รายการ คุยข่าว 10 โมง
ปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ในรายการ คุยข่าว 10 โมง : " ความสำเร็จของศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก " ออกอากาศทางช่อง 5 วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2019
พิธีกร 1 : คุณผู้ชมครับ ใครที่มีปัญหาเรื่องของสายตาการมองเห็น ติดตามกันได้ในช่วงนี้เลยนะครับ เพราะเค้าบอกว่าคุณภาพของการมองเห็นจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณอย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเทคโนโลยีในการสร้างแว่นตาเฉพาะบุคคลที่จะทำให้คุณภาพการมองเห็นของคุณนั้นอยู่ในระดับสูงสุด ผลิตและประกอบอย่างเฉพาะเจาะจงตามพฤติกรรมการใช้สายตาที่แท้จริงของแต่ละบุคคล มาพูดคุยกับ คุณสมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ หรือ ปรมาจารย์โบบิ ครับ
พิธีกร 1 พิธีกร 2 ปรมาจารย์โบบิ : สวัสดีครับ
พิธีกร 2 : ปรมาจารย์โบบิ มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องของการตัดแว่น วัดแว่นสายตาเฉพาะบุคคล แล้วก็เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะกับสภาพสายตาของแต่ละคน ทุกปัญหา
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ
พิธีกร 2 : ทีนี้พูดถึงปัญหาของคนในปัจจุบันก่อน บางทีสายตาสั้นหรือสายตายาวก็ไม่ค่อยใส่แว่น ก็ทนไป หยีตาเอา ขับรถก็หยีตา
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ หรือไม่ก็เดินไปใกล้ๆครับ
พิธีกร 2 : จริงๆปัญหามันมากกว่านี้อีกใช่ไหมครับ ถ้าเราปล่อยไปแบบนั้น
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ มันจะมีปัญหาโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต มีปัญหาโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษาที่ต้องใช้สมองในการเรียนก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการเรียน ถ้าแก้คุณภาพการมองเห็นให้เค้าได้ ผลการเรียนเค้าดีขึ้นทันทีครับ
พิธีกร 1 : การทำงานด้วยใช่ไหมครับ
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ
พิธีกร 1 : เรื่องของการทำงาน คนที่ทำงานบางทีคุณภาพในการทำงานก็จะดีขึ้น
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ คือถ้าเป็นเด็กเกรดก็ดีขึ้น ถ้าเป็นคนทำงานเงินเดือนก็ดีขึ้น ถ้าเป็นนักธุรกิจรายได้ก็เพิ่มขึ้น ถ้าเรามองเห็นไม่ชัดแล้วเราไม่แก้สมองก็ทำงานหนักเพื่อพยายามให้เห็นชัด แล้วก็จะล้า สมองก็จะมีประสิทธิภาพทำงานด้านอื่นลดลง เราลองนึกถึงคนทำธุรกิจที่คิดอะไรไม่ออก ฉลาดตอนเช้าโง่ตอนบ่ายตัดสินใจผิดๆตอนเย็น ทั้งหมดทำไปทำมาตอนเช้าได้ 10 ล้าน ตอนบ่ายได้ 5 ล้าน ตอนเย็นเสีย 20 ล้าน ทำธุรกิจเจ๊ง ตัดสินใจผิด นี่คือตัวอย่างง่ายๆ
พิธีกร 1 : ครับ ของสมองของเราที่ทำงานช้าหรือผิดเพี้ยนไป ?
ปรมาจารย์โบบิ : ครับ
พิธีกร 1 : ทั้งหมดนี้มันก็ตอบคำพูดที่ว่า " คุณภาพการมองเห็นส่งผลต่อคุณภาพชีวิต " ทีนี้การจะทำให้คุณภาพการมองเห็นของคุณดีขึ้น ถ้าคุณมีปัญหาด้านของการมองเห็น นั่นคือการใช้เทคโนโลยีในการสร้างแว่นตาเฉพาะบุคคลเลยใช่ไหมครับ
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ
พิธีกร 1 : เทคโนโลยีนี้คือ ?
ปรมาจารย์โบบิ : เทคโนโลยีการสร้างแว่นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ที่สามารถทำให้ภาพที่ไปตกบนจอประสาทตามีความคมชัดในระดับสูงสุด โดยลดการทำงานของสมองส่วนที่ต้องแปลงสัญญาณภาพให้ชัด ทำให้สมองมีพลังไปทำงานด้านอื่นได้มากขึ้น สามารถเพิ่มพลังของสมองได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สมัยก่อนนั้นราคาแพงถึงคู่ละ 1ล้านบาท แต่ปัจจุบันนี้ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกประสบผลสำเร็จในการผลิตจำนวนที่มากขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการผลิต ตามเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ในปัจจุบันราคาเหลือคู่ละ 3 แสนบาท และพิเศษ ช่วงนี้ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกจัดโปรโมชั่น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ราคาพร้อมกรอบแว่นเฉพาะบุคคล จะอยู่ที่แสนกลางๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ สำหรับเลนส์รุ่นท็อปที่ดีที่สุดในโลก
พิธีกร 2 : ปรมาจารย์โบบิ ครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ศึกษาข้อมูลด้านนี้ แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกที่เป็นโทคโนโลยีล่าสุด ต่างจากโปรเกรสซีฟทั่วไปยังไงครับ
ปรมาจารย์โบบิ : ต่างกันตรงที่ โปรเกรสซีฟทั่วไปผู้ใช้จะต้องฝืนใช้สมองเพ่งปรับตัวเข้าหาแว่นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากตัวแว่นไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้ใส่แต่ละคน ดังนั้นตัวเซนเตอร์แว่นก็ไม่ตรง การเปลี่ยนแปลงกำลังเลนส์แต่ละระยะไม่นุ่มนวล โครงสร้างเลนส์ไม่เหมาะกับการทำงานร่วมกันของตา 2 ข้าง ทำให้โฟกัสภาพได้ช้า ต้องใช้สมองปรับตัวเข้าหาแว่นอยู่ตลอดเวลา มองระยะใกล้ ระยะไกล คอมพิวเตอร์ ก็ต้องเพ่ง เวลาขับรถจะมองด้านข้างก็ต้องหันไปมองทั้งศีรษะ เนื่องจากไม่สามารถใช้พื้นที่ด้านข้างมองได้ ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ คือ ขวา ซ้าย อ่านหนังสือ(ก้มหน้า) ดูคอมเงยหน้าแหงนมอง แต่เลนส์โปรเกรสซีฟแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้หมด ของแต่ละคน ด้วยการคำนวนมุมทุกมุม พฤติกรรมทุกพฤติกรรม เอามาสร้างเป็นแว่นเฉพาะขึ้นมา ซึ่งจะมีความละเอียดมากกว่าระดับหลายล้านจุด
พิธีกร 2 : อาจารย์เป็นคนตรวจวัดเอง ?
ปรมาจารย์โบบิ : ผมเป็นคนออกแบบ คำนวนค่า จะมีทีมงานวัดค่าเป็นด็อกเตอร์ทางด้านสายตา แล้วก็จะมีทีมจักษุแพทย์ครับ
พิธีกร 1 : ซึ่งจะมีความละเอียดพิถีพิถันมากในการวัดของแต่ละบุคคล
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับแต่จะมีข้อเสียอยู่ 2 อย่างคือ 1. ราคาจะแพงกว่าเลนส์ทุกชนิด 2. ใช้ระยะเวลาในการตรวจ การฟิต การคำนวนทุกอย่าง 3 ชั่วโมงในการทำ และต้องรอแว่น 2 เดือน
พิธีกร 1 : เพราะเราต้องผลิตเป็นของใครของมันเลย
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ กรอบก็ต้องผลิต เลนส์ก็ต้องผลิต
พิธีกร 2 : อ่าว กรอบไม่ใช่เอาแบบสำเร็จรูปมาแล้วเอาเลนส์ประกอบ ?
ปรมาจารย์โบบิ : ไม่ได้ครับ ต้องเป็นแว่นสร้างเฉพาะบุคคล
พิธีกร 1 : เฉพาะบุคคลเลย ?
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ คือวัดไซส์ วัดจมูก วัดความยาว
พิธีกร 1 : ก็เลยต้องใช้ระยะเวลานิดนึง
ปรมาจารย์โบบิ : ไม่นิดครับ 2 เดือน ลูกค้าก็บ่นบ้าง
พิธีกร 1 : แต่ถือว่าคุ้มไหมครับ อาจารย์ ?
ปรมาจารย์โบบิ : คุ้มไหม? เราได้แว่นที่ใส่เข้าไปแล้วเหมือนไม่ได้ใส่ แว่นเป็นเสมือนอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกาย ใส่แล้วทำให้คนอายุ 50-60 ปี เหมือนกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง มีพลังเพิ่มขึ้นสนุกสนานกับการใช้ชีวิตมากขึ้น แล้วก็ทำงานได้มากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง เป็นแว่นที่จะเรียกกันว่าใส่แล้วรวยก็ได้
พิธีกร 1 : ใส่แล้วรวยขึ้น
ปรมาจารย์โบบิ : ใส่แล้วรวยขึ้น รวยเงิน รวยความสุข รวยเวลา คือคำว่า " รวยเวลา " เนี่ยสำคัญ คนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ทำงานกันหนักไม่มีเวลาพอสายตายิ่งมีปัญหางานที่มันควรจะใช้เวลาชั่วโมงเดียวกลายเป็น 4-6 ชั่วโมง แต่ถ้าได้แว่นโปรเกรสซีฟ งานที่เคยใช้เวลา 4 ชั่วโมง เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้ว รวยเวลาคือมีเวลาไปทำอย่างอื่น มีเวลาไปใช้ร่วมกับครอบครัว ไปทำอะไรที่ตัวเองรักตัวเองชอบ คือจริงๆ ขออนุญาติพูดว่าการหาเลี้ยงชีวิตกับการใช้ชีวิตมันคนละเรื่อง คนส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ก็ต้องใช้เวลาในการหาเลี้ยงชีวิตมากขึ้น เพื่อให้ได้เงินเท่าเดิมทำให้มีเวลาในการใช้ชีวิตน้อยลง คุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งประเทศตอนนี้ลดลง แว่นโปรเกรสซีฟช่วยได้
พิธีกร 1 : จากผลสำเร็จที่ผ่านมา อาจารย์ลองบอกเป็นตัวอย่างให้เราเห็นได้ไหมครับ คนที่ได้ใช้แว่นโปรเกรสซีฟนี้แล้ว เป็นยังไงบ้างครับ
ปรมาจารย์โบบิ : เค้าบอกเลยว่าเหมือนมีชีวิตใหม่เหมือนได้กลับเป็นหนุ่ม ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่แว่น ใส่แล้วเบาเหมือนไม่มีอะไรอยู่บนหน้า เค้าใส่แล้วเวลาคิดทำงานอะไรมันลื่นไปหมด เพียงแต่ว่าข้อเสียข้อที่สามของแว่นโปรเกรสซีฟ คือเมื่อใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟไอซอพติกไปแล้วไม่สามารถใส่แว่นแบบอื่นได้แล้ว เพราะใส่แล้วจะปวดหัวทันที
พิธีกร 2 : ทำไมล่ะครับ เพราะสมองเราชิน ?
ปรมาจารย์โบบิ : สมองต้องกลับไปทำงานหนักเหมือนเดิม ต้องเรียนรู้วิธีการใส่แว่นใหม่ต้องทนปวดหัวอยู่สามเดือนกว่าจะฝืนสมองตัวเองให้ใส่แว่นธรรมดาได้
พิธีกร 2 : แว่นธรรมดาเนี่ย คนส่วนใหญ่เวลาเปลี่ยนแว่นเอามาใส่ใหม่จะรู้สึกตึงตามาก
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ
พิธีกร 2 : เสียดายเงิน ตัดแว่นมาแล้วเอาไปทิ้งได้ยังไง ก็ต้องฝืนใส่ไปจนสุดท้ายปวดหัวทำอะไรไม่ได้
ปรมาจารย์โบบิ : แต่หลังจากฝืนสมองครบ 3 เดือนใส่ได้ครับ
พิธีกร 2 : ฝืนไป 3 เดือน
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ แต่โง่ลง
พิธีกร 2 : แต่แว่นที่อาจารย์ตัด
ปรมาจารย์โบบิ : ใส่แล้วจบเลย
พิธีกร 1 : แล้วอย่างที่อาจารย์บอกตอนนี้ ราคาสามารถที่จะเข้าถึงได้แล้ว แต่ก่อนคู่นึงเป็นล้าน แต่ปัจจุบันมีโปรโมชั่นพิเศษอย่างที่อาจารย์บอกจากสามแสนตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ แล้วก็มีเลนส์ราคาประหยัดที่เราพัฒนาต่อให้คนมีรายได้น้อยสามารถจะใส่แว่นโปรเกรสซีฟบุคคลราคาประหยัด ที่ดีกว่าโปรเกรสซีฟทั่วไปในท้องตลาด
พิธีกร 1 : เท่าไรครับ
ปรมาจารย์โบบิ : ทั้งงบทั้งเลนส์ทั้งกรอบอยู่ที่หนึ่งหมื่นห้าพันบาท แต่จำกัดเฉพาะ 100 ชุดนะครับมีไม่เยอะ
พิธีกร 1 : ฟังมาขนาดนี้ หนึ่งหมื่นห้าพันบาท 100 ชุดเท่านั้น หมายเลขโทรศัพท์เดี๋ยวให้ไว้ก่อนเลยนะครับ
สายด่วนปรมาจารย์โบบิ 097-454-9944 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 086-565-5711 , 02-001-4530
LineID : @isoptik นะครับ ใช้โทรศัพท์มือถือของคุณแคปหน้าจอไว้ได้เลย ใครที่มีปัญหาสายตา หนึ่งหมื่นห้าพันบาทคุณสามารถเป็นเจ้าของได้เพียงแค่ 100 ชุดเท่านั้น
พิธีกร 2 : โปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคลนะครับ
ปรมาจารย์โบบิ : เป็นโปรเกรสซีฟอัจฉริยะเฉพาะบุคคลครับ
พิธีกร 2 : ไปหาปรมาจารย์โบบิได้ที่ไหน
ปรมาจารย์โบบิ : ได้ที่ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก หรือโทรมาหาผมได้เลยครับ
พิธีกร 1 : ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเราทุกๆคนดีขึ้น ด้วยคุณภาพของการมองเห็น
พิธีกร 1 พิธีกร 2 : ขอบคุณมากครับอาจารย์
ปรมาจารย์โบบิ : ครับ สวัสดีครับ