คนเรามีระยะห่างระหว่างสันจมูกจนถึงจุดศูนย์กลางของรูม่านตาขวา กับ จุดศูนย์กลางของรูม่านตาซ้าย 99% ไม่เท่ากัน จากงานวิจัยของผมคือ จะแตกต่างกันในระดับประมาณ 1.5 มิลลิเมตร บางคนก็อาจจะใกล้เคียงกันก็มีบ้างในระดับประมาณ 5% ที่เท่ากันหรือใกล้เคียง และอาจจะมีบ้างที่แตกต่างกันถึงระดับประมาณ 4 - 6 มิลลิเมตร มากสุดที่ผมเคยเจอจะอยู่ที่ประมาณ 7 - 8 มิลลิเมตร ( เป็นกลุ่มเฉพาะ เป็นกลุ่มที่เป็นตาเหล่หรือเป็นตาเขซ่อนเร้น )
หลักการในการทำแว่นขั้นพื้นฐานที่สุดเริ่มจาก
1. คนที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตา หรือ ร้านแว่น หรือ จักษุแพทย์ผู้ทำงานเกี่ยวกับการวัดสายตา หรือ พยาบาลวัดสายตา หรือ ดอกเตอร์ทางด้านสายตา
จุดสำคัญ และสิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะต้องทำคือ การคำนวณหาตำแหน่งจุดศูนย์กลางรูม่านตา
ทำไมต้องหาตำแหน่งจุดศูนย์กลางของรูม่านตาก่อนที่จะวัดตา ?
เหตุผลที่เราจะต้องหาตำแหน่งของจุดศูนย์กลางรูม่านตาของตาแต่ละข้างก่อนจะเริ่มลงมือวัดตาเพราะว่า มันเกี่ยวข้องกับการตั้งตำแหน่งของเครื่องตรวจ
การวัดตา ถ้าจุดตั้งต้นคือตำแหน่งของจุดศูนย์กลางรูม่านตาผิด ค่าที่ได้ทั้งหมดก็ผิด เพราะมันจะมีผลต่อขั้นตอนการตรวจทุกอย่าง เนื่องจากเครื่องตรวจเราจะต้องทำการตั้ง PD หรือ ตำแหน่งเซ็นเตอร์ตา มันจะต้องตั้งให้ตรงกับจุดกึ่งกลางรูม่านตาบนเครื่องตรวจ ถ้าไม่ตรงค่าที่ได้ก็เพี้ยน ดังนั้นค่าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสั้น ยาว เอียง ยาวระยะใกล้ ตาเขซ่อนเร้น ทุกอย่างผิดหมด เมื่อค่าตั้งต้นผิด การทดลองเลนส์ การออกแบบโครงสร้างเลนส์ การสั่งผลิต การประกอบ ทุกอย่างผิดหมด
เมื่อแว่นไม่พอดี แว่นไม่ถูกต้อง เที่ยงตรง ก็จะเกิดการข่มขืนสมอง ผู้ใช้ก็ต้องทำการข่มขืนสมองเข้าหาตำแหน่งที่มันไม่ใช่ ใช้สมองฝืนเพ่ง เอาชนะตำแหน่งที่มันผิด อธิบายง่ายๆ คือ สมองมนุษย์มีความสามารถที่ปรับเข้าหาตำแหน่งที่ผิดให้มันใช้งานได้ด้วยการใช้สมองฝืนเพ่ง ซึ่งสมองเรามีพลังมาก และเมื่อเราเอาสมองฝืนเพ่งเข้าก็หาแว่นที่มันไม่ใช่ มันก็จะทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานด้านอื่นลดลง
นอกจากสมองต้องปรับตัวเข้าหาแว่นทำให้เราเหนื่อย ยังเกิดอะไรขึ้นอีกได้บ้าง ?
ในกรณีของแว่นโปรเกรสซีฟ สิ่งที่เกิดขึ้น ตำแหน่งที่ไม่ตรง ก็จะทำให้ภาพบิดเบี้ยวด้านข้างของเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ เทคโนโลยีอื่นสูงขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเลนส์โปรเกรสซีฟแต่ละคู่ลดลง ซึ่งจะเกิดผลดังต่อไปนี้
1. ภาพบิดเบี้ยวเพิ่มขึ้น
2. ความคมชัดลดลง
3. จุดชัดสุดของเลนส์แคบลง
ไอซอพติกได้เปิดตัวเลนส์อัลตร้า เอ็กซ์ เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นล่าสุดที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ( ค.ศ.2019 ) อัลตร้า เอ็กซ์ จะมาพร้อมกับคุณสมบัติ 9 ประการ
1. เป็นแว่นที่ถูกออกแบบมาให้อันเดียวครบจบทุกอย่าง ไม่ต้องเปลี่ยนแว่นไปมา ปกติในการใช้แว่นโปรเกรสซีฟ คนใช้คอมพิวเตอร์วันละ 8-10 ชั่วโมง อ่านหนังสือวันละ 4-6 ชั่วโมง ใช้ laptop วันละ 2-3 ชั่วโมง ในคนกลุ่มเหล่านี้พวกเขาจะต้องมีแว่นสำหรับใช้คอมพิวเตอร์ที่เราเรียกว่าโปรเกรสซีฟระยะใกล้ หรืออาจจะเป็นเลนส์ชั้นเดียว ผลจากการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เราพบว่าด้วยเลนส์อัลตร้า เอ็กซ์ ลูกค้าของเราถึงแม้จะมีแว่น ถึงแม้เขาจะสั่งทำแว่นสำหรับใช้คอมพิวเตอร์ แต่เอาเข้าจริงๆ ลูกค้าบอกว่าไม่ได้ใช้เพราะว่า อันเดียวครบจบทุกอย่าง เขาไม่มีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแว่น เมื่อก่อนเวลาขับรถก็ต้องเปลี่ยนแว่นเป็นแว่นชั้นเดียว หรือโปรเกรสซีฟขับรถ แต่ของไอซอพติก อัลตร้า เอ็กซ์ ไม่ต้องเปลี่ยน อันเดียวครบจบทุกอย่าง
2. ไม่ต้องปรับตัว อัลตร้า เอ็กซ์ เป็นเลนส์รุ่นแรก และรุ่นเดียวในโลกตอนนี้ที่ไม่ต้องปรับตัว เนื่องจากตัวแว่นถูกสร้างขึ้นมาปรับทุกอย่างต้องหาผู้ใช้ บอกลาการปรับตัวไปได้เลย
3. เป็นเลนส์ที่เพิ่มพลังสมองได้มากที่สุดตอนนี้ หมายความว่าเราจะทำงานได้เร็วขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง
4. ใส่แล้วมีพลังเพิ่มขึ้น ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม มีพลังของวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น มีเรี่ยวมีแรง ทำงานไม่เหนื่อยไม่ล้า ปกติคนเราอายุ 40 ปีขึ้นไป เริ่มล้าแล้ว อัลตร้า เอ็กซ์ เป็นเลนส์แว่นตาที่ช่วยทำให้เราทำงานได้นานเท่าที่เราต้องการ
5. เป็นเลนส์ที่ใส่แล้วมีความสุขมากขึ้น
7. คุณภาพชีวิตดีขึ้นแบบก้าวกระโดด อยากทำอะไรก็ได้ทำ
8. สนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง ดังนั้นคนเราไม่ได้หาเลี้ยงชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องใช้ชีวิตด้วย ปรัชญาของไอซอพติกคือ การมองเห็นคือชีวิต ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม
9. ใส่สบายยิ่งขึ้นเหมือนแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย