้จึงได้เกิดระบบเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ ปรมาจารย์โบบิ อธิบายว่า ผมได้ทุ่มเทเวลาเป็นปีในการศึกษาและค้นคว้าการพัฒนาทางเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างแว่นตาที่ดีที่สุด และวันนี้ผมภูมิใจที่จะนำเสนอเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ผลิตด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติ
3. เทคโนโลยีที่คนส่วนใหญ่ใช้กันแพร่หลาย ในการทำแว่นโปรเกรสซีฟให้ลูกค้าที่มีราคาแพงเป็นเลนส์กึ่งสำเร็จรูป และเป็นโครงสร้างตายตัว ปรมาจารย์โบบิ กล่าว เลนส์จำพวกนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเฉพาะบุคคล จึงทำให้ผู้สวมใส่ต้องปรับตัวเข้าหาเลนส์ กำลังเลนส์ในแต่ละระยะมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ราบรื่น ความสามารถในการโฟกัสช้า และทำให้ต้องเพ่งมากขึ้นซึ่งแว่นตาโปเกรสซีฟเหล่านี้ใส่ไม่สบายตามีอาการวูบวาบ และภาพบิดเบือนด้านข้างมากเวลาหันหน้า หลายต่อหลายคนกะระยะผิดในการเดิน ขับรถ หรือ ขึ้นลงบันไดต่างระดับ
4. แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทำให้คุณไม่ต้องพกแว่นหลายๆ อัน ปรมาจารย์โบบิ เอ่ยถึงแว่นตาสองชั้นจะทำให้ผู้ใช้เหนื่อยล้า ลดความสามารถในการโฟกัส และเพ่งลงเกินสิ่งที่มันควรจะเป็น ในชีวิตประจำวัน หากใช้แว่นอ่านหนังสือและบังเอิญมองระไกลเกินกว่าระยะที่แว่นจะช่วยได้ จะทำให้ตาเราต้องเพ่งและใช้สมองในการปรับภาพมากขึ้นทำให้ปวดหัว ปวดตา ตาล้า ผลสุดท้ายทำให้คุณต้องเปลี่ยนแว่นตาที่มีกำลังเลนส์มากขึ้นอยู่บ่อยๆ การที่ต้องถอดและใส่แว่นอยู่บ่อยๆ หรือมองลอดผ่านส่วนบนของแว่นเพื่อดูวัตถุที่อยู่ไกลออกไป ทำให้ไม่สบายตาและไม่สะดวกมากสำหรับคนที่มีสายตายาวและสายตาสั้นร่วม หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีสายตายาว และสายตาเอียงระยะไกล ผู้ที่ใช้แว่นบางคนต้องสลับใช้แว่นทีละ 2 3 อัน ซึ่งลำบากมาก
5. ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราควรมองหาในเลนส์สายตาคืออะไร แว่นที่ดีต้องใส่สบาย เห็นภาพชัดทุกระยะ เพิ่มพลังสมอง ต้องทำให้ผู้สวมใส่สบายตาตลอดเวลา รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่แว่น ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ทำให้การมองเห็นของลูกค้าอายุ 80 ปี รู้สึกกลับไปเป็นหนุ่มสาวอายุ 30 ปี อีกครั้ง
6. การค้นคว้าพัฒนา และวิจัยที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกไม่เคยหยุดนิ่ง แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกคือผลจากการพัฒนาอย่างมุ่งมั่น เราทุ่มเทเพื่อสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกที่ทำให้ลูกค้ามีคุณภาพการมองเห็นที่ดีที่สุดใส่แล้วรู้สึกเป็นธรรมชาติ ตามพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าแต่ละบุคคล การตรวจวัดสายตาของเรามีการทดสอบการมองเห็นของความแตกต่างของตาแต่ละข้างทำให้มีความแม่นยำในการออกแบบเลนส์มากขึ้น ภาพที่ได้มีความเป็นธรรมชาติทุกมุมมอง ด้านข้างและทุกระยะ
7. เลนส์ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก การออกแบบเกิดจากความตั้งใจตรวจวัดและวิเคราะห์สายตาลูกค้าของแต่ละบุคคล การทดลองเลนส์ใส่ในกรอบทดลอง เพื่อให้ลูกค้าได้ทดสอบเสมือนจริงตามพฤติกรรมที่ลูกค้าใช้จริง ปรมาจารย์โบบิ กล่าวว่า รายละเอียดทุกอย่างของลูกค้ามีผลทั้งหมด ทั้งในเรื่องของ ลักษณะใบหน้า รูปร่าง การใช้ชีวิต และพฤติกรรมการใช้สายตา โครงสร้างใบหน้าทั้งหมดถูกนำมาวิเคราะห์ ด้วยเทคโนโลยี 3 มิติ นำไปสู่การออกแบบผลิตเลนส์ และใส่กรอบ ปรมาจารย์โบบิ ค่อยๆ ใช้เวลาในการตรวจสอบแว่นตาในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้ได้แว่นตาที่ออกมาดีที่สุด การทดสอบการมองเห็นจากการใช้งานจริงตามพฤติกรรมใช้งานของผู้สวมใส่
8. นอกจากจะกำหนดตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังต้องดูในเรื่องของตาหลัก และมือที่ถนัดอีกด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมากในการออกแบบระบบ 3 มิติ เพื่อให้ได้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกและนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นในการพัฒนาเท่านั้น ทุกรายละเอียดสำคัญหมด เมื่อเลนส์ถูกสร้างขึ้นมาแล้วต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอนรวมไปถึงการสั่งกรอบแว่นตาเฉพาะบุคคล และเมื่อถึงการตรวจสอบเลนส์ขั้นสุดท้าย ปรมาจารย์โบบิ กล่าวว่ามาตรฐานเราสูงกว่ายุโรป 25 เท่าในการควบคุมคุณภาพ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หากตรวจสอบแล้วเจอข้อบกพร่อง ปรมาจารย์โบบิ จะสั่งเลนส์ใหม่ทันที
9. ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ปรมาจารย์โบบิ ยังพัฒนาเทคนิคในการตรวจวัดสายตาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีการวิเคราะห์ที่แม่นยำมากขึ้น เป้าหมายหลักของพนักงาน และจักษุแพทย์ คือ ติดตามดูแลรักษาสุขภาพตาของลูกค้า เมื่อตรวจพบสุขภาพตาที่ผิดปกติ เราจะส่งต่อเคสไปให้จักษุแทพย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม ลดภาวะเสี่ยงต่อสายตาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต มาตรฐานการดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก และเราวางแผนที่จะขยายฐานลูกค้าให้ถึง 1 ล้านคนในอนาคต