ประสบการณ์การใช้แว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก โดย คุณสาริณี อังศุสิงห์

คุณสาริณี : ดิฉันเป็นผู้บริหารของวิทยุการบิน เป็น CEO ของวิทยุการบิน ซึ่งต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย พอเราก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ต้องต้องตัดสินใจ คือความสำเร็จของทุกๆ องค์กรมันจะมาจากสิ่งสำคัญก็คือ ทีมที่ดี แต่พอเป็น CEO ทีมที่ดีอย่างเดียวไม่พอ เราจะต้อง Ensure ทีม แล้วก็นำทีมได้ด้วยการตัดสินใจ การตัดสินใจมันเป็นเรื่องของชีวิต มันเป็นเรื่องของความปลอดภัย มันเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะถูกชงเรื่องใดๆ มาอย่างไรก็ตาม เราต้องอ่าน เราต้องคิด พอเริ่มเข้ามาสู่ในตำแหน่งของ CEO ดิฉันเริ่มปวดศีรษะแบบเหมือนมีลูกอะไร อันเล็กๆ 7 ลูก พยายามดันออกมาจากหัว มันปวดมาก ซึ่งปกติเป็นคนทำงานหนักอยู่แล้ว พอยิ่งอยู่ในวาระอย่างนั้น มันก็ยิ่งทำงานหนัก มันไม่ใช่แค่เรื่องเอกสาร เพราะว่าลักษณะของการทำงานมันจะอยู่ทั้งในห้องประชุมเพื่อ Brainstorm ต้องเห็นหน้าคน ต้องจับประเด็นตัวหนังสือ แต่ที่สำคัญที่สุดเลยคือ สายตากับสมอง การอ่านหนังสือ

ที่ดิฉันปวดหัวเพราะว่า ใช้สมองมาก มากเสียจนมันรับไม่ได้ด้วยอายุเท่านี้ และโปรเกรสซีฟที่เคยใช้มันอาจจะยังไม่เหมาะ ดิฉันก็รู้สึกว่า จะต้องหาทางบำบัดตัวเองให้ได้ ให้สามารถมีชีวิตที่จะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ ก็ไปค้นหาว่าที่ไหนดีที่สุดในประเทศไทย แล้วเจอชื่อไอซอพติก ก็มาเลยทันทีในวันรุ่งขึ้น แล้วก็ถูกอาจารย์จับทำนู่นทำนี่ ก็ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แต่รู้เลยว่า อยากเรียนท่านๆ เลยนะคะว่า มันคุ้มค่ามากกับระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง ที่มาใช้บริการ เพราะว่ามันเปลี่ยนคุณภาพชีวิต มันเปลี่ยน Quality of work ของเราไปทันที กับการที่เหมือนเรามีลูกตาของตัวเอง มีแค่ม่านบางๆ จนบางทีเราเพลินไปแล้ว เราไม่รู้ว่ามีแว่นตานี้อยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เวลาเราอ่านหนังสือเยอะๆ คือเราอ่านออกแต่เอาเรื่องไม่ได้ อ่านเอาเรื่องไม่ได้ ใครที่อายุเกิน 60 ปี เหมือนดิฉันก็คงจะคุ้นกับคำว่า อ่านออก กับ อ่านเอาเรื่อง มันต่างกัน ต่อมาเมื่อใช้แว่นของอาจารย์ ก็ทำให้สามารถอ่านเอาเรื่องได้ แล้วก็ไวได้เหมือนเดิม ซึ่งดิฉันเป็นคนอ่านหนังสือไว เข้าใจประเด็นไว แล้วก็ในสมองมันสามารถย้ายจากกล่องนี้มาผสมกล่องนั้น แล้วออกมาเป็นการตัดสินใจได้