ความทุ่มเทของศูนย์แว่นตาไอซอพติก

เรามองดูด้วยตาแต่เรามองเห็นด้วยสมอง และระบบการมองเห็นของมนุษย์เป็นระบบหนึ่งของอวัยวะในร่างกายที่มีความสำคัญมากที่สุด ระบบการมองเห็นของมนุษย์มีความสลับซับซ้อนตั้งแต่ในเรื่องของการรับภาพ การส่งสัญญาณภาพ การแปลงสัญญาณภาพ การตีความ การเก็บบันทึก กระบวนการทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

สมองส่วนควบคุมการมองเห็น เป็นสมองส่วนที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาที่เราใช้สายตา และยังทำงานอยู่แม้ว่าเราจะอยู่ในภาวะพักการใช้สายตา เพียงแต่ว่าก็ไม่ต้องมีการเกร็ง การฝืนเพ่งมากเหมือนตอนเราใช้สายตา กระบวนการเพ่งของมนุษย์เป็นกระบวนการอัตโนมัติ หมายความว่าเมื่อเรามองสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เราต้องการเก็บรายละเอียด กระบวนการเพ่งจะเกิดขึ้นทันที ความสามารถในการเพ่งของคนเราไม่เท่ากัน และความสามารถในการมองเห็นของคนเราก็ไม่เท่ากัน ที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการเพ่งของมนุษย์จะลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น

ในวัยเด็กเป็นวัยที่เรามีขีดความสามารถในการเพ่งมากที่สุด หลายคนคงเคยได้ยินว่า การตรวจวัดสายตาของเด็กเล็กต้องตรวจโดยจักษุแพทย์ และต้องตรวจในโรงพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่ต้องขยายรูม่านตาเพื่อลดการเพ่ง เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่แท้จริง ไม่ใช่ค่าสายตาที่เกิดจากการเพ่ง ส่วนใหญ่แล้วเกณฑ์ในการพิจารณาของการวัดสายตาในเด็กว่าต้องขยายม่านตาหรือไม่ ผู้พิจารณาคือจักษุแพทย์ จากประสบการณ์ที่ได้ทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับจักษุแพทย์ และนักทัศนมาตร จากการทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลา 20 ปี ค่าเฉลี่ยที่อาจจะต้องพิจารณาให้จักษุแพทย์เป็นผู้ตรวจจะประเมินไว้ที่อายุไม่เกิน 10 ปี ซึ่งควรจะพบจักษุแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการตรวจที่ตรวจโดยคนที่ไม่มีความชำนาญเพียงพอ แล้วทำให้ค่าสายตาที่ได้มีความคลาดเคลื่อน

ในการวัดสายตาเด็กโดยผู้ไม่มีความชำนาญเพียงพอ ด้วยเครื่องมือที่ไม่มีความละเอียดเพียงพอ สามารถที่จะคาดเคลื่อนได้ถึง 2 ไดออปเตอร์ (+ / - 200 )

ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกทำงานร่วมกันกับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตาเด็ก และตาเข เพื่อสร้างแว่นตาที่ควบคุมไม่ให้สายตาสั้นเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป สร้างแว่นตาที่ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะสายตาสั้นเทียมในเด็ก หรือบางครั้งเราเคยพบว่า อาจจะมีในกลุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีสายตาสั้นเทียมเกิดขึ้นได้เหมือนกันในกรณีที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

เมื่อมนุษย์มองดูด้วยตาแต่มองเห็นด้วยสมอง ดังนั้นหลักการง่ายๆ เรามองเห็นด้วยสมองเราจึงใช้พลังสมองตลอดเวลาเพื่อให้เรามองเห็นได้ ถ้าการมองเห็นเรามีปัญหา ประสิทธิภาพการทำงานของสมองของเราจะลดลงทันที ลดลงโดยตรง และลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อเราอายุมากขึ้นเรายิ่งต้องใช้ความพยายาม ใช้ทรัพยากรของสมอง ใช้พลังสมองในการมองเห็นมากขึ้น

ไอซอพติกไม่ได้สร้างแว่นตาเพียงเพื่อให้มองเห็นชัดที่สุด หรือสบายที่สุดเท่านั้น เราสร้างแว่นตาที่แบ่งเบาภาระการทำงานของสมองให้ได้มากที่สุด เราสร้างแว่นตาที่ให้ภาพคมชัดโดยไม่ต้องฝืนเพ่งในทุกมุมมอง ในทุกอริยาบท ในทุกพฤติกรรมการใช้สายตา เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระการทำงานของสมองได้มากที่สุด

แนวคิดการออกแบบการสร้างแว่นตาของไอซอพติก เราสร้างเพื่อเพิ่มพลังสมอง เป็นแว่นที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นเราจึงมีระบบการสร้างแว่นตาที่เหมาะสมสำหรับคนแต่ละวัย เพื่อจะให้คนทุกวัยสามารถกลับมามองเห็นได้ชัดทุกระยะในเสี้ยววินาทีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพการทำงานของสมองมากที่สุด โฟกัสภาพได้เร็วเหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาว และรู้สึกสบายเหมือนไม่ได้ใส่แว่น เหมือนแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย ไม่ว่าลูกค้าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

เมื่อเรามีปัญหาทางสายตา แต่เราถูกวินิจฉัยว่าเกิดจากโรคอย่างอื่น เราก็จะได้รับการรักษาแบบอื่นซึ่งเป็นการรักษาตามอาการ ซึ่งก็อาจจะมีการจ่ายยาก็ได้ เนื่องจากการจ่ายยาเป็นการจ่ายยาเพื่อรักษาตามอาการเป็นรักษาที่ปลายเหตุ ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ โอกาสที่เราจะได้รับผลข้างเคียงจากยาที่เรารับไปโดยไม่จำเป็นก็มี และอาจจะต้องมีการเพิ่มขนาดยา ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนั้นเวลาเรามีปัญหาทางสายตาหลักการง่ายๆ คือ ถ้ามีอาการปวด ไม่ว่าจะเป็นปวดตาหรือปวดหัว ผมแนะนำว่าให้พบจักษุแพทย์จะปลอดภัยที่สุด เมื่อจักษุแพทย์ตรวจแล้วพบความผิดปกติทางสายตา ท่านก็จะวินิจฉัยแล้วก็ให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป แต่ถ้าตรวจพบว่าไม่ใช่ปัญหาทางสายตา จักษุแพทย์ก็จะส่งไปตรวจตามที่จักษุแพทย์เห็นควร

ดังนั้นที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เราให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันกับโรงพยาบาล และทีมจักษุแพทย์ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าแต่ละคน เราต้องการให้ลูกค้าของเราแต่ละคนได้รับการดูแลให้ดีที่สุด ในแต่ละปีเราทำแว่น และวินิจฉัยค่าสายตา และปฏิบัติการร่วมกันกับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และตาเข เพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาทางด้านตาเข ตาเหล่ซ่อนเร้น ให้ได้รับการฟื้นฟูคุณภาพการมองเห็นให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่เป็นเด็กที่เป็นตาขี้เกียจ

มีลูกค้าหลายคนมาที่ไอซอพติก เขาอยากได้แว่นที่ใช้งานได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องการราคาถูกที่สุด ซึ่งขอบอกว่าไอซอพติกไม่ได้ทำแว่นราคาถูกที่สุด เราไม่ได้ทำให้คุณภาพต่ำ ดังนั้นคนที่มาที่ไอซอพติกคือ คนที่ต้องการแว่นที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด เพิ่มพลังสมองได้มากที่สุด แน่นอนว่าราคาไม่ถูก แว่นของไอซอพติกราคาสูงที่สุดในโลก แต่ไม่ได้แพงที่สุดในโลก เพราะว่าใส่แว่นไอซอพติกมีแต่กำไร เราถึงกล้ารับประกันความพึงพอใจ 180 วัน ใส่แว่นของไอซอพติกไปแล้ว รับประกันว่าใส่แล้วมีความสุขเพิ่มขึ้น ใส่แล้วมีพลังสมองเพิ่มขึ้น ใส่แล้วรวย ร่ำรวยเงินทอง ร่ำรวยความสุข ชีวิตดีขึ้น จึงกล้ารับประกันความพึงพอใจถึง 180 วัน แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เราเป็นที่เดียวที่กล้ารับประกัน และเราพิสูจน์ได้

ที่ไอซอพติกมาตรฐานการทำแว่น แนวคิดการทำแว่น แตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง และที่สำคัญที่สุดคือ เรามีตัวอย่างให้ลอง ลูกค้าได้ลองก่อนซื้อ และเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าแว่นตาของไอซอพติกที่ออกแบบโดยปรมาจารย์โบบิให้คุณภาพการมองเห็นที่เหนือชั้นกว่าอย่างชัดเจน และใส่แล้วมีพลังเพิ่มขึ้น สบายตาขึ้น เมื่อเทียบกับแว่นเดิมที่ใส่มา และเมื่อแว่นจริงเสร็จก็จะดีขึ้นอีก 2 เท่า ซึ่งลูกค้าของไอซอพติกเท่านั้นที่รู้

อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องรู้คือ ใส่แว่นไอซอพติกไปแล้ว ต่อไปจะไม่สามารถกลับไปใช้แว่นธรรมดาได้อีกต่อไป ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?

เวลาใส่แว่นเดิมเราเคยใส่มาหลายปี เราชินกับการที่ใช้สมองฝืนเพ่งเข้าหาแว่นตลอดเวลา แต่ที่ไอซอพติก เราสร้างแว่นเฉพาะบุคคลที่เราไม่ต้องเพ่ง สมองจึงอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และเลิกฝืนเพ่ง แล้วไปทำงานด้านความคิดที่จะทำให้เรารวยขึ้น มีพลังเพิ่มขึ้นจากการทำงาน ทุกอย่างของระบบสมองดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น อาการปวดตา ปวดหัว ปวดท้ายทอย ปวดขมับ ปวดบ่า ปวดไหล่ ลดลงหรือหายไปอย่างสิ้นเชิง และถ้าเราไปเอาแว่นที่ไม่ใช่แว่นของไอซอพติกมาใส่เมื่อไหร่ จะมีอาการปวดหัวทันที สรุปคือใส่ไม่ได้ รู้ทันทีเลยว่าภาพมันเบี้ยว ภาพมันหลอน ใส่แล้วมันไม่สบาย โฟกัสภาพไม่ได้ ดังนั้นแว่นของไอซอพติกไม่เพียงแต่เรามีเงินซื้อครั้งแรกเท่านั้น แต่เราต้องมีเงินซื้อในครั้งต่อไป เพราะว่าใส่แว่นไอซอพติกไปแล้ว เราจะไม่สามารถกลับไปใส่แว่นจากที่อื่นได้

แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกจะใช้ได้ประมาณ 3 ปี สำหรับในอนาคตศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกก็จะมุ่งหน้าพัฒนาทั้งในเรื่องของการสร้างแว่นโปรเกรสซีฟที่ดีขึ้นไปอีกทุกวัน ซึ่งเรามีการเก็บตัวเลข เก็บข้อมูล เพื่อจะสร้างแว่นที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน เพราะว่า เราศรัทธาในคุณภาพการมองเห็นของมนุษย์อย่างยิ่งยวดว่าสูงค่าเหนืออื่นใด เราชื่อว่าชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม และการมองเห็นคือชีวิต ที่ไอซอพติก เราไม่ประนีประนอมกับการทำแว่นมาตรฐานต่ำ เราไม่ประนีประนอมกับการทำแว่นราคาถูก

ในอนาคตเราจะสร้างศูนย์พัฒนาการมองเห็น ศูนย์ดูแลคุณภาพการมองเห็น ร่วมกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำทั่วโลก และจะเปิดสาขาไอซอพติกทั่วโลก และประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า “ คนไทยทำแว่นสายตาโปรเกรสซีฟได้ดีที่สุดในโลก ”

คำยืนยันจากผู้ใช้

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

ผู้สร้างภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ และ ละครพรหมลิขิต ★ ★ ★ ★ ★

แว่นที่ดี สำคัญมากกับการดำเนินชีวิต ดีใจที่เจอแว่นที่ถูกใจ ก็เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ

อ่านต่อ
นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

หัวหน้าหน่วยจุลศัลยกรรมโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ★ ★ ★ ★ ★

ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกแล้ว ทำให้เหนื่อยน้อยลง มีพลังในการทำงานมากขึ้น และมีความสุขเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิต ครับ

อ่านต่อ

รวมคำยืนยันจากผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ 3 มิติ เฉพาะบุคคล อย่างยิ่งยวด สะท้านโลกา

อ่านต่อ

เลนส์แว่นตาไอซอพติก มีจำหน่ายที่
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เท่านั้น
โปรดระวังการแอบอ้าง

go to top
คุณภาพการมองเห็นมีผลกับ คุณภาพชีวิตอย่างไร ?