" ผมเป็นคนตรงไปตรงมา และเชื่อในพระเจ้าอย่างยิ่งยวด เป็นพวกสุดขอบ สุดโต่ง ถ้าจะทำอะไร ก็จะทำสุดหัวใจไปเลย ถ้าจะทำอะไรสักอย่าง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด แบบทุ่มทุน ทุ่มชีวิตสร้าง ให้มีคุณภาพในระดับสุดยอดอยู่เสมอ และดีขึ้นทุกวัน
ผมเป็นคนที่กล้าเอาซากไปผ่าขวาน เพราะเชื่อว่า ถ้าซากเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงพอ อย่าว่าแต่ขวานเลย เกราะรถถังเหล็กกล้าหนา 1 ฟุตก็ผ่าได้สบายมาก ด้วยพลังงานจลน์ ดังนั้น ถ้าเรามีความเชื่อ เราจะทำทุกสิ่งได้ อย่างไร้ขีดจำกัด ทำเรื่องที่คนส่วนใหญ่ คิดว่า เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ทำเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่าย เพราะ " ถ้าเชื่อ ก็ทำได้ทุกสิ่ง "
ผมเป็นรุ่นที่สอง ของร้านสว่างการแว่น จังหวัดตรัง ร้านแว่นตาระดับไฮเอนด์ ที่รับไม้ต่อจากคุณพ่อสว่าง ที่สร้างขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งเป็นผู้บุกเบิก การสร้างแว่นตาที่ดีที่สุด ด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมนี รวมถึงเป็นผู้สร้างระบบการตรวจวัดสายตา ประกอบแว่น แบบ 3 มิติขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ได้รับแว่นที่ใส่สบายที่สุด แม้ว่าราคาจะสูงกว่าร้านแว่นตาทั่วไปหลายเท่า แต่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ว่าแพงแต่ดี จนลูกค้าล้นออกมานอกร้านทุกวันทำการ
ช่วงวัยเด็กของผม จึงเติบโตในร้านแว่นระดับไฮเอนด์ของคุณพ่อ สัมผัสกับการประกอบแว่นตาคุณภาพสูงสุด แบบผลงานชิ้นเอก สำหรับลูกค้าแต่ละท่าน อย่างเฉพาะเจาะจง พร้อมซึมซับการทำงานให้ดีที่สุดจากคุณพ่อ จนทำให้กลายเป็นคนที่ ทำอะไรต้องดีที่สุดเสมอ แม้จะรู้ว่าแว่นตาของคุณพ่อ เป็นแว่นตา ราคาแพง คุณภาพเยี่ยม ที่ลูกค้าชื่นชอบ แต่ในขณะนั้นก็ยังไม่รู้เลยว่า ต้องทำแว่นให้ดีแค่ไหน ถึงจะเป็นแว่นที่ดีที่สุด
จนกระทั่งในวันที่ลูกค้าประจำรายหนึ่ง ได้แวะกลับมาใช้บริการที่ร้าน พร้อมกับบอกกับคุณพ่อว่า " ทำแว่นร้านไหน ก็ใส่ไม่สบายเท่ากับมาทำกับคุณสว่าง แม้ต้องย้ายไปไกลถึงเชียงใหม่ ก็ต้องเดินทางกลับมาทำแว่นกับคุณสว่าง ที่จังหวัดตรังทุกครั้ง ถ้าวันหนึ่งคุณสว่างไม่อยู่แล้ว ใครจะเป็นคนทำแว่นที่ใส่สบายแบบนี้ให้ได้อีก "
คุณพ่อชี้มาที่ผมในวัย 7 ขวบ พร้อมตอบลูกค้ารายนั้นว่า " ถ้าผมไม่อยู่แล้ว ลูกชายคนนี้ จะเป็นคนทำแว่นที่ดีที่สุด ให้ท่านใส่ ครับ " ผมได้ฟังแล้ว รู้สึกแปลบปลาบใจเป็นอย่างมาก จนเก็บเอาไปฝัน เห็นผู้คนชั้นนำจากทั่วโลกหลายหมื่นคน บินมาทำแว่นกับผม เพราะผมทำแว่นตาได้ดีที่สุดในโลก เมื่อตื่นขึ้นมา ก็รีบวิ่งไปเล่าความฝันให้คุณพ่อฟัง ท่านก็ยิ้ม พร้อมกับบอกว่า " ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง "
นับจากนั้นเป็นต้นมา ทุกลมหายใจเข้าออกของผม คิดเพียงอย่างเดียวว่า จะต้องทำแว่นสายตา ที่ดีที่สุดในโลกให้ได้ เริ่มต้นจากรับการถ่ายทอด สุดยอดวิชาทำแว่นตาระบบ 3 มิติ จากคุณพ่อ อย่างจริงจัง พร้อมกับทุ่มเท ขวนขวาย ศึกษาหาความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจากทั่วโลก แล้วนำมาค้นคว้า วิจัย พัฒนาต่อยอด กับลูกค้าหลายหมื่นราย โดยยึดหลัก 2 ประการ คือ 1. ทำให้ดีที่สุดในแต่ละวัน และ 2. ทำให้ดีขึ้นทุกวัน
หลังจากใช้เวลาอธิษฐาน ทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้า ด้วยความเชื่อ ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับ การทำสุดยอดแว่นสายตา อย่างสุดจิต สุดใจ สุดความคิด สุดปัญญา อยู่หลายสิบปี ในที่สุดก็สามารถพัฒนาการสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟ เฉพาะบุคคล ระบบดิจิตอล 3 มิติ เทคโนโลยีใหม่ เป็นผลสำเร็จ และกลายเป็นแว่นสายตาที่ดี ที่ลูกค้าหลายท่านให้การยอมรับ จนได้รับเชิญให้สอนหลักสูตร " แว่นตาโปรเกรสซีฟทวีคูณ เทคโนโลยีใหม่ " ทั้งในเอเชีย และยุโรป ที่เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้ทันที เพิ่มคุณภาพการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟได้หลายเท่า ภายในวันรุ่งขึ้น จนที่มีชื่อเสียงว่า " คนไทย ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟท็อปเอนด์ เทคโนโลยีใหม่ ได้ดี "
เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น ที่มีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ยังเป็นเลนส์ที่ถูกผลิตแบบกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งไม่ได้ออกแบบเฉพาะบุคคล เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นเหล่านี้ จะมีหลากหลายโครงสร้าง ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ละโครงสร้าง เหมาะสำหรับบางคน บางค่าสายตา เท่านั้น และไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับคนที่มีค่าสายตา ตลอดจนตำแหน่งดวงตา 2 ข้างที่แตกต่างกัน
ผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นเหล่านี้ จึงต้องใช้สมองฝืนเพ่งอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา เพื่อพยายามบังคับให้สมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็น ปรับตัวเข้าหา โครงสร้างเลนส์ที่ไม่เหมาะสม ค่าสายตาบิดเบือนด้านข้างในระดับสูง และจุดโฟกัสของเลนส์ที่คลาดเคลื่อน ทำให้ประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมองลดลง การเปลี่ยนแปลงกำลังเลนส์ในแต่ละระยะไม่นุ่มนวล และไม่ละเอียดพอ ทำให้ปรับโฟกัสในแต่ละระยะได้ช้า ต้องใช้เวลาฝืนปรับตัวนานมาก หลังจากพยายามใช้สมองฝืนเพ่งอย่างหนักหลายเดือน จนสามารถปรับตัวเข้าหาโครงสร้างเลนส์ที่ไม่เหมาะสมได้แล้ว ก็ยังใส่ไม่สบาย กะระยะยาก เนื่องจากถูกรบกวนจากภาพวูบวาบทุกครั้งที่หันศีรษะ หรือเหลือบตามองภาพด้านข้าง หรือ เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย หรือขณะขับรถ หรือเดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต้องเดินบนพื้นต่างระดับ เช่น ลงบันได ทำให้ต้องใส่ ๆ ถอด ๆ ไม่สามารถใส่แว่นติดตาได้ตลอดทั้งวัน เพราะถอดออกแล้วรู้สึกสบายตากว่า
ทุกวันนี้ ยังคงมีผู้ใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นจำนวนมาก ต้องเสียเงินเปล่า ซื้อเลนส์แว่นตาฯ คู่ละหลายหมื่นบาท หลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้จริงสักครั้ง และไม่มีการรับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริงที่ชัดเจน ซึ่งไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ใช้แว่นตาเป็นอย่างยิ่ง
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ที่ผมทุ่มเทความตั้งใจ และมุ่งมั่น สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจที่คุณพ่อบอกว่า " ถ้าเชื่อ ก็ทำได้ทุกสิ่ง " จึงเป็นศูนย์แว่นสายตาระดับท็อปเอนด์ ที่สร้างสุดยอดแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ที่ให้คุณภาพการมองเห็น คมชัด สมจริง ระดับสูงสุด ทุกระยะในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิ์ภาพการทำงานของสมอง ได้อย่างก้าวกระโดด เหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จะวิเคราะห์ระบบการมองเห็นอย่างละเอียด ในการสร้างแว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก ซึ่งออกแบบเฉพาะบุคคล ตามพฤติกรรมการใช้สายตาของผู้ใช้แต่ละคน
โดยทุก ๆ จุดของการมอง จะคำนึงถึงการทำงานร่วมกันของตาทั้ง 2 ข้าง ในทุกมุมมอง รอบทิศทาง ไม่ว่าจะเหลือบตาไปทางไหนก็ตาม ก็จะได้ภาพที่ คมชัด สมจริง อย่างสบายตา รู้สึกเป็นธรรมชาติ ปรับตัวได้เร็ว เห็นภาพคมชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที เพิ่มความสามารถในการทำงานของสมอง ได้อย่างก้าวกระโดด เหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง รู้สึกว่าแว่นตาเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย และทุกครั้งที่มีการอัพเกรดไปใช้เลนส์รุ่นที่ความละเอียดสูงกว่า ก็จะได้รับความสบายที่เพิ่มขึ้น
" หลักง่าย ๆ ของการทำแว่นที่ดีที่สุด คือ เมื่อใส่แว่นแล้ว ต้องกลับมามองเห็นเหมือนคนสายตาปกติ และรู้สึกเหมือนกับไม่ได้ใส่แว่น ทำให้คนอายุมากกว่า 80 ปี ใส่แว่นไอซอพติกแล้ว เหมือนได้กลับไปอายุ 30 อีกครั้ง เพราะสามารถกลับมามองเห็นชัดทุกระยะ ในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ "
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ได้พัฒนาเทคโนโลยีการวิเคราะห์ระบบการมองเห็น แบบดิจิตอล 3 มิติ ที่สามารถวิเคราะห์ ระบบการมองเห็นของดวงตาแต่ละข้าง ได้อย่างละเอียด และวิเคราะห์ความสมบูรณ์ ในการทำงานร่วมกันของดวงตาทั้งสองข้าง ได้ละเอียด ถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ รวดเร็ว กว่าระบบการตรวจวัดสายตาแบบเดิม
รวมถึงมีทีมจักษุแพทย์ คอยดูแลสุขภาพสายตาอย่างละเอียด เพื่อเฝ้าระวังโรคตาเบื้องต้น ทุกชนิด ในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติทางสุขภาพตา ทีมจักษุแพทย์จะทำการส่งต่อลูกค้า ให้กับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตรวจรักษาทันที เพื่อลดความเสี่ยง ในการสูญเสียคุณภาพการมองเห็น
เมื่อได้ค่าสายตาอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ในทุกระยะแล้ว ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ จะกำหนดจุดศูนย์กลางของเลนส์ ให้ตรงกับจุดรวมแสงในดวงตาแต่ละข้าง ในแต่ละระยะ อย่างละเอียด เพื่อประกอบชุดทดลองเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟอัจฉริยะไอซอพติก แต่ละโครงสร้าง บนกรอบแว่นตาจำลองเสมือนจริง ระบบสามมิติ ที่ให้คุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ ในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงกับแว่นตาที่จะสร้างออกมามากที่สุด ให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้สายตาที่แตกต่างกัน ของลูกค้าแต่ละท่าน โดยเฉพาะเจาะจง
จากนั้นจึงทำการวัดขนาดศีรษะ พร้อมรายละเอียดต่าง ๆ บนใบหน้าอย่างละเอียด แบบ 3 มิติ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการสร้างกรอบแว่นเฉพาะบุคคล สำหรับลูกค้าแต่ละท่าน เพื่อความสบายในการสวมใส่ ระดับสูงสุด แล้วนำข้อมูลทั้งหมดไปออกแบบเลนส์ที่ละเอียดกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น เพื่อสั่งผลิตเลนส์ อย่างเฉพาะเจาะจง สำหรับลูกค้าแต่ละท่าน เพื่อให้ได้คุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ ในระดับสูงสุด อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
เมื่อประกอบแว่นด้วยความถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ เรียบร้อยแล้ว ผมจะเป็นผู้ตรวจสอบแว่นสายตาทุกอันด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่า ได้แว่นสายตา ที่ให้คุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้ ก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าแต่ละท่าน โดยในส่วนของขั้นตอนการส่งมอบนั้น จะต้องทำการตรวจสอบความถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ของตำแหน่งกรอบแว่นบนใบหน้าของลูกค้าแต่ละท่าน อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับให้ลูกค้าได้ทดสอบความคมชัดของการมองเห็นในแต่ละระยะ ตามพฤติกรรมการใช้สายตาจริง เพื่อให้ได้คุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด
" ไอซอพติกจะแตกต่างจากร้านแว่นทั่วไป เพราะเราไม่ได้ขายแค่แว่นตา แต่ขายคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ ในระดับสูงสุด และขายบริการดูแลสุขภาพสายตา ที่รักษาคุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุด ของลูกค้าแต่ละท่าน เอาไว้ให้ได้นานที่สุด เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบัน จะเป็นไปได้ "
ปัจจุบัน ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก เป็นศูนย์แว่นตาระดับท็อปเอนด์เพียงแห่งเดียว โดยไร้คู่แข่ง ด้วยมาตรฐานใหม่ที่ผมสร้างขึ้นเอง ทำให้ยังไม่มีใครก้าวขึ้นมาเทียบได้ ผมจึงวางแผนขยายธุรกิจออกไปทั่วโลก เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั้งโลก ได้ใช้แว่นตาคุณภาพสูงสุด โดยเตรียมนำ บริษัท ไอซอพติก จำกัด เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมขยายทีมงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพแว่นตา และบริการ ให้ดีขึ้นทุกวัน และขายแฟรนไชส์ออกไปทั่วโลก ภายใต้การกำกับ ดูแล และควบคุมมาตรฐาน อย่างใกล้ชิด เริ่มด้วยประเทศจีน ตลาดขนาดใหญ่ที่โตเร็วที่สุด
ล่าสุด ไอซอพติกได้พัฒนาเลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะ รุ่นประหยัดสุด ความคมชัดสูง ย่อบาง 1.6 เนื้อเหนียว ขายในราคาเพียงคู่ละ 18,800 บาท รับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริง 180 วัน รับประกันผิวเคลือบเลนส์ 3 ปี ที่ใช้งานได้ดีกว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น เหมาะสำหรับผู้มีรายได้เดือนละ 10,000 บาท ที่ต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง
" เพราะเราทำแว่นเข้าหาชีวิตของลูกค้าทั้งชีวิต ไม่ใช่ให้ลูกค้าต้องใช้ทั้งชีวิต เพื่อปรับเข้าหาแว่น เหมือนอย่างคนที่มีปัญหาสายตาส่วนใหญ่ กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน "
แม้ว่าปัจจุบัน คุณภาพของแว่นตาไอซอพติก ดีกว่าแว่นตาราคาแพงเทคโนโลยีอื่นมากอยู่แล้ว แต่ยังต้องมีการพัฒนาต่ออยู่เสมอ เพื่อให้ได้แว่นตาที่สมบูรณ์แบบขึ้นทุกวัน โฟกัสภาพได้เร็วขึ้น ออกแบบเฉพาะบุคคลได้ละเอียดกว่า เพิ่มพลังสมองให้ได้ในระดับสูงสุด เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบัน จะเป็นไปได้
สิ่งที่เป็นพลังผลักดัน ให้ไอซอพติกก้าวมาถึงจุดนี้ได้นั้น คือ การใช้อุปสรรคมาเป็นอุปกรณ์ ในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ได้แว่นสายตาที่ดียิ่งขึ้น เวลามีลูกค้าที่มีปัญหาด้านระบบการมองเห็น ที่สลับซับซ้อนมาก ๆ ผมและทีมงานฯ จะระดมสมอง จนกว่าจะสร้างคุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะ ในระดับสูงสุด ให้กับลูกค้าได้สำเร็จ แม้บางครั้งต้องออกแบบโครงสร้างเลนส์ใหม่ แล้วผลิต ประกอบใหม่ มากกว่า 10 คู่ ก็ตาม
ในกรณีนี้ ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก จะไม่คิดค่าบริการลูกค้าเพิ่มแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่หากลูกค้าไม่ให้ความร่วมมือ ไอซอพติกจะคืนเงินค่าเลนส์ให้ลูกค้า เต็มจำนวน 100 % อย่างไม่มีเงื่อนไข ภายในระยะเวลา 180 วัน นับจากวันที่รับแว่นครั้งแรก
" เวลาลูกค้าแต่ละท่าน เข้ามาใช้บริการ ทีมงาน จะทุ่มเทอย่างสุดกำลังความคิดว่า ทำอย่างไรให้มองเห็นได้ดีที่สุด โดยไม่เคยหยุดนิ่งแค่แว่นสายตาที่ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว แต่ศึกษา ค้นคว้า หาความรู้ เพิ่มเติมอยู่เสมอ แล้วนำมาต่อยอดพัฒนาให้ได้แว่นสายตาที่ใช้งานได้ดีขึ้น สำหรับลูกค้าแต่ละท่าน อยู่ตลอดเวลา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ของลูกค้าแต่ละท่าน อย่างไม่รู้สิ้นสุด "
สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ไอซอพติก มีการพัฒนาองค์ความรู้ ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยี และการบริการที่ดีที่สุด ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ส่งผลให้ธุรกิจของไอซอพติก มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้า เป็น 1 ล้านคนในอนาคต
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องขอบคุณทีมงานไอซอพติกทุกคน ที่อดทนกับการฝึกอย่างหนัก ในการสร้างแว่นตาคุณภาพสูงสุด และการให้บริการ ที่ดีที่สุด และพัฒนาให้ดีขึ้นทุกวัน จนทำให้ทีมงานของไอซอพติก เป็นทีมงานที่ดี โดยปัจจุบันมีทีมงาน 28 คน และกำลังขยายเพิ่ม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างทวีคูณ ในอนาคต
สิ่งที่ไอซอพติกยึดมั่นอยู่เสมอ คือ การพัฒนาคุณภาพแว่นตา และคุณภาพการให้บริการให้ดีที่สุด เน้นความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า ในระดับสูงสุด มากกว่าผลกำไร ดังนั้น แว่นสายตาทุกอันจากไอซอพติก จึงเป็นแว่นสายตา ที่ให้คุณภาพการมองเห็นที่ดีเยี่ยม เหนือมาตรฐานใดๆ ออกแบบ ผลิต ประกอบ และตรวจสอบคุณภาพด้วยความประณีต ใส่ใจในทุกรายละเอียด พร้อมมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ สำหรับลูกค้าแต่ละท่าน
ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะสร้างแว่นสายตาระดับท็อปเอนด์ให้ดีที่สุดในโลก เพราะรัก และศรัทธาในคุณค่าการมองเห็นของมนุษย์ว่าสูงค่า ผม และทีมงานฯ เชื่อว่า คุณภาพการมองเห็น มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต ความสุขของเรา อยู่ที่การได้ทำให้คุณภาพชีวิตของลูกค้าแต่ละท่านดีขึ้น ด้วยแว่นตาคุณภาพสูงสุดที่เราทำให้
" นิสัยส่วนตัวของผม ถ้าทำแล้วไม่ดี ก็ไม่ทำเลย แต่ถ้าทำแล้วต้องสุดยอด การทำแว่นให้ลูกค้ามองเห็นได้ดีขึ้น จึงยังไม่พอ แต่ต้องมองเห็นได้ ชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที อย่างเป็นธรรมชาติ ใส่แล้วรู้สึกสบายมากขึ้น มีพลังเพิ่มขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง สนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ "
ผมเชื่อว่า คริสตชน ได้รับพรอย่างเปี่ยมล้นจากพระเจ้า เพื่อเป็นพระพรไหลล้นสู่คนทั้งโลกอย่างไม่รู้สิ้นสุด ถ้าเราสามารถทำให้ชีวิตของใครสักคนหนึ่งดีขึ้น ด้วยพระพรจากพระเจ้าผ่านชีวิตเรา นั่นคือความดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่มนุษย์สามารถทำต่อมนุษย์ด้วยกัน ขอส่งพลังแห่งความเชื่อนี้ ไปถึงทุกท่านว่า พระเจ้าทรงสร้างแต่ละท่านอย่างมีศักยภาพ ให้มีความเชื่อ กล้าอธิษฐาน กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ อย่างเฉพาะเจาะจง และทำให้ดีขึ้นทุกวัน ตื่นขึ้นมาเช้าวันหนึ่ง จะพบว่า ท่านกลายเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในโลกไปแล้ว ครับ