ทำไมศูนย์แว่นตาไอซอพติกจึงสร้างแต่แว่นตาระดับท็อปเอนด์

ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกก็มีแต่คำถามจากทั่วโลกว่า เขาอยากได้แว่นตาคุณภาพที่ดีที่สุด แต่ว่าอาจจะไม่มีงบประมาณ หรือ มีแต่ไม่อยากจ่าย ต้องการแว่นตาที่ราคาแพงกว่าร้านแว่นทั่วไป แต่ว่าราคาก็จะถูกกว่าแว่นตาระดับท็อปเอนด์ หรือ ระดับไฮเอนด์ หรือ ระดับแว่นเฉพาะบุคคล หลายครั้งทีเดียวที่ลูกค้าที่เคยซื้อแว่นตาราคาหลักพันถึงหลักหมื่น เขาก็อยากมาทำแว่นที่ไอซอพติก แต่ว่าไม่อยากจะจ่ายราคาหลายแสนบาท

ในยุคแรกทางศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกจะปฏิเสธ โดยบอกไปเลยตรงๆว่า เราไม่ได้ทำแว่นเกรดที่ต่ำกว่าเกรดที่เราเรียกว่าดีที่สุด เราทำเกรดเดียว แล้วทำไมถึงไม่ทำทั้งที่ว่าลูกค้าพยายามที่จะบอกว่า ถ้าไอซอพติกทำแว่นในราคาที่แพงกว่าร้านทั่วไป 30 - 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีลูกค้าจากทั่วโลกแห่กันมาที่ไอซอพติกจนทำไม่ทัน ซึ่งเราก็เคยทดสอบแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อลูกค้าแห่กันมา สำหรับไอซอพติกจะทำให้การทำงานของเรายากลำบากมาก เพราะว่าการสร้างแว่นระดับท็อปเอนด์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ที่เป็นแว่นเฉพาะบุคคลที่เพิ่มพลังสมองได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั้น มีรายละเอียด มีความต้องการ ตรวจวัด วิเคราะห์ระบบการมองเห็นทุกอย่าง ซักประวัติ ตรวจสอบตำแหน่งแว่น ออกแบบกรอบแว่น ทุกอย่างมีรายละเอียดมากกว่าแว่นตาทั่วไปหลายเท่า แต่ถ้าในแต่ละวันมีจำนวนของคนที่เข้ามาที่ไอซอพติก โดยไม่ได้นัดล่วงหน้าเข้ามาจำนวนมาก จะทำให้วุ่นวายมาก ทำให้ทางทีมงานของเราบริหารจัดการลำบาก ซึ่งมันยากมากที่เราจะควบคุมคุณภาพของการสร้างแว่นระดับท็อปเอนด์ที่ราคาหลายแสน หลายล้านบาท ให้ได้คุณภาพตามที่ควรจะเป็น นี่เป็นเหตุว่าทำไมเราถึงไม่รับ

ที่สำคัญที่สุดคือ จุดคุ้มทุนของระบบการทำแว่นของไอซอพติกเป็นระบบที่ละเอียด ปราณีต แม่นยำ สมบูรณ์ที่สุด จึงมีต้นทุนในการสร้างแว่นต่ออันไหนสูงกว่าร้านแว่นทั่วไปหลายเท่า

ทำไมไอซอพติกจึงทำแต่แว่นระดับท็อปเอนด์

เราต้องการสร้างแว่นตาที่ดีที่สุด ไอซอพติกเราบุกเบิก เราทำแว่นที่ดี และแพงที่สุดมาตลอดระยะเวลา 13 ปี และเป็นที่เดียวที่ทำมาตลอด เราสร้างแว่นตาที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าของเรามีคุณภาพชีวิตในระดับสูงสุด แว่นของไอซอพติกทำให้ฉลาดขึ้น สิทธิภาพการทำงานของสมองเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เมื่ออายุมากขึ้นการมองจะมีปัญหามากขึ้น เราจะอ่านหนังสือช้าลง เราจะทำงานช้าลง เราต้องทำงานด้วยการใช้เวลามากขึ้นแต่ได้ผลงานน้อยลง ผิดพลาดมากขึ้น และล้าตา ปวดตา นี่คืออาการตามวัย ซึ่งจะเริ่มต้นในวัยประมาณ 40 ปี และรุนแรงขึ้นในวัย 45 ปี และมากขึ้นในวัย 50 ปี และทวีขึ้นคูณไปตามอายุ

อะไรจะเกิดขึ้นเวลาใส่แว่นของไอซอพติกแล้วเรามีพลังของวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น

พลังแห่งวัยหนุ่มสาวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เราทำงานได้มากขึ้นแต่เราเหนื่อยน้อยลง เราสามารถทำงานที่เคยใช้เวลา 8 ถึง 10 ชั่วโมง เราสามารถทำเสร็จได้ในเวลาแค่ 3 ถึง 4 ชั่วโมง เนื่องจากสายตาเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น สมองเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นเหตุทำให้เราสามารถที่จะทำงานด้วยพลังที่มากขึ้น กระฉับกระเฉง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า แนะนำให้มาทดลองได้ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก

ไอซอพติกเรามีชุดทดลองเลนส์ให้ลองที่ร้านเลย เรามีโครงสร้างเลนส์ที่ละเอียดที่สุด ตอนนี้เรามีมากกว่า 40 ชุด 40 โครงสร้าง และจะเข้ามาเรื่อยๆ โดยเป้าหมายคือ เราจะมีถึง 1,000 ชุด ด้วยงเงินลงทุนมากกว่า 300 ล้านบาท ที่จะสร้างระบบการจำลองเลนส์ การทดลองเลนส์ที่ครบถ้วนที่สุด แบบไม่มีใครตามทัน

พลังของวัยหนุ่มสาวที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะเอาไปใช้กับการทำงานแล้ว เรายังเอามาใช้กับครอบครัว เพราะว่าพอหลังเลิกงาน ชีวิตของคนในวัย 40 ปีขึ้นไป เขาจะมีปัญหาในเรื่องเมื่อเสร็จจากการทำงาน กลับไปบ้านแล้วหมดแรง อยู่ในอารมณ์ไม่อยากคุยกับลูก ไม่อยากคุยกับภรรยาไม่อยากจะทำอะไร อยากหลับตาแล้วก็นั่งพัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคนที่ต้องทำมาหากิน

แว่นของไอซอพติกจะทำให้เรามีพลังเหลือในการใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีความสุข มีเวลาที่จะเล่นแต่ลูก กุ๊กกิ๊กกับภรรยา ที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้เราสามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ สนุกกับการใช้ชีวิตอย่างที่เราอยากจะให้เป็นอีกครั้งหนึ่ง จากเดิมที่พอเลิกงานเราหมดแรง รู้สึกไม่อยากจะทำอะไร แต่แว่นไอซอพติกจะช่วยทำให้เราอยากจะกลับไปทำสิ่งเหล่านี้ได้

เราสร้างแว่นขึ้นมาเพื่อให้คนใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เราพยายามที่จะทำให้คนในวัย 90 ปี กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีใกล้เคียงกับตอนเค้าอายุ 30 ปี เราจะมอบวัยหนุ่มวัยสาวกลับคืนมาใหม่ให้กับคนเหล่านี้ นอกจากนั้นแว่นของไอซฮพติกยังเป็นแว่นที่ช่วยทำให้สุขภาพของผู้ใช้ดีขึ้น

หลายคนคงจะงงว่า แว่นอะไรใส่แล้วสุขภาพดี

ถ้าสมองส่วนควบคุมการมองเห็นเรามีปัญหาเนื่องจากต้องฝืนเพ่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ สมองส่วนควบคุมการมองเห็นก็จะทำงานหนัก แล้วก็จะพลอยทำให้สมองส่วนอื่นๆ ของร่างกายทำงานไม่ปกติไปด้วย ส่งผลทำให้สมองส่วนควบคุมอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเริ่มทำงานผิดปกติ อันเนื่องมาจากสาเหตุนี้บางครั้งถึงจะพบอาการปวดตา ปวดศีรษะ ปวดท้ายทอย ปวดขมับ ปวดไหล่ ในหลายรายจะมีอาการปวดคล้ายไมเกรนแล้วก็คลื่นไส้ อาเจียร และในหลายๆ เรายังพบว่ามีอาการภูมิแพ้ร่วมด้วย ซึ่งก็ต้องค้นคว้าวิจัยต่อไป

อาการเหล่านี้เป็นอาการที่เชื่อมโยงกับปัญหาทางสายตา ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าถ้าเราสามารถที่จะเพิ่มคุณภาพการมองเห็นให้ดีกว่าวัย ให้ดีที่สุด ให้สมองส่วนควบคุมการมองเห็นไม่ต้องฝืนเพ่ง ให้อยู่ในภาวะที่สบายที่สุด เห็นภาพชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที สมองส่วนควบคุมการมองเห็นไม่ต้องทำงานหนัก ก็จะเป็นเหตุทำให้สมองส่วนอื่นๆ ในร่างกายทำงานได้สบายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น สมองส่วนที่ควบคุมอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้สภาพร่างกายดีขึ้นโดยองค์รวม และสามารถที่จะมีผลทำให้เรามีร่างกายที่ดีกว่าวัย เนื่องจากระบบทำงานดีกว่าปกติ

ดังนั้นเหตุผลที่ไอซอพติกไม่ทำแว่นแบบธรรมดา นอกจากเรื่องของทำแล้วไม่คุ้มทุนแล้ว ยังเป็นเหตุผลในเรื่องของว่าเราไม่สามารถที่จะสร้างแว่นตาที่ดีที่สุดได้เลย ถ้าเราถูกรบกวนจากการทำแว่นธรรมดาให้คนจำนวนมาก