คุณ สาริณี อังศุสิงห์ | รีวิว แว่นตาโปรเกรสซีฟ ไอซอพติก

คุณสาริณี อังศุสิงห์
อายุ ปี
อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ วิทยุการบินแห่งประเทศไทย

ปัญหาสายตาที่มีคือเป็นคนที่จะมีสายตายาวผสมกับสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ในช่วงเวลาที่ต้องทำงานก็ต้องใช้สายตามากโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง เป็น CEO ของวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการจราจรทางอากาศ งานจะเป็นงานที่ต้องใช้องค์ความรู้ทั้งจากการอ่าน การพิจารณาเอกสารข้อมูล แล้วก็การประชุมค่อนข้างสูง การใช้สายตาจึงเป็นประเด็นสำคัญ ชั่วโมงทำงานที่เราเคยทำจาก 6 ชั่วโมง ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ที่เราต้องใช้สายตามันก็เพิ่มขึ้นจากภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ปวดตาแล้วก็ปวดหัว แล้วที่สำคัญที่สุดการอ่านหนังสือ เราอ่านออกแต่เราอ่านเอาเรื่องไม่ได้ อ่านจนจบบางทีสมองเราคิดไม่ทันในลักษณะนั้น แล้วสายตาก็ต้องเพ่งมากจนกระทั่งเป็นประเด็นที่ต้องเป็นปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไขค่ะ

พอลองหาแว่นมาใช้ปรากฏว่ามันช่วยได้อยู่แล้วค่ะ แต่ว่ามันไม่ทำให้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไปตามบทบาทการใช้ชีวิตนั้น หรือว่าภาระหน้าที่มันตอบสนองกันได้ มันแปลว่าเราต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ ด้วยของใหม่ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ จากนั้นพี่ก็เริ่มรู้สึกว่าปัญหานี้มันต้องถูกแก้ไขไม่งั้นเราไม่สามารถดำรงชีวิตแล้วก็ทำธุรกิจได้อย่างสบายใจ จึง Search เข้าไปในคอมพิวเตอร์ว่าอยากจะหาศูนย์แว่นตาที่ดีที่สุดในประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง ก็ได้พบว่าไอซอพติกเป็นที่แรกที่ขึ้นมาเลย พี่ก็เข้าไปสืบค้นข้อมูลดู แล้วอ่านรีวิวดูก็สนใจ วันรุ่งขึ้นก็เลยติดต่อมาเลย เพราะว่ามันเหมือนเป็นปัญหาเร่งด่วนของชีวิต ก็คือการเป็นหัวหน้าหน่วยงานแล้วเรารู้เลยว่าประสิทธิภาพการทำงานของเรามันมีประเด็นติดอยู่ที่ตัวสายตาของเราที่มันไม่สามารถส่งไปถึงสมองได้อย่างเป็นระบบที่ควรจะเป็น เราก็ควรจะต้องรีบแก้ไข การวัดแว่น ไอซอพติกพี่ว่าเป็น The Best นะคะ ที่นี่มีนวัตกรรมกระบวนการในการวัด แล้วก็จัดการกับการที่จะเตรียมให้แว่นออกมาดีที่สุด มีระบบการทำงานที่จัดการระบบทันสมัย แล้วก็กระบวนการซึ่งจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี เขาถูกจัดเรียงไว้อย่างดี แล้วที่สำคัญที่สุดเลยคือ คุณภาพในกระบวนการวัดสายตา

พอมาใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ความคมชัด การอ่านหนังสือ ต้องบอกว่าดีขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ก็คือสบายตา สบายใจ เมื่ออ่านได้สบายตา แปลว่ามันส่งไปสู่สมอง แล้วก็เข้าไปสู่กระบวนการวิเคราะห์ แล้วก็ตัดสินใจ หรือ ทำงานในชีวิตประจำวันกับผู้คนได้ดีขึ้น ประเด็นที่เราต้องการคือ อ่านหนังสือต้องคมชัด มองหน้าผู้คน มองเห็นสายตาเขาต้องชัดเจน อ่านกันได้ในเวลาที่ต้องทำงานด้วยกัน แล้วก็ทำงานได้เร็ว คือหลายอย่างมันเป็นความต้องการที่ต้องอยู่ในเลนส์แค่คู่นี้คู่เดียว Distortion ที่เคยมี ความบิดเบือนของเลนส์สมัยเก่า สังเกตว่าจากการวัด หรือ จากคุณภาพของเลนส์ มันทำให้เราสบายตาแล้วก็สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้เหมือนมาจากลูกตาเราเอง ดังนั้นจึงใช้ได้เกือบทุกกิจกรรม เพียงแต่ว่าเนื่องจากเป็นคนที่เข้าใจว่าตัวเองใส่แว่นแล้วเสียบุคลิกก็ถอดบ้าง เสียบไว้บ้าง เสียบที่ศีรษะไว้บ้าง แต่ว่าใช้กับทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะทำกับข้าว นั่ง ไปเที่ยว หรือว่าออกงานต่างๆ ที่ต้องใช้สายตาก็ใช้ตลอดเวลา

แว่นคือดวงตาของเรา ดวงตาของเราเป็นสิ่งที่รับสัมผัสเพื่อที่จะส่งทุกอย่างออกไปสู่สมอง สมองก็จะส่งทุกอย่างออกมาสู่ร่างกาย แล้วก็กระบวนการคิด รวมทั้งการวิเคราะห์ และการตัดสินใจต่างๆ เดี๋ยวนี้พี่ไปเที่ยวพี่ก็ใส่แว่น คือถ้าไม่ใส่แว่นเห็นวิวจริงแต่มันไม่ได้คมชัด มันไม่ได้สวยงามเท่ากับเรามีแว่นที่มันเหมาะกับเรา การอ่านหนังสือ การใช้ชีวิตประจำวัน สิ่งต่างๆ เราไม่ต้องเดาเอาเหมือนแต่ก่อน คือทุกอย่างมันเหมือนเป็นสายตาเราตอนเด็กๆ คุ้มค่ามากค่ะ มันคุ้มค่ามาก