ประสบการณ์และแรงบันดาลใจของปรมาจารย์โบบิ

ดาวน์โหลดวิดีโอ ความละเอียด :
480p
360p

QUESTION : ประสบการณ์และแรงบันดาลใจของปรมาจารย์โบบิ

พิธีกร : รายการ ไอซอพติก อายแคร์ คุณภาพการมองเห็นระดับไฮเอนด์ อาจารย์ค่ะ กว่าที่อาจารย์ จะเป็นผู้เชียวชาญทางด้าน เลนส์โปรเกรสซีฟไฮเอนด์ ระดับโลก จนมีลูกศิษย์ ไปร้านหลายพันคนทั่วโลก อาจารย์มีแรงบรรดาลใจอะไรบ้างค่ะ

ปรมาจารย์โบบิ : ตอนผมเป็นเด็กนะคับ คุณปู่ คุณย่า คุณตา ท่านเสียหมดแล้ว คงเหลือแต่ยายท่านเดียว แล้วตอนผมเกิดมา ท่านก็สูญเสียการมองเห็น แล้วหลังจากนั้นท่านก็เสียชีวิต ผมโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่า ผมอยากจะทำให้คน มีการมอง เห็นได้ดีที่สุด มองเห็นได้มากที่สุด มองเห็นได้นานที่สุด แล้วผมโชคดี ที่เกิดในร้านแว่น คุณพ่อผมทำร้านแว่นระดับไฮเอนด์ ตั้งแต่ผมยังไม่เกิด มีอยู่วันหนึ่ง ผมอายุประมาณ 7 ขวบ ก็มีลูกค้าคนหนึ่งมาคุยกับพ่อผมว่า ถ้าพ่อผมตายไป ใครจะทำแว่น ดีๆให้เค้าใส่ เพราะเค้าไปทำแว่นที่ไหนก็ใส่ไม่ได้ ใส่ไม่สบายเหมือนทำกับคุณพ่อ คุณพ่อก็ชี้มาที่ผม บอกว่านั่นนะ ลูกชายผม ต่อไปก็จะทำแว่นให้คุณใส่ ไม่ต้องห่วง ในวินาทีนั้นผมก็เลยเกิดความฝัน ว่าผมจะต้องเก่งให้เหมือนพ่อ เก่งกว่าพ่อ จะต้องทำแว่นให้ดีที่สุดในโลก

พิธีกร : อย่างนี้ก็เหมือนกับอาจารย์ได้ซึมซับประสบการณ์ และก็เรียนรู้ประสาบการณ์มาตั้งแต่เด็ก จนโตเลย

ปรมาจารย์โบบิ : คุณพ่อผมสอน ผมมาตั้งแต่ที่จำความได้ ว่าเวลาทำแว่น ต้องทำให้ดีที่สุด ใช้เลนส์คุณภาพดีที่สุด ประกอบให้ ปราณีตที่สุด และปรับแต่งแว่นให้ดีที่สุด ให้ลูกค้าใส่สบายที่สุด สิ่งที่ผมเห็นคุณพ่อทำแว่นแต่ละอัน คุณพ่อทำด้วยความตั้งใจ สิ่งนั้นก็เลยติดตัวผมมาถึงทุกวันนี้ ว่าทุกครั้งที่ทำแว่นก็อยากจะทำให้เป็นงานระดับมาสเตอร์พีชคับ

พิธีกร : แล้วทำไมอาจารย์ถึงสนใจเรื่องของแว่นตาเลนโปรเกรสซีฟค่ะ

ปรมาจารย์โบบิ : ผมประทับใจในครั้งแรกที่ผม ทำแว่นโปรเกรสซีฟคู่แรก ให้กับลูกค้าคนหนึ่ง ลูกค้าท่านนี้อายุเกือบ 60 ปี แล้ว เมื่อลูกค้าท่านนี้รับแว่นไปใช้ได้ 1 สัปดาห์ ท่านกลับมาบอกผมว่าไม่รู้จะขอบคุณผมยังไง คือเหมือนกับได้เป็นหนุ่มอีกครั้ง หนึ่ง สบายและก็เห็นได้ชัดทุกระยะ ผมก็ได้ปิ้งขึ้นมาว่า ถ้ามันดี ผมจะต้องทำให้คนทั้งโลกใส่เลนส์ตัวนี้ให้ได้ ผมก็เลยเริ่มต้นที่ จะ ศึกษาค้นคว้าเรื่องเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟตั้งแต่นั้น 10กว่าปีที่ผมหายใจออก หายใจเข้าเป็นแว่นโปรเกรสซีฟ ศึกษาจน กระทั่ง หาหนังสือมาอ่านไม่ได้แล้ว จึงต้องไปศึกษาในอินเตอร์เน็ต ไปศึกษาตามงานวิจัย และก็เริ่มที่จะทดสอบ คิดค้น พัฒนา วิธีการประกอบแว่นโปรเกรสซีฟ ให้ได้ดีที่สุด จนถึงวันนี้ผมว่า ผาทำได้แล้ว ประกอบแว่นโปรเกรสซีฟระดับไอเอนด์ มากที่สุดในโลก จนกระทั่งได้รับเชิญให้ไปสอน ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ คนที่สนิทกับผมก็ถามผมว่าทำไมต้องไปสอน ให้คนอื่นเค้าทำเป็น ไม่กลัวเค้ามาเป็นคู่แข่งเหรอ ผมมองอย่างนี้คับ คนในโลกนี้ ที่มีปัญหาเรื่องสายตาระยะใกล้ 3 พันล้านคน ผมคงทำไม่ไหว ชีวิตผมอย่างมากทำให้ได้แค่ 1 ล้านคน

พิธีกร : อย่างนี้ ที่อาจารย์ไปเป็นวิทยากรต่างประเทศ เหมือนกับกระจายความรู้ให้คนอื่นๆ ไปช่วยผู้คนได้มากขึ้นใช่ไหมค่ะ

ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ ผมทำคนเดียวไม่ไหวครับ แล้วเวลาผมสอน ผมจะสอนเต็มที่ ไม่เคยหวงวิชา สอนแบบถึงลูกถึงคน สอนให้รู้ลึก สอนให้รู้จริง สอนให้สามารถนำไปใช้ได้จริงในวันรุ่งขึ้น สามารถที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น มีชีวิตที่ ดีขึ้น ไปทำแว่นให้คนใส่แล้วสบายขึ้น ผมมีความสุข

พิธีกร : แล้วอาจารย์มีช่องทางอื่นๆในการสอน นอกจากบินไปสอนอีกไหมค่ะ ปรมาจารย์โบบิ : มีคับ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลา ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ของผมในต่างประเทศ จะบินมาเรียนกับผมที่ไอซอฟติก เอราวัณ แบ้งค็อก อีกช่องทางหนึ่ง ก็คือทางเว็บไซต์ www.apcthai.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย สิ่งที่ภูมิใจมากที่ สุดก็คือ เว็บไซต์ที่ผมก่อตั้งขึ้นมานี้ เป็นเว็บไซต์ด้านเลนล์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลก ในตอนนี้ และที่ภูมิใจ คือ ชื่อ ครับ apcthai.com Adavance progressive addition lenses club

พิธีกร : และนั่นก็คือเรื่องราวของปรมาจารย์โบบิ และความภาคภูมิใจ เรื่องขอคนไทย สำหรับวันนี้หมดเวลาของดิฉัน และ ปรมาจารย์โบบิแล้ว กลับมาพบกันใหม่กับไอซอฟติก อาย์แคร์ คุณภาพการมองเห็นระดับไฮเอนด์ ได้ใหม่ในครั้งหน้า สวัสดีค่ะ