จากแรงบันดาลใจ ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง สู่ผู้สร้างแว่นตาที่ดีที่สุด

ปรมาจารย์โบบิ ( สมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ )

ผู้อำนวยการศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก

จากแรงบันดาลใจ " ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง " สู่ผู้สร้างแว่นตาที่ดีที่สุด

จากแรงบันดาลใจ " ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง " ผมจึงมุ่งมั่น ทุ่มเท พัฒนา ให้ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก สร้างแว่นสายตาเฉพาะบุคคลที่ใส่สบาย ในทุกระยะการมองรอบทิศทาง เพราะเราไม่ได้ขายแค่แว่นสายตา แต่ขายคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมอง ได้อย่างก้าวกระโดด

" ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะสร้างแว่นสายตาระดับท็อปเอนด์ให้ดีที่สุดในโลก เพราะรัก และศรัทธาในคุณค่าการมองเห็นของมนุษย์ว่าสูงค่า ผมเชื่อว่า คุณภาพการมองเห็น มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต ความสุขของผมอยู่ที่การได้ทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ด้วยแว่นสายตาคุณภาพสูงที่ผมทำให้ "

" นิสัยส่วนตัวของผม ถ้าทำแล้วไม่ดีก็ไม่ทำเลย แต่ถ้าทำแล้วต้องสุดยอด สำหรับผมแล้ว การทำแว่นให้ลูกค้ามองเห็นได้ดีขึ้น จึงยังไม่พอ แต่ต้องมองเห็นได้ชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ใส่แล้วมีพลังเพิ่มขึ้น ทำงานได้มากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง สนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ "

isoptik
วัดมุมเทด้านข้างของกรอบแว่น

" ปรมาจารย์โบบิ " เป็นทายาทรุ่นที่สองของร้านสว่างการแว่น ร้านแว่นตาระดับไฮเอนด์ ที่รับไม้ต่อจากคุณพ่อสว่าง ที่สร้างร้านขึ้นมาเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการสร้างแว่นตาที่ดีที่สุด ด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมนี รวมถึงเป็นผู้สร้างระบบการตรวจวัดสายตา ประกอบแว่น แบบ 3 มิติ ขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ได้รับแว่นที่ใส่สบายที่สุด แม้ว่าราคาจะสูงกว่าร้านแว่นตาทั่วไปหลายเท่า แต่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ว่าแพงแต่ดี จนลูกค้าล้นออกมานอกร้าน

ช่วงวัยเด็กของปรมาจารย์โบบิ เติบโตมากับร้านแว่นระดับไฮเอนด์ของคุณพ่อ สัมผัสกับการประกอบแว่นแบบมาสเตอร์พีช สำหรับลูกค้าแต่ละคนโดยเฉพาะ พร้อมซึมซับการทำงานให้ดีที่สุดจากคุณพ่อ จนทำให้กลายเป็นคนที่ ทำอะไรต้องดีที่สุดเสมอ

" แม้จะรู้ว่าแว่นตาของคุณพ่อ เป็นแว่นตาราคาแพงที่ลูกค้าชื่นชอบ แต่ในขณะนั้นก็ยังไม่รู้เลยว่า ต้องทำแว่นให้ดีแค่ไหนถึงเป็นแว่นที่ดีที่สุด "

จนกระทั่งในวันที่ลูกค้าประจำรายหนึ่ง ได้แวะกลับมาใช้บริการที่ร้าน พร้อมกับบอกกับคุณพ่อว่า ทำแว่นร้านไหนก็ใส่ไม่สบายเท่ากับมาทำกับคุณพ่อ แม้ต้องย้ายไปไกลถึงเชียงใหม่ ก็ต้องเดินทางไกล กลับมาทำแว่นกับคุณพ่อทุกครั้ง พร้อมกับถามคุณพ่อว่า ถ้าวันหนึ่งคุณพ่อไม่อยู่ แล้วใครจะเป็นคนทำแว่นที่ใส่สบายให้ได้อีก

isoptik
คุณ ณรงค์ฤทธิ์ กับ ปรมาจารย์โบบิ

คุณพ่อชี้มาที่เด็กชายโบบิในวัย 7 ขวบ พร้อมตอบลูกค้ารายนั้นว่า " ถ้าผมไม่อยู่แล้ว ลูกชายคนนี้ จะเป็นคนทำแว่นที่ดีที่สุดให้ท่านใส่ ครับ " เด็กชายโบบิได้ฟังแล้ว รู้สึกแปลบปลาบใจเป็นอย่างมาก จนเก็บเอาไปฝัน เห็นผู้คนชั้นนำจากทั่วโลกหลายหมื่นคน บินมาทำแว่นกับตนเอง เพราะทำแว่นตาได้ดีที่สุดในโลก เมื่อตื่นขึ้นมาก็รีบวิ่งไปเล่าความฝันให้คุณพ่อฟัง ท่านก็ยิ้ม พร้อมกับบอกปรมาจารย์โบบิว่า " ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง "

จากนั้นมา ทุกลมหายใจเข้าออกของปรมาจารย์โบบิ คิดเพียงอย่างเดียวว่า จะต้องทำแว่นสายตา ที่ดีที่สุดในโลกให้ได้ เริ่มต้นจากศึกษาหาความรู้จากคุณพ่ออย่างจริงจัง พร้อมกับทุ่มเท ขวนขวาย ศึกษาหาความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจากทั่วโลก แล้วนำมาค้นคว้า วิจัย พัฒนาต่อยอด กับลูกค้าหลายหมื่นราย โดยยึดหลัก 2 ประการ คือ 1. ทำให้ดีที่สุดในแต่ละวัน และ 2. ทำให้ดีขึ้นทุกวัน

ใส่สบาย มองเห็นชัดทุกระยะ เพิ่มประสิทธิ์ในภาพการทำงาน อย่างก้าวกระโดด

ปรมาจารย์โบบิ ใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำสุดยอดแว่นสายตาอยู่หลายสิบปี จนในที่สุดก็สามารถพัฒนาการสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟ เฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีใหม่ เป็นผลสำเร็จ และกลายเป็นแว่นสายตาที่ลูกค้าให้การยอมรับ ขณะที่เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น ยังเป็นเลนส์ที่ถูกผลิตแบบกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งไม่ได้ออกแบบเฉพาะบุคคล " เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น จะมีหลากหลายโครงสร้าง ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ละโครงสร้าง จึงเหมาะสำหรับบางคน บางค่าสายตา แต่ส่วนใหญ่ ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคนที่มีค่าสายตา 2 ข้างที่แตกต่างกัน "

isoptik
การตรวจความสมดุลของกรอบแว่นตา

ทำให้ผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นเหล่านี้ ต้องใช้สมองฝืนเพ่งอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา เพื่อพยายามบังคับให้สมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็น ปรับตัวเข้าหาโครงสร้างเลนส์ที่ไม่เหมาะสม

ทำให้ประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมองลดลง การเปลี่ยนแปลงกำลังเลนส์ในแต่ละระยะไม่นุ่มนวล และไม่ละเอียดพอ ทำให้ปรับโฟกัสในแต่ละระยะได้ช้า ต้องใช้เวลาฝืนปรับตัวนานมาก หลังจากพยายามฝืนเพ่งอย่างหนักหลายเดือน จนสามารถปรับตัวเข้าหาโครงสร้างเลนส์ที่ไม่เหมาะสมได้แล้ว ก็ยังใส่ไม่สบาย กะระยะยาก เนื่องจากถูกรบกวนจากภาพวูบวาบทุกครั้งที่หันศีรษะ หรือ เหลือบตามองภาพด้านข้าง หรือ เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย หรือ ขณะขับรถ หรือเดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต้องเดินบนพื้นต่างระดับ เช่น ลงบันได ทำให้รู้สึกไม่อยากใส่แว่น เพราะถอดออกแล้วรู้สึกสบายกว่า

ทุกวันนี้ ยังคงมีผู้ใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นจำนวนมาก ต้องเสียเงินเปล่า ซื้อเลนส์แว่นตาฯ ราคาคู่ละหลายหมื่นบาท แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้จริง และไม่มีการรับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริงที่ชัดเจน ซึ่งไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ใช้แว่นตาเป็นอย่างยิ่ง

isoptik
ปรมาจารย์โบบิ และ คุณ สุทธาภูริณีญ์

" ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก " ที่ปรมาจารย์โบบิทุ่มเทความตั้งใจ และมุ่งมั่น สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจที่คุณพ่อบอกว่า " ถ้าเชื่อ ก็ทำได้ทุกสิ่ง " จึงเป็นแว่นสายตาระดับมาสเตอร์พีช ที่สร้างมาตรฐานใหม่ ในการสร้างแว่นสายตา ซึ่งแตกต่างจากร้านแว่นทั่วไป เพราะ " ไอซอพติก จะสร้างสุดยอดแว่นตาอัจฉริยะ ใส่สบายทันที ในทุกระยะ เพราะเราไม่ได้ขายแค่แว่นสายตา แต่ขายคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาทีอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมอง ได้อย่างก้าวกระโดด "

ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จะวิเคราะห์ระบบการมองเห็นอย่างละเอียด ในการสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ซึ่งออกแบบเฉพาะบุคคล ตามพฤติกรรมการใช้สายตาของผู้ใช้แต่ละคน

โดยทุก ๆ จุดของการมอง จะคำนึงถึงการทำงานร่วมกันของตาทั้ง 2 ข้าง ในทุกมุมมอง รอบทิศทาง ไม่ว่าจะเหลือบตาไปทางไหนก็ตาม ก็จะได้ภาพที่ คมชัด สมจริง อย่างสบายตา รู้สึกเป็นธรรมชาติ ปรับตัวได้เร็ว เห็นภาพคมชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที เพิ่มความสามารถในการทำงานของสมอง ได้อย่างก้าวกระโดด เหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง รู้สึกว่าแว่นตาเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย และทุกครั้งที่มีการอัพเกรดไปใช้เลนส์รุ่นที่ความละเอียดสูงกว่า ก็จะได้รับความสบายที่เพิ่มขึ้น

isoptik
วัดความโค้งของหน้าแว่น

" แว่นที่ดีที่สุด " ต้องทำให้สายตาของคนอายุมากกว่า 80 ปี กลับมาเหมือนตอนอายุ 30 ปีอีกครั้ง

" หลักง่าย ๆ ของการทำแว่นที่ดีที่สุด คือ เมื่อใส่แว่นแล้ว ต้องรู้สึกเหมือนกับไม่ได้ใส่แว่น ทำให้คนอายุมากกว่า 80 ปี ใส่แว่นไอซอพติกแล้ว รู้สึกเหมือนกลับไปอายุ 30 อีกครั้ง เพราะสามารถกลับมามองเห็นชัดทุกระยะ ในเสี้ยววินาที "

ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ได้พัฒนาเทคโนโลยีการวิเคราะห์ระบบการมองเห็น แบบดิจิตอล 3 มิติ ที่สามารถวิเคราะห์ ระบบการมองเห็นของดวงตาแต่ละข้าง ได้ละเอียด และวิเคราะห์ความสมบูรณ์ ในการทำงานร่วมกันของดวงตาทั้งสองข้าง ได้ละเอียด ถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ และรวดเร็ว กว่าระบบการตรวจวัดสายตาแบบเดิมหลายเท่า

รวมถึงมีทีมจักษุแพทย์ คอยดูแลสุขภาพสายตาอย่างละเอียด เพื่อเฝ้าระวังโรคตาเบื้องต้น ทุกชนิด ในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติทางสุขภาพตา ทีมจักษุแพทย์จะทำการส่งต่อลูกค้า ให้กับจักษุแพทย์เฉพาะทางตรวจรักษาทันที เพื่อลดความเสี่ยง ในการสูญเสียคุณภาพการมองเห็น

isoptik
รศ.ดร.สุรพล สายพานิช กับ ปรมาจารย์โบบิ

เมื่อได้ค่าสายตาอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ในทุกระยะแล้ว ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ จะกำหนดจุดศูนย์กลางของเลนส์ ให้ตรงกับจุดรวมแสงในดวงตาแต่ละข้าง ในทุกระยะ อย่างละเอียด เพื่อประกอบชุดทดลองเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก เทคโนโลยีใหม่ แต่ละโครงสร้าง บนกรอบแว่นตาจำลองเสมือนจริง ระบบสามมิติ ที่ให้คุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ ใกล้เคียงกับแว่นตาที่จะสร้างออกมามากที่สุด ให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้สายตาที่แตกต่างกัน ของลูกค้าแต่ละคนอย่างแท้จริง จากนั้นจึงทำการวัดขนาดศีรษะ พร้อมรายละเอียดต่าง ๆ บนใบหน้าอย่างละเอียด แบบ 3 มิติ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการสร้างกรอบแว่นเฉพาะบุคคล สำหรับลูกค้าแต่ละคนแล้วนำข้อมูลทั้งหมด ไปออกแบบเลนส์ที่ละเอียดกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น เพื่อสั่งผลิตเลนส์ อย่างเฉพาะเจาะจง สำหรับลูกค้าแต่ละคน

isoptik
ทดลองเลนส์

เมื่อประกอบแว่นด้วยความถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำแล้ว ปรมาจารย์โบบิจะเป็นผู้ตรวจสอบแว่นสายตาทุกอันด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่า ได้แว่นสายตา ที่ให้คุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้ ก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าแต่ละคน โดยในส่วนของขั้นตอนการส่งมอบนั้น จะต้องทำการตรวจสอบความถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ของตำแหน่งกรอบแว่นบนใบหน้าของลูกค้าอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับให้ลูกค้าได้ทดสอบความคมชัดของการมองเห็นในแต่ละระยะ ตามพฤติกรรมการใช้สายตาจริง เพื่อให้ได้คุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด อย่างแท้จริง

" ไอซอพติกจะแตกต่างจากร้านแว่นทั่วไป เพราะเราไม่ได้ขายแว่น แต่ขายคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในระดับสูงสุด และขายบริการ ที่รักษาคุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด เอาไว้ให้ได้นานที่สุด " ศูนย์แว่นระดับท็อปเอนด์ ไร้คู่แข่ง เตรียมขายแฟรนไชส์ กระจายสาขาทั่วโลก

ในอีก 3 ปี ข้างหน้า บริษัทเตรียมขายแฟรนไชส์ออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ภายใต้การกำกับ ดูแล และควบคุมมาตรฐานโดยปรมาจารย์โบบิ อย่างใกล้ชิด เริ่มด้วยประเทศจีน ตลาดโตเร็วที่สุดในโลก

isoptik
วัดระยะห่างจากกระจกตาถึงเลนส์แว่นตา

ล่าสุด ไอซอพติกได้มีการพัฒนาเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ รุ่นประหยัดสุด ความคมชัดสูง ย่อบาง 1.6 เนื้อเหนียว ขายในราคาเพียงคู่ละ 18,800 บาท รับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริง 180 วัน รับประกันผิวเคลือบเลนส์ 3 ปี " เพราะเราทำแว่นเข้าหาชีวิตของลูกค้าทั้งชีวิต ไม่ใช่ให้ลูกค้าต้องใช้ทั้งชีวิตเพื่อปรับเข้าหาแว่น เหมือนอย่างคนที่มีปัญหาสายตาส่วนใหญ่ทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน "

เปลี่ยนอุปสรรค เป็นอุปกรณ์ ก้าวสู่เป้าหมายที่ไกลกว่า

แม้ว่าปัจจุบัน คุณภาพของแว่นตาไอซอพติก ดีกว่าแว่นตาทั่วไปมากอยู่แล้ว แต่ยังต้องมีการพัฒนาต่อ เพื่อให้ได้เลนส์ที่สมบูรณ์ขึ้น ในระดับสูงสุดทุกวัน โฟกัสภาพได้เร็วขึ้น มีข้อจำกัดน้อยลง ออกแบบเฉพาะบุคคลได้ละเอียดกว่า เพิ่มพลังสมองให้ได้ในระดับสูงสุด

ปรมาจารย์โบบิกล่าวว่า สิ่งที่เป็นพลังผลักดัน ให้ไอซอพติกก้าวมาถึงจุดนี้ได้นั้น คือการใช้อุปสรรคมาเป็นอุปกรณ์ ในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้แว่นสายตาที่ดียิ่งขึ้น ช่วงไหนที่มีลูกค้าที่มีปัญหาด้านการมองเห็นที่สลับซับซ้อน แก้ปัญหาไม่จบ ก็มักจะนอนไม่หลับ จะรู้สึกว่า ต้องแก้ปัญหาให้กับลูกค้าให้ได้ บางครั้งต้องออกแบบโครงสร้างเลนส์ใหม่มากกว่า 10 ครั้ง จึงจะแก้ปัญหาได้

ในกรณีนี้ไอซอพติกจะไม่คิดค่าบริการกับลูกค้าเพิ่ม กรณีที่ลูกค้าไม่ให้ความร่วมมือ ไอซอพติกจะคืนเงินค่าเลนส์ให้ลูกค้า ภายในระยะเวลา 180 วัน นับจากวันที่รับแว่นครั้งแรก

isoptik
วัดความสูงเลนส์แว่นตาบนกรอบแว่นตา

" เวลาลูกค้าที่มีปัญหาทางสายตาสลับซับซ้อนมาก ๆ เข้ามาใช้บริการ เราจะทุ่มเทอย่างสุดกำลังความคิดว่า ทำอย่างไรให้เขามองเห็นได้ดีที่สุด โดยไม่เคยหยุดนิ่งแค่แว่นสายตาเดิมที่ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว แต่ศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ แล้วนำมาต่อยอดพัฒนาให้ได้แว่นสายตาที่ใช้งานได้ดีขึ้น สำหรับลูกค้าแต่ละคนอยู่ตลอดเวลา "

สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ไอซอพติก มีการพัฒนาองค์ความรู้ และต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี และบริการที่ดีที่สุด ให้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

ด้วยคุณภาพของแว่นสายตา และมาตรฐานในการให้บริการ ส่งผลให้ธุรกิจของไอซอพติก มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้า เป็น 1 ล้านคนในอนาคต

กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องขอบคุณทีมงานไอซอพติกทุกคน ที่อดทนกับการฝึกอย่างหนัก จนทำให้ทีมงานของไอซอพติก เป็นทีมงานที่ดีเยี่ยม โดยปัจจุบันมีทีมงาน 28 คน และกำลังขยายเพิ่ม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างทวีคูณ ในอนาคต

สิ่งที่ไอซอพติกยึดมั่นอยู่เสมอ คือ การพัฒนาแว่นตาคุณภาพดีที่สุด เน้นความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า ในระดับสูงสุด มากกว่าผลกำไรอยู่เสมอ

isoptik
ปรมาจารย์โบบิ

ดังนั้น แว่นสายตาทุกอันจากไอซอพติก จึงเป็นแว่นสายตา ที่ให้คุณภาพการมองเห็นที่ดีเยี่ยม เหนือมาตรฐานใด ๆ ออกแบบ ผลิต ประกอบ และตรวจสอบคุณภาพด้วยความประณีต ใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นหลักการที่ยึดถือมาตลอด

" ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะสร้างแว่นสายตาระดับท็อปเอนด์ให้ดีที่สุดในโลก เพราะรัก และศรัทธาในคุณค่าการมองเห็นของมนุษย์ว่าสูงค่า ผมเชื่อว่าการมองเห็นมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต ความสุขของผมอยู่ที่การได้ทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ด้วยแว่นตาคุณภาพสูงสุดที่ผมทำให้ "

" นิสัยส่วนตัวของผม ถ้าทำแล้วไม่ดี ก็ไม่ทำเลย แต่ถ้าทำแล้วต้องสุดยอด สำหรับผมแล้ว การทำแว่นให้ลูกค้ามองเห็นได้ดีขึ้นจึงยังไม่พอ แต่ต้องมองเห็นได้ ชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ ใส่แล้วรู้สึกสบายมากขึ้น มีพลังเพิ่มขึ้น ทำงานได้ดีขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง สนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ "

คำยืนยันจากผู้ใช้

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

คุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์

ผู้สร้างภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒ และ ละครพรหมลิขิต ★ ★ ★ ★ ★

แว่นที่ดี สำคัญมากกับการดำเนินชีวิต ดีใจที่เจอแว่นที่ถูกใจ ก็เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขค่ะ

อ่านต่อ
นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

นายแพทย์ วิชิต ศิริทัตธำรง

หัวหน้าหน่วยจุลศัลยกรรมโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ★ ★ ★ ★ ★

ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติกแล้ว ทำให้เหนื่อยน้อยลง มีพลังในการทำงานมากขึ้น และมีความสุขเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิต ครับ

อ่านต่อ

รวมคำยืนยันจากผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะ 3 มิติ เฉพาะบุคคล อย่างยิ่งยวด สะท้านโลกา

อ่านต่อ

เลนส์แว่นตาไอซอพติก มีจำหน่ายที่
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เท่านั้น
โปรดระวังการแอบอ้าง

go to top
คุณภาพการมองเห็นมีผลกับ คุณภาพชีวิตอย่างไร ?