เลนส์แว่นตาอัลตร้า เอ็กซ์ สามารถทำงานได้ใน 3 ระบบหลักๆ คือ ทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเหมือนตอนหนุ่มสาว เป็นแว่นเพิ่มพลังทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้นในการที่เราจะทำในสิ่งที่เราอยากทำโดยมีข้อจำกัดที่น้อยที่สุด เป็นเลนส์ที่ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น เนื่องจากระบบสมองที่ควบคุมอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเลนส์จะทำงานใน 3 ระบบ
ไอซอพติกเราไม่ได้เป็นเลิศในเรื่องของการสร้างแว่นที่มีคุณภาพการมองเห็น การใช้งานที่ดีที่สุดในโลก ที่เพิ่มพลังสมองได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างความสุขให้กับลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการ จุดมุ่งมั่นของไอซอพติกคือ การให้บริการลูกค้าในระดับสูงสุด บริการให้ดีที่สุด ให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในอนาคตเราก็จะพัฒนาต่อไปจนถึงขนาดว่าจะเอา AI ( ปัญญาประดิษฐ์ ) เข้ามาใช้ในการดูแลลูกค้าให้ได้มากขึ้น ดังนั้นการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้งานของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกเราไม่ได้นำเข้ามาเพื่อจะลดต้นทุนในการดูแลลูกค้า แต่เราเอามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลลูกค้าให้มีความแม่นยำสูงขึ้น แต่หัวใจยังคงเป็นมนุษย์ เพราะคนที่จะเข้าใจพฤติกรรมการใช้สายตาของมนุษย์อย่างแท้จริงคือ ทีมงานของเรา ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทีมสร้างแว่นตาเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งด้วยที่ดีที่สุดในโลก
หัวใจที่สำคัญมากที่สุดประการหนึ่งในการที่เราจะสร้างแว่นตาที่ดีที่สุดนอกจากความใส่ใจ ซึ่งจะต้องมีในระดับอย่างยิ่งยวด ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกมีวันนี้ได้เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียดของลูกค้าทุกคนอย่างยิ่งยวด แค่นั้นยังไม่พอการใส่ใจในทุกรายละเอียดไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเกิดลูกค้าอยู่ในภาวะไม่ผ่อนคลาย อยู่ในภาวะที่รู้สึกไม่สบาย ไม่ว่าจะเป็นไม่สบายกายหรือไม่สบายใจ
ภารกิจของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกคือ การทำให้ลูกค้าของเราทุกคนอยู่ในภาวะที่รู้สึกสบาย ผ่อนคลายมากที่สุด อารมณ์ดีมากที่สุด จึงจะทำให้การวิเคราะห์ระบบการมองเห็นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปกติคนเวลาหงุดหงิดหรือรู้สึกไม่สบาย อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ค่าสายตาที่ได้จากการวิเคราะห์ระบบการมองเห็นจะไม่ถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ แต่จะมีความคลาดเคลื่อนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภาวะทางอารมณ์ในขณะนั้น
ธรรมชาติอย่างหนึ่งของการวิเคราะห์ การตรวจวัดสายตาคือ ถ้าผู้ถูกตรวจไม่ให้ความร่วมมือ การตรวจจะทำได้ยาก และความน่าเชื่อถือต่ำ ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกมีมาตรฐานการให้บริการที่ทำให้ลูกค้าทุกคนอยู่ในภาวะที่พร้อมสำหรับการตรวจ ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด ตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรกที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาไม่ว่าจะเป็นทางไหน สิ่งที่จะต้องทำเลยคือ การจัดตารางเวลาที่เหมาะสม การจัดเวลาที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแต่ละคน ในภาวะที่ลูกค้าแต่ละคนอยู่ในภาวะพัก ผ่อนคลาย แล้วก็เหนื่อยล้าน้อยที่สุด นี่คือหัวใจของการให้บริการ
เสี้ยววินาทีแรกที่ลูกค้าก้าวเข้ามาในร้าน ทีมงานที่ดูแลจะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องทำอย่างไรให้ลูกค้ามีความสุขมากที่สุด เมื่อลูกค้ามีความสุขก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย การตรวจวิเคราะห์ระบบการมองเห็น การฟิตแว่น การออกแบบแว่น การเลือกกรอบแว่น ทุกอย่างได้หมด เพราะลูกค้าจะให้ความร่วมมือดีมาก ดังนั้นที่ไอซอพติกจึงเน้นให้ลูกค้าทุกคนมีเสี้ยววินาทีแห่งความสุขตลอดเวลาที่อยู่ในร้าน การดูแลไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่พิถีพิถัน การดูแลบริการล้างแว่น ปรับแต่งแว่น บริการชาร์จแบตให้ลูกค้า การจัดที่นั่งที่สะดวกสบายไม่วุ่นวาย และเป็นส่วนตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่รับลูกค้ามากเกินไปในแต่ละวัน การจำกัดจำนวนลูกค้าเพื่อให้การบริการเป็นไปด้วยความราบรื่น การมีที่นั่งอย่างเพียงพอ มีที่นั่งสำรองอย่างเพียงพอ ก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่สำคัญที่สุดคือ การควบคุมจำนวนลูกค้าในแต่ละช่วงเวลาเท่าที่จะสามารถดูแลลูกค้าแต่ละคนได้อย่างดีที่สุด นี่คือหัวใจการทำงาน และการทุ่มเทดูแลลูกค้าทุกรายละเอียดด้วยความใส่ใจ จึงทำให้ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกได้รับการยกย่องถึงความดีเลิศทางด้านการให้บริการ
ลูกค้าแต่ละคนจะได้รับความรู้สึกที่ชัดเจนอย่างแน่นอนว่ามาที่ไอซอพติกแล้ว พนักงานทุกคน ทีมงานทุกคน เต็มใจให้บริการด้วยความสุขเพื่อจะทำให้ลูกค้าทุกคนมีความสุข และความสุขของลูกค้าคือความสุขของทีมงาน นี่คือสิ่งที่ลูกค้าสัมผัสได้ ดังนั้นที่ไอซอพติกเราจึงทุ่มเททำงานมากกว่าเรื่องของคำว่า Service Mind ถ้าจะเรียกกันเราต้องเรียกว่า Super Service Mind
รายละเอียดของความสุขในการใช้บริการของลูกค้าไอซอพติกแต่ละคน
1. คุณ Steve Landeck เคยทำงานอยู่บริษัทของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นบริษัททางด้านกรอบแว่นตา ปัจจุบันอายุ 73 ปี ( ค.ศ. 2019 ) คุณ Steve Landeck เป็นคน Active ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ใช้สายตาเยอะมาก เป็นคนที่ใช้ laptop และคอมพิวเตอร์แบบพกพาเยอะ อ่านหนังสือเยอะ ขับรถเยอะ เล่นกีฬาปีนเขา คุณ Steve มีค่าสายตายาวแบบซ้ำซ้อนคือ มีอาการสายตายาวมาตั้งแต่เด็ก มองไกลมองเห็นไม่ชัดถ้าไม่ใส่แว่น มีอาการสายตายาวระยะไกล มีสายตายาวระยะใกล้ด้วย
คุณ Steve ใส่แว่นโปรเกรสซีฟมาเยอะมากในชีวิต ตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีที่คุณ Steve Landeck ใส่แว่นโปรเกรสซีฟจากทั่วโลก คุณ Steve Landeck ยังไม่เคยเจอแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ไหนที่ใส่แล้วรู้สึกสบายอย่างแท้จริงมาก่อน คือใส่แล้วรู้สึกยังขาดอยู่ โฟกัสภาพยังไม่เป็นธรรมชาติ อ่านหนังสือไม่สบายตา ใช้ laptop ไม่สบายตา ปีนเขา ทำกิจกรรม อ่านหนังสือรู้สึกตลอดเวลามันไม่ใช่
ต่อมาคุณ Steve Landeck ได้รับการแนะนำให้รู้จักไอซอพติก โดยเพื่อนที่ประเทศเดนมาร์ก เนื่องจากผมเคยไปสอนที่ประเทศเดนมาร์ก สอนร้านแว่น สอนบริษัทขายแว่น เขาก็แนะนำคุณ Steve ให้มาที่ไอซอพติก คุณ Steve ก็เดินทางมา หลังจากเราวิเคราะห์ระบบการมองเห็น ทดลองเลนส์ ออกแบบโครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสำหรับดวงตา พฤติกรรมการใช้สายตาของคุณ Steve มากที่สุด พอแว่นเสร็จคุณ Steve มารับแว่น เมื่อใส่แว่นแล้ว รู้สึกได้เลยว่าคุณ Steve มีความสุข เหมือนกับคนที่อัดอั้นมา 30 กว่าปี ไม่ได้เห็นภาพชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที และรู้สึกสบายอย่างนี้มาเลย
แว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกสามารถทำให้คุณ Steve มีความสุขได้ เนื่องจากชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที สบายตาไม่ต้องปรับตัวเลย เหมือนแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย ใส่แล้วมีอิสรภาพในการมองเห็น ไม่ถูกจำกัดด้วยแว่นตาอีกต่อไป สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ สามารถที่จะเห็นชัดทุกระยะโดยไม่ต้องฝืนเพ่งอีกต่อไป สามารถที่จะมีคุณภาพการมองเห็นเหมือนตอนอายุ 30 ปี และนี่คือหนึ่งในประสบการณ์ของคุณ Steve Landeck อายุ 73 ปี ซึ่งพวกเราก็สามารถมีประสบการณ์เดียวกันได้ คุณ Steve Landeck เรียกแว่นตาของไอซอพติกว่า แว่นตามหัศจรรย์
2. นายแพทย์วิชัย สติมัย อายุ 63 ปี ท่านเป็นนายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งท่านได้อธิบายถึงการให้บริการของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกว่าดีเยี่ยม แล้วก็แนะนำคนรอบข้างมาใช้บริการที่ไอซอพติก แล้วทุกคนก็ล้วนแต่ประทับใจในการให้บริการที่ดีที่สุดของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก
ประวัติการใช้แว่นตาของอาจารย์หมอวิชัยเป็นยังไงบ้าง
ท่านหมอวิชัยมีปัญหาทางสายตาตั้งแต่อายุ 43 ปี แล้วก็พยายามที่จะไม่ใส่แว่น เนื่องจากมีความรู้สึกว่าใส่แล้วไม่เท่ห์ ไม่หล่อ เขาใช้วิธียืดระยะ ใช้แสงเพิ่มขึ้น หาเหลี่ยม หาแสง จนในที่สุดทนไม่ไหวก็ไปตัดแว่น แต่พอไปตัดแว่นโปรเกรสซีฟมา ตอนแรกท่านไปทำจากร้านแว่นทั่วไป ใส่แล้วรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ รู้สึกแปลกๆ ก็เลยใส่บ้างถอดบ้าง ใส่เฉพาะเวลาอ่านหนังสือ เวลาไม่อ่านหนังสือก็จะถอดออกแล้วใส่กระเป๋า ต่อมาอาจารย์หมอวิชัยได้มีโอกาสที่จะเข้ามาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เนื่องจากได้ยินว่าที่นี่ทำแว่นโปรเกรสซีฟที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย ใส่ได้ทั้งวัน เหมือนกับไม่ได้ใส่แว่น ทีมงานก็ทำการวิเคราะห์ระบบการมองเห็นให้อาจารย์หมอวิชัยอย่างละเอียดที่สุด หลังจากได้รับแว่นก็สามารถที่จะใส่ได้ทั้งขึ้น-ลงบันได เคลื่อนไหวด้านข้าง น้ำหนักเบาใส่สบายเหมือนกับแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย ใส่แล้วมีพลังเพิ่มขึ้น ใส่แล้วไม่ต้องคอยถอดแว่นเข้า-ออก เนื่องจากใส่แล้วมันสบายจนลืมแว่นไปเลย
3. อาจารย์หมอวิชิต ศิริรัตน์ธำรง อายุ 60 ปี เป็นหัวหน้าหน่วยจุลศัลยกรรม โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ อาจารย์หมอวิชิตท่านสายตาสั้นค่อนข้างมาก และมีสายตาเอียงค่อนข้างมาก ท่านต้องทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดสูงมาก ท่านเป็นศัลยแพทย์ด้านการต่อนิ้วมือที่ถูกตัดขาดจากอุบัติเหตุ ดังนั้นท่านจึงต้องทำการผ่าตัด ต่อ นิ้วมือ นิ้วเท้าของคนไข้ ซึ่งการผ่าตัดของท่านอาจารย์หมอวิชิตมีความแตกต่างกับการผ่าตัดทั่วไปอยู่พอสมควร โดยการผ่าตัดของท่านอาจารย์หมอวิชิตจะมีการต่อเส้นประสาทให้สามารถที่จะใช้งานได้ใกล้เคียงหรือดีเหมือนคนปกติ หรือให้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติมากที่สุด หรือให้เป็นปกติ เป็นการผ่าตัดที่มีความสลับซับซ้อนมาก
เวลาที่คนเรานิ้วขาด การเอานิ้วมือข้างที่ขาดมาต่อเราว่ายากแล้ว แต่ของท่านอาจารย์หมอวิชิตในหลายกรณีท่านก็ต้องทำการย้ายนิ้วจากนิ้วเท้ามาต่อกับนิ้วมือ อันเนื่องมาจากว่านิ้วมือเดิมถูกทำลายไป นั่นคืองานที่อาจารย์หมอวิชิตท่านต้องทำการช่วยเหลือคนไข้ด้วยการผ่าตัดที่มีความละเอียดสูง ดังนั้นการต่อเส้นประสาทเป็นงานที่สลับซับซ้อน และใช้ฝีมือ ความตั้งใจ ความแม่นยำ ซึ่งในหลายครั้งที่ท่านอาจารย์หมอวิชิตต้องใช้เวลาในการผ่าตัดอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ชั่วโมง
แรกเริ่มเดิมทีอาจารย์หมอวิชิตใช้แว่นชั้นเดียว พอเริ่มมีอาการสายตายาวระยะใกล้ในวัย 40 ปี ท่านก็ใช้แว่นโปรเกรสซีฟแบบทั่วไปที่ต้องฝืนเพ่งปรับตัวเข้าหาแว่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผลก็คือเวลาใช้แว่นโปรเกรสซีฟเหล่านี้ ใส่แล้วก็จะเหนื่อย รู้สึกมองเห็นภาพไม่คม ทำให้การผ่าตัดที่ใช้ความสลับซับซ้อนสูงแล้วต้องผ่าตัดต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานเป็นเรื่องที่สร้างความเหนื่อยล้ามาก รู้สึกปวดตา ไม่สบายตา ท่านจึงเข้ามาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก
ทีมงานไอซอพติกสร้างแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคลให้อาจารย์หมอวิชิตขึ้นมาใหม่ โดยเอาพฤติกรรมการใช้สายตาทั้งหมดมาประมวล แล้วสร้างเป็นแว่นความคมชัดสูงที่ถูกออกแบบให้ศัลยแพทย์โดยเฉพาะ ให้สามารถผ่าตัดได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ สบายตา และลดความเหนื่อยล้าในการผ่าตัด หลังจากได้แว่นใหม่อาจารย์หมอวิชิตท่านสามารถผ่าตัดได้อย่างสบายตาเหมือนได้กลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง ความเหนื่อยล้าต่างๆ ลดลงไป 90% ทำให้ท่านสามารถกลับไปช่วยเหลือคนไข้ได้อีกครั้งแล้ว
4. อาจารย์หมอวิรุณพร พรหมพงศา อายุ 65 ปี ท่านเป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าสมอง และไขสันหลัง เรียกว่า ประสาทศัลยแพทย์ โรงพยาบาลนนทเวช ซึ่งอาจารย์หมอวิรุณพรมีปัญหาทางสายตามานานพอสมควร และท่านก็ใช้แว่นหลายอันในการผ่าตัด ชีวิตวุ่นวายอยู่กับแว่น การผ่าตัดแต่ละครั้งจะต้องเปลี่ยนแว่นตลอดระยะเวลาในการผ่าตัด กว่าจะผ่าตัดแต่ละเคสเสร็จเปลี่ยนแว่นไป 3 อัน ท่านจึงเข้ามาที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เราจึงทำการวิเคราะห์พฤติกรรม การทำงาน การผ่าตัดคนไข้ การตรวจคนไข้ ทุกอย่างเอามาวิเคราะห์หมด เพื่อสร้างแว่นที่จะช่วยให้อาจารย์หมอวิรุณพรสามารถที่จะดูแลคนไข้ ผ่าตัดสมองได้ด้วยแว่นเพียงอันเดียว เป็นงานที่ยากพอสมควร แต่เราก็สามารถที่จะทำให้อาจารย์หมอวิรุณพรสามารถดูแลคนไข้ ผ่าตัดสมอง และไขสันหลังได้ด้วยแว่นเพียงอันเดียว และช่วยลดการเหนื่อยล้าในการทำงาน ทำให้สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้มากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง
ซึ่งอาจารย์หมอวิรุณพรท่านก็ประทับใจในบริการหลังการขาย การติดตามผล การดูแลเรื่องการใช้งานแว่นตาแต่ละอันว่าใช้งานเป็นอย่างไร ใส่สบายหรือไม่ ติดขัดอะไรไหม ซึ่งเป็นบริการส่วนหนึ่งของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกในการใส่ใจทุกขั้นตอนของการใช้แว่น
5. พันตำรวจเอก ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ อายุ 57 ปี เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งท่านได้พูดถึงแว่นตาของไอซอพติกว่า เป็นแว่นตาที่อัศจรรย์ เหมือนปาฏิหาริย์ เพราะว่าท่านมีความทุกข์ทรมานกับการใส่แว่นโปรเกรสซีฟจากทุกที่มาแล้ว ต้องขยับแว่น วุ่นวายกับแว่นทั้งวัน คือมันเป็นแว่นที่ต้องหาเหลี่ยมว่าระยะชัดอยู่ตรงไหน ต้องก้ม ต้องเงย ต้องหา จะเดินก็ต้องระวัง เวลาลงบันไดก็ต้องระวัง มันไม่เป็นธรรมชาติเลย แต่ด้วยเว่นที่ไอซอพติกทำให้ มันเหมือนกับท่านได้ชีวิตท่านคืน เหมือนกับว่าพอใส่แว่นไปแล้วไม่ต้องปรับตัวเลย สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และอาชีพของท่านเป็นนายตำรวจ ท่านต้องเคลื่อนไหวเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ เล่นกีฬา เซ็นเอกสาร ประชุม อ่านหนังสือ เคลื่อนไหวได้ดั่งใจ นี่คือที่มาของคำว่า ปาฏิหาริย์ และอัศจรรย์ เพราะเป็นแว่นที่ใส่สบายใจจนไม่ต้องไปยุ่งกับตำแหน่งแว่นเลย เหมือนแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย และท่านชอบในความละเอียด ความใส่ใจของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก