พิธิกร [ ณทิพรดา ] : ท่านผู้ชมค่ะ การมอง หรือมุมมองต่างๆที่ผ่านทางสายตาของเรา เป็นวิสัยทัศน์ที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจนั้นผลักดันก้าวหน้า สิ่งหนึ่งที่วันนี้เราจะมาพูดคุยกันนั่นก็คือการใช้สายตา รูปแบบจะเป็นยังไง และเราจะลงทุนที่จะเพิ่มความสุขได้อย่างไร วันนี้เราจะไปพูดคุยกันค่ะ กับคุณสมบูรณ์ น้ำทิพย์จันทราเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก สวัสดีค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : สวัสดีครับ
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : ค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกว่า วันนี้รู้สึกว่ามองจอหุ้นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น คุณผู้ชมอาจจะไม่เชื่อ แต่ที่ใส่อยู่นี้มูลค่าเท่าไหร่ค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : เฉพาะกรอบตัวนี้ 730,000 บาทครับ
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : 730,000 บาท แพงกว่าทองที่ใส่ทั้งหมดตอนนี้อีก แต่ว่ายังไม่รวมเลนส์ด้วย
ปรมาจารย์โบบิ : เลนส์จะมีให้เลือกตั้งแต่คู่ละประมาณ 40,000 - 200,000 บาท แล้วแต่ว่าต้องการความคมชัด ความสบายมากแค่ไหน
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : การที่เชิญ คุณสมบูรณ์ มาวันนี้ เค้าบอกว่ามีแว่นสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะใช่ไหมค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : แสดงว่ามีคุณสมบัติพิเศษยังไงค่ะ อันนี้เราเป็นคนคิดค้นขึ้นมาด้วยใช่ไหมค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ ผมร่วมพัฒนากับทางเยอรมันมา 20 กว่าปีแล้วครับ จนเดี๋ยวนี้ผมกล้าบอกได้เลยว่า แว่นของเราตอนนี้ดีที่สุดในโลก
พิธิกร [ ณทิพรดา ] : คุณสมบัติ คือ
ปรมาจารย์โบบิ : คือสามารถที่จะช่วยให้คนในวัย 50-60 ปี ที่เป็นนักลงทุน มีเงิน มีประสบการณ์ แต่ว่าเค้าจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออ่านเอกสาร คือนักลงทุน ต้องวิเคราะห์ข้อมูล เวลาเราอายุมากขึ้น เราก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการมอง การเพ่งมากขึ้น อาจจะไม่ถึงปวดหัว แต่ตัดสินใจได้ แต่ช้าลง คือ คนเราในวัย 40 ปี เราต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการมองเห็น เท่าๆเดิม คือเราจะมีความสามารถในการคิดอ่านช้าลงเรื่อยๆ ถ้าเกิดว่าเราสามารถแก้ไขความสามารถในการมองของคนในวัย 40-60 ปี ให้เค้ามีความสามารถคล้ายๆกับคนในวัย 30 ปีได้ เราก็สามารถทำให้รู้สึกเหมือนตอนอายุ 30 ปี ตัดสินใจได้รวดเร็ว ฉับวัย ไม่ล้า เทคโนโลยีดังกล่าว คือการพัฒนาทำให้การเห็นภาพในทุกระยะ มีความคมชัดมากขึ้น เพื่อทำให้สมองมีความสามารถ ในการจัดการความคิด อ่าน ด้านอื่นได้ดียิ่งขึ้น
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : ก็เหมือนกับว่า กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้งหนึ่ง เหมือนเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้งหนึ่ง นั้นอยากจะรู้วิธีคิดค้น แว่นตาแบบนี้ เราคิดได้ยังไงค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : คือ เราต้องพยายามทำให้คน เห็นภาพชัดทุกระยะ และชัดทุกระยะเพียงเสี้ยววินาที หมายถึง เวลาดูเอกสาร ก็สามารถดูได้ชัดเพียงเสี้ยววินาที หรือ 0.1 วินาที มองคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ข้อมูล ดูทีวีแล้วชัดทันที ต้องเป็นอย่างนั้นครับ ผมเจอลูกค้าที่เล่นหุ้น ใช้ Moniter 6 จอ สั่งมาจาก SUMSUNG ชุดหนึ่งประมาณเกือบ 3 แสน เค้านั่งระยะประมาณ 80 ซม. เค้าจะต้องดูการขึ้นลงของหุ้นแต่ละกระดาน ต้องตัดสินใจเร็ว พวกนี้เล่นเร็ว เล่นกันเป็นเสี้ยววินาที ดังนั้นถ้าเค้าช้า เค้าเคาะซื้อ เคาะขาย บางทีเคาะช้าเพียงแค่ 3 วินาที บางทีนั่นอาจจะหมายถึงเงินเป็นล้านนะครับ คือแว่นอันละล้าน บางคนเอาไปใช้ ทำเงินได้อีกประมาณ 100 ล้าน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาไปทำอะไร แต่แว่นเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ รวยมากๆ แล้ววันๆไม่ทำอะไร เดินไปเดินมา ช๊อปปิ้ง และออกงาน พวกนี้จะไม่เหมาะ
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : ถามนิดหนึ่งค่ะ หลายๆคนอาจรู้จักคุณสมบูรณ์ หรือเรียกว่าปรมาจารย์โบบิ ก็รู้จักกันตามสื่อต่างๆอยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจที่เราดึงมา เนื่องจากว่า นี้ก็เข้าสู่ช่วงปีใหม่ ปีนี้เค้าบอกว่าน่าจะเป็นปีที่มีคนทำงานหนัก มีความหวั่นไหวทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าให้จากตัวอย่างที่คุณสมบูรณ์ได้ทำ ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จทางธุรกิจ และเรามีความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจนี้ด้วย อยากจะให้เล่านิดหนึ่งค่ะว่า พื้นฐานสำคัญ และจุดมุ่งมั่นการทำธุรกิจของเรามีอะไรบ้างค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : จุดมุ่งมั่นของไอซอพติก ความสำเร็จของไอซอพติกวันนี้ มันเริ่มตั้งแต่ผมอายุ 7 ขวบ และก็มีลูกค้าของคุณพ่อ คุณพ่อผมก็ทำร้านแว่นมาก่อน แว่นตาที่คุณพ่อทำก็คือ แว่นไฮเอนด์ ตั้งแต่รุ่นพ่อ ลูกค้าใส่แว่นที่คุณพ่อทำก็ใส่สบาย ทำที่ไหนก็ใส่ไม่ได้ ย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ต้องกลับมาทำแว่นกับคุณพ่อ บินจากเชียงใหม่ มาลงกรุงเทพ และต่อเครื่องบินไปตรัง เพื่อไปทำแว่นอันเดียว แล้วก็บินกลับ มีอยู่วันหนึ่ง ตอนผม 7 ขวบ ลูกค้าคุยกับพ่อผมว่าถ้านายห้าง สว่างตายไป ใครจะทำแว่นดีๆแบบนี้ให้ผมใส่ เพราะผมไปทำที่ไหนผมก็ใส่ไม่ได้ คุณพ่อก็ชี้มาที่ผม ผมกำลังโผล่หัวขึ้นมา แล้วคุณพ่อก็บอกว่า ถ้าผมตาย ลูกชายคนนี้จะทำแว่นที่ดีที่สุดให้คุณใส่ ไม่ต้องห่วง คืนนั้นผมกลับไปฝันเลยครับ ฝันว่าคนทั่วโลก เป็นคนใหญ่คนโตทั่วโลก เข้าคิวรอเพื่อที่จะทำแว่นกับผม เพราะผมทำแว่นได้ดีที่สุดในโลก พอผมตื่นขึ้นมาวันนั้นผมก็ตั้งใจเลยว่า ชีวิตนี้ต้องทำแว่นให้ดีที่สุดในโลก ดังนั้นความมุ่งมั่นตรงนี้มันทำให้เรามีความทุ่มเท ความใจจดใจจ่อ อยู่กับเรื่องของการทำแว่น ผมบอกคนไทยทุกคนเลยว่า คนไทยเราเก่ง ถ้าเรามีความมุ่งมั่นกับอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วทำมันให้ดีที่สุด คนไทยเราเก่ง สู้คนทุกชาติได้ในโลกครับ
พิธิกร [ ณทิพรดา ] : ค่ะ แล้ว ณ วันนี้ความฝันเป็นจริงหรือยังค่ะ มีลูกค้าทั่วโลกเดินทางมาหาเราหรือยังค่ะ
ปรมาจารย์โบบิ : วันนี้เป็นจริงแล้วครับ คือเราดีใจ และเราภูมิใจว่าคนไทย สามารถตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีพ ระดับไฮเอนด์ ได้ดีที่สุดในโลก และไม่ใช่แค่นั้น ผมไม่ได้ทำคนเดียวนะ ผมมีสอนลูกศิษย์ลูกหาในเมืองไทย สอนต่างประเทศ สอนให้เค้ารู้ว่า เค้าจะช่วยให้คนมองเห็นได้ดีขึ้น พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นได้ยังไง ด้วยการทำแว่นนี้แหละ
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : ก็ถือเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คนที่ได้ผลิตภัฑณ์เราไป เหมือนจ่ายเงินไป แต่ก็สร้างความสุขให้กับชีวิตตัวเองด้วย
ปรมาจารย์โบบิ : ใช่ครับ ใส่แล้วรวยขึ้น มีความสุขมากขึ้น นั่นคือความภูมิใจในวิชาชีพ
พิธีกร [ ทอแสงรัศมี ] : และก็ภูมิใจด้วยที่ได้ใส่แว่นอันนี้ในวันนี้ ขอบคุณนะค่ะที่มาให้เกียรติกับรายการของเราในวันนี้ ขอบพระคุณค่ะ