เลนส์แว่นตาระดับไฮเอนด์เพื่อคุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุดทุกระยะในเสี้ยววินาที
การมองเห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาทีอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด รู้สึกสบายที่สุด คือ ความสามารถในการมองเห็นของวัยหนุ่มสาว แต่เราเริ่มสูญเสียความสามารถนี้ไปในวัย 40 ทำให้ประสิทธิ์ภาพในการทำงานลดลงอย่างรวดเร็ว เหนื่อยล้าง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์หรืองานเอกสาร อาการเหล่านี้เกิดจากสายตายาวระยะใกล้
แว่นสายตาชั้นเดียว และสองชั้นเป็นเลนส์แว่นตาคุณภาพต่ำราคาถูก แม้จะช่วยให้มองภาพระยะใกล้ได้ดีขึ้นแต่อาจทำให้สายตาเสื่อมก่อนวัยอันควร เนื่องจากต้องเพิ่มกำลังเลนส์แว่นตาทุกๆ ปีจึงได้มีการคิดค้นเลนส์แว่นตาหลายชั้นไร้รอยต่อให้สามารถมองเห็นได้ชัด ทุกระยะ และไม่ทำให้สายตาเสื่อมก่อนวัยอันควร
เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่น ที่มีจำหน่ายทั่วไปในปัจจุบัน ให้ความคมชัดต่ำปรับตัวยาก มุมมองแคบ หาระยะชัดได้ช้า ใส่ไม่สบาย ในแต่ละปีมีผู้ใช้จำนวนมากเสียเงินหลายหมื่นบาท ซื้อเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีอื่นเหล่านี้แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง ปัจจุบัน มีเลนส์แว่นตาหลายชั้นไร้รอยต่อระดับไฮเอนด์เทคโนโลยีล่าสุดจากเยอรมัน ที่ออกแบบ และผลิตเลนส์กำลังเลนส์ได้ละเอียดกว่าเลนส์แว่นตาเทคโนโลยีอื่น ตามตำแหน่งการใช้งานจริงของผู้ใช้แต่ละคนบนกรอบแว่นแต่ละอัน ปรับตัวได้ทันที มุมมองกว้าง หาระยะชัดได้อย่างรวดเร็ว รองรับความโค้งของกรอบแว่นได้ถึง 25 องศา หากตรวจวัดประกอบอย่างถูกต้อง จะได้แว่นตาที่ใส่สบาย มองเห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาทีอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด รู้สึกสบายที่สุด เหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง ราคาตั้งแต่คู่ละแสนจนไปจนถึงคู่ละสี่หมื่นบาท เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจที่ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ที่ทันสมัยที่สุด ในโลกขณะนี้ อยู่ที่ ERAWAN BANGKOK สี่แยกราชประสงค์นี่เอง วันนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ปรมาจารย์โบบิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ที่มีลูกศิษย์หลายพันคนในหลายประเทศ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นศูนย์แว่นตาระดับไฮเอนด์ที่ดีที่สุด ในโลก
สี่สิบกว่าปีก่อน เด็กน้อยโบบิ ทายาทคนที่ 6 ของ นายสว่าง และ นางนภาพร เชาวนโกศล เจ้าของร้าน สว่างการแว่น ที่ จังหวัดตรัง เติบโตในร้านแว่นของคุณพ่อด้วยความสงสัยว่า ทำไมคุณยายถึงมองไม่เห็น ไม่ว่าจะใส่แว่นคุณภาพดีที่สุดแล้วก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานคุณยายก็เสียชีวิต พอรู้เดียงสาจึงทราบว่าจอประสาทตาของคุณยายเสื่อมจนทำให้ตาบอด ด้วยความฝังใจเรื่องในอดีตที่คุณยายสูญเสียการมองเห็น เด็กน้อยโบบิจึงมีความฝันว่าโตขึ้นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา เมื่ออายุได้ 7 ขวบ มีลูกค้าถามคุณพ่อว่า คุณสว่างทำแว่นให้ผมใส่ได้ดีมาก ผมทำที่ไหนก็ใส่สบายไม่เหมือนคุณสว่างทำให้ แล้วถ้าคุณสว่างตายไป แล้วใครจะทำแว่นดีๆ แบบนี้ให้ผมใส่ คุณพ่อยิ้มกว้างแล้วชี้มาที่เด็กน้อยโบบิ แล้วตอบว่า ถ้าผมตาย ลูกชายผมคนนี้จะทำแว่นที่ดีที่สุดให้คุณใส่ นี่เป็นแรงบัลดาลใจให้เด็กน้อยโบบิ ศรัทธาในคุณค่าการมองเห็นและใฝ่ฝันอยากตรวจวัดสายตาประกอบแว่นให้ดีที่สุดใน โลก หลังจากทุ่มเทศึกษาค้นคว้าหาความรู้ แล้วต่อยอดพัฒนา คิดค้นหลายสิบปี วันนี้เขาก็ทำได้สำเร็จ
ใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟแล้วทำไมเหมือนได้ย้อนกลับไปยังวัยหนุ่มสาวอีกครั้ง
เพราะว่าเมื่อคนย่างอายุเข้าวัย 40 จะเริ่มสูญเสียความสามารถในการมองเห็นได้ชัดทุกระยะในเสี้ยววินาที และจะยิ่งมีอาการมากขึ้นตามวัย ส่วนใหญ่แล้ววัย 40 ปี จะเริ่มมองไม่ชัดที่ระยะ 40 เซนติเมตร เมื่ออายุ 50 จุดจะเริ่มมองไม่ชัดตั้งแต่ระยะ 1 เมตรลงมา ถ้าเขาใส่แว่น 2 ชั้น จะมองเห็นชัดที่ระยะ 40 เซนติเมตร กับระยะไกล ๆ แต่ถ้าระยะกลางที่อยู่ระหว่าง 40 เซนติเมตรถึง 1 เมตร จะมองเห็นไม่ชัด เมื่ออายุ 60 70 ปี จะมองเห็นไม่ชัดตั้งแต่ระยะ 4 เมตรลงมา กะระยะลำบาก เสียหลักได้ง่าย ในแต่ละปีมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ประสบอุบัติเหตุลื่นหกล้มทำให้ข้อสะโพกหัก ต้องเปลี่ยนมาใช้ข้อสะโพกเทียม
ทำไมปรมาจารย์โบบิถึงสนใจเรื่องเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ
ตอนประกอบแว่นตาโปรเกรสซีฟคู่แรกให้ลูกค้าวัยเกือบ 60 ลูกค้าบอกว่า มองชัดทุกระยะ ใส่แล้วรู้สึกสบายเหมือนได้กลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง เวลาเดินกลับบ้านมันสบาย ถนนกว้าง ทางเข้าบ้านชัดเป็นทางไปเลย มองอะไรก็ สดใส ใส่แล้วมีความสุขมากเพราะเขารักกล้วยไม้ เวลาหยิบแมลง คนที่รักกล้วยไม้จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลงนะ เขาจะใช้มือหยิบ ก็ต้องดูระยะไง เลยชอบเลนส์ตัวนี้มาก กินข้าว อ่านหนังสือ ทำอะไรก็ไม่ต้องเปลี่ยนแว่น ใช้อันเดียวพอ
ผมจึงคิดว่า ถ้าแว่นตาโปรเกรสซีฟทำให้คนวัย 60 มองเห็นได้เหมือนคนหนุ่มสาว ผมจะต้องทำแว่นตาโปรเกรสซีฟให้คนทั้งโลกใส่ ผมจึงทุ่มเทศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์โครงสร้างและทดสอบเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟมากกว่า 100 รุ่นกับผู้มีอาการสายตายาวระยะใกล้หลายพันคน แล้วต่อยอดพัฒนาการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟขั้นสูงที่ถูกต้อง เที่ยงตรงและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด ใช้เวลาหลายปีกว่าจะคิดค้นได้สำเร็จ ทุกวันนี้ฝรั่งจากยุโรปต้องบินมาเรียนกับผมนะ
เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟมีมานานหรือยัง
ที่จริง เลนส์โปรเกรสซีฟมีมาเป็นร้อยปีแล้วครับ ต้นคิดเป็นชาวอังกฤษ แต่ตอนแรกที่ทำออกมานั้นใส่ยาก ขายไม่ค่อยได้ ทั่วโลกนะ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ความที่มีราคาแพง การตรวจวัดประกอบยุ่งยาก ต้องวัดระยะห่างระหว่างเลนส์ถึงกระจกตา ดูความโค้งว่าแอ่นเข้าหรือแอ่นออก วัดมุม ก้มมุมเงย เพื่อให้ได้ค่าที่เที่ยงตรงที่สุด เพราะถ้าไม่แม่นพอ ลูกค้าจะใส่ไม่สบายหรืออาจใส่ไม่ได้เลย ที่เขาใส่เลนส์โปรเกรสซีฟกันไม่ค่อยได้ ใส่แล้วเวียนหัว ไม่มีอะไรหรอก คนทำไม่ละเอียดพอ จับใส่โป้ง เดินออกไปหัวทิ่มทั้งนั้นน่ะ เลนส์แพงขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์ถ้าทำไม่เป็น ทั่วไปเลยนิยมใส่เลนส์สองชั้นไว้มองธรรมดากับมองไกล
เคยได้ยินมาว่าแว่นตาโปรเกรสซีฟใส่ยาก เพื่อนๆ หลายคนทำมาแล้วใส่ไม่ได้เลย จริงหรือเปล่า
เป็นความจริงที่ว่า ทุกวันนี้ยังคงมีผู้ใช้แว่นตาจำนวนมาก เสียเงินหลายพันไปจนถึงหลายหมื่นบาทซื้อแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ไม่สามารถใช้งาน ได้จริง ใส่แล้วเวียนหัว ส่วนใหญ่มักเกิดจากเลือกใช้เลนส์แว่นตาคุณภาพต่ำเทคโนโลยีอื่น อีกส่วนหนึ่งเกิดจากตรวจวัดประกอบไม่ถูกต้อง
ปัจจุบันแว่นตาโปรเกรสซีฟราคาแพงส่วนใหญ่ จะใช้งานได้ดีแค่เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น อีกครึ่งหนึ่งใช้งานได้ไม่ดี ใส่ไม่สบาย และมีจำนวนมากที่ไม่สามารถใช้งานได้เลย แต่ผมสามารถทำแว่นตาโปรเกรสซีฟให้ทุกคนใช้งานได้ดี ใส่สบาย ด้วยเคล็ดลับที่ค้นคว้าพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษจนมีชื่อ เสียงไปถึงต่างประเทศ สมัยนั้นใครขายเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟได้ปีหนึ่ง 10 คู่นี่ถือว่าเก่ง ถ้าขายได้ปีละ 30 คู่ถือว่าสุดยอด แต่ผมเป็นที่ขายได้มากกว่าปีละ 1,000 คู่ นอกจากยอดขายสูงแล้ว ยังใส่สบาย ปรับตัวได้ง่าย ใส่ได้ทุกคน และสร้างมาตรฐานใหม่ของการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นไฮเอนด์ กล้าที่จะประกาศทฤษฎีใหม่ว่าด้วยการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟแบบทวี คูณว่า ผู้ใช้เลนส์แว่นตา 2 ชั้นทุกคน สามารถใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟได้เป็นอย่างดี
ตอนได้รับเชิญให้ไปสอนที่งานแสดงแว่นตาระดับโลกที่เซี่ยงไฮ้ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตาจากทั่วโลกต่างก็ตื่นเต้นกับการสาธิตเลนส์แว่นตา โปรเกรสซีฟไฮเอนด์บนกรอบแว่นจำลอง จนผู้มาร่วมงานต่างกล่าวขวัญกันว่า มีคนไทยสอนเรื่องเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟได้เก่งมาก สอนติดต่อกันตลอดหลายวัน เหนื่อยแทบขาดใจ แต่ก็ภูมิใจที่สร้างชื่อเสียงว่า คนไทยก็หนึ่งในเวทีแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับโลกจนมีลูกศิษย์หลายพันคน ที่เรียนวิชาแว่นตาโปรเกรสซีฟขั้นสูงกับผมผ่านทาง www.apcthai.com เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Advance Progressive Addition Lenses Club (APC) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเว็บไซต์ด้านการตรวจวัดสายตาประกอบ แว่นโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ที่ดี
คิดอย่างไรถึงได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตาทั่วโลก
ผู้มีอาการสายตายาวระยะ ใกล้หลายพันล้านคน ต้องการใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ ให้ผมทำคนเดียวคงไม่ไหวแน่ เพราะฉะนั้นผมจึงถือว่าร้านแว่นอื่นไม่ใช่คู่แข่งผมแต่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพ ผมจึงสอนให้คนที่สนใจแบบไม่หวงวิชา สอนแก่นแท้จริงๆ มานั่งเรียนกับผมวันเดียว รุ่งขึ้นคุณไปทำได้เลย ผมสอนลูกศิษย์เสมอว่า " ถ้าเชื่อก็ทำได้ทุกสิ่ง " ขอเพียงให้คุณเชื่อ เวลามาเรียนกับผม เพียงนั่งลงเปิดใจทำตามที่ผมสอน แล้วคุณดูสิ่งมหัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นกับคุณในวันรุ่งขึ้น นี่คือกติกา ผมขอแค่นี้
ผมศรัทธาในคุณค่าของมนุษย์ทุกคนว่ามีพลังยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้ เพียงแค่บิดสวิทช์จากความคิดแง่ลบเป็นความคิดแง่บวก ก็จะสามารถเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้ในข้ามคืน เวลาผมไปสอนเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟขั้นสูงที่ต่างประเทศ ผมได้รับการยอมรับว่าสอนได้ผลทันตาเห็นมากที่สุด เพราะผม สามารถเปลี่ยนความคิดและจิตใจของผู้เรียนได้ ผมพูดเสมอว่า All you have to do is only believe and do what I say. Tomorrow, the miracle will happen in your optic shop. เชื่อเถิดเท่านั้น ทำตามที่ผมบอก แล้วสิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นในร้านแว่นของคุณเอง ผมมีชื่อเสียงด้านการสอนแล้วได้ผลจริง เปลี่ยนชีวิตผู้เรียนได้ในข้ามคืนแบบก้าวกระโดด ถ้าเราเปลี่ยนชีวิตของใครสักคนให้ดีขึ้นได้นั่นแหละคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่และ สุดยอดแล้วของชีวิต
สอนเกือบทุกวัน วันละแปดชั่วโมงอยู่ปีกว่า ทางมาเลเซีย สิงคโปร์ ก็เชิญผมไปสอน ปีถัดมาก็ไปเซี่ยงไฮ้ จนต้องเปิดเว็บไซต์ และเว็บบอร์ด www.apcthai.com เผยแพร่เทคนิคการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟขั้นสูง กล้ารายงานผลการทดสอบเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟแต่ละรุ่นอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟคุณภาพต่ำเทคโนโลยีอื่นราคาแพงหลายรุ่น คุณภาพไม่สมราคา จนผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟยักษ์ใหญ่ถึงกับโทรมา ข่มขู่ผม และครอบครัวหลายครั้ง
คิดอย่างไรถึงทำศูนย์แว่นตาระดับไฮเอนด์ ที่ดีที่สุดในโลก
จุดก้าวกระโดด เริ่มจากทดลองทำร้านแว่นแนวคิดใหม่ร้านแรกในโลกที่ออกแบบเพื่อขายแว่นตา
โปรเกรสซีฟคุณภาพสูงโดยเฉพาะจนสามารถขายแว่นตาโปรเกรสซีฟคุณภาพสูงได้มากที่ สุดในโลก ที่น่าแปลก คือ จำนวน 98% ของลูกค้ามาจากแถบสแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ที่ต้องการแว่นตาคุณภาพดีที่สุด แล้วมีการบอกต่อพ่อแม่ ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ว่ามีร้านแว่นตาร้านหนึ่งในเมืองไทย ที่ทำแว่นตาโปรเกรสซีฟได้ดี ใส่ได้สบาย เหมือนวัยหนุ่มสาว ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังถึงเมืองนอก มีลูกค้าจากยุโรปหลายรายมาทำแว่นตาโปรเกรสซีฟกับผม มาขอโทษผมเพราะรู้สึกผิดที่เคยดูถูกผมอยู่ในใจว่า คุณภาพคงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเห็นราคาแค่สี่หมื่นบาทก็นึกแล้วว่าต้องห่วยแน่ ๆ แต่เมื่อได้ใส่แล้วกลับเหนือกว่าแว่นอันละแสนห้าที่เขาเพิ่งทำมาจากยุโรป เหตุการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะโกอินเตอร์
หลายคนเคยบอกว่าแว่นสายตาถ้าตั้งเซ็นเตอร์ไม่ตรง จะใส่ไม่สบาย ปรมาจารย์โบบิ ทำอย่างไรให้เซ็นเตอร์ตรง
ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติกประกอบแว่นระบบสามมิติ เริ่มจากใช้ดิจิตอลพีดีมิเตอร์ ( Digital Pupil Distance Meter ) วัดจุดกึ่งกลางตา จมูกคนเราไม่ได้อยู่กึ่งกลางใบหน้าเสมอไป จึงต้องหาจุดกึ่งกลางให้เจอ ถ้าวางจุดตรงนี้ผิด ก็คือการแถมปริซึมให้คนไข้ นี่คือที่มาว่าทำไมตัดแว่นมาแล้ว แว่นเอียง ดูแปลกๆ ต้องปรับสายตาอีกพักหนึ่ง เมื่อได้ค่าจุดกึ่งกลางตาดำมาแล้วก็ต้องตั้งเซ็นเตอร์เลนส์ให้แม่นยำด้วย เครื่องวัดกำลังเลนส์ดิจิตอลแบบ 9 ลำแสง ที่สามารถวัดกำลังเลนส์ได้ละเอียดถึง 0.01 ไดออปเตอร์ แล้วฝนเลนส์ด้วยระบบสามมิติด้วยความแม่นยำถึง 0.01 มิลลิเมตร หลังจากนั้นจึงปรับแป้นจมูกให้พอดีกับสันจมูกของผู้ใช้แว่นอย่างปราณีตแล้ว ตรวจสอบความถูกต้องของเซ็นเตอร์อีกครั้ง
ร้านแว่นส่วนใหญ่ทั่วโลกขายเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟคุณภาพสูงเหมือน ปรมาจารย์โบบิ หรือเปล่า
ร้านแว่นส่วนใหญ่เชื่อว่า เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ราคาแพงมาก มีลูกค้าเพียงไม่กี่คนในโลกที่กล้าซื้อ จึงขายแต่เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟคุณภาพต่ำเทคโนโลยีอื่น แต่ผมเชื่อว่าผู้มีปัญหาทางสายตาทุกคน ต้องการใช้เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์คุณภาพสูง และเมื่อได้ทดลองใช้ ลูกค้ายอมรับว่าแพงแต่ดี ใช้ได้หลายปี ค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละพันกว่าบาท ผมจึงสามารถขายเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์คู่ละหลายหมื่นบาทได้มากที่สุด จนมีชื่อเสียง
ทราบมาว่าแว่นตาของไอซอพติก ตรวจวัดละเอียดมาก อันละเป็นแสนๆ สั่งทีรอเป็นเดือนๆ
ราคาเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟไฮเอนด์ มีให้เลือกตั้งแต่คู่ละ 18,000 บาท 80,000 บาท ใช้เวลาทั้งสิ้นเฉลี่ยแล้วต่อชิ้นประมาณ 45 วันตั้งแต่กระบวนการตรวจวัด วิเคราะห์ค่าสายตา ทดลองเลนส์ ออกแบบเลนส์ สั่งเลนส์ ประกอบแว่นตาจนถึงส่งมอบให้กับลูกค้า เรามุ่งมั่นทำให้ชิ้นงานทุกชิ้นมีความละเอียด ถูกต้อง แม่นยำมากที่สุด
ลูกค้าของ ปรมาจารย์โบบิ เป็นกลุ่มไหน
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ต้องการคุณภาพการมองเห็นระดับสุดยอด ใส่แล้วเป็นผลดีต่อสายตา มองเห็นได้ชัด ใส่สบาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น บ่อยครั้งที่ลูกค้าบอกผมว่า แว่นของผมใส่แล้วรวยขึ้น สบายขึ้น มีความสุขมากขึ้น 98% เป็นระดับ Chief Executive Officer ( CEO ) , Managing Director ( MD ) , ผู้บริหารระดับสูง ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว หรือ Specialist หรือไม่ก็เจ้าของกิจการ
มีความทรงจำอันแสนประทับใจกับลูกค้าคนไหนเป็นพิเศษไหม
ลูกค้าชาวนอร์เวย์มาทำแว่นโปรเกรสซีฟกับผม แล้วใช้ดีกว่าแว่นเดิมที่ทำจากยุโรปมาก จึงพาคุณพ่อวัย 85 ปี ที่ต้องทุกข์ทรมานกับการพกแว่นตาชั้นเดียวอันหนึ่งไว้มองไกล อีกอันหนึ่งไว้มองใกล้ เคยทำแว่นตาสองชั้น และแว่นตาโปรเกรสซีฟในยุโรป แต่ใช้ไม่ได้ ผมให้ทดลองใส่เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟคุณภาพสูงบนกรอบแว่นจำลอง ปรากฎว่าลูกค้ารายนี้ตื่นเต้นมาก ที่มองได้ชัดทุกระยะ เดินขึ้นลงบันไดได้อย่างสบาย เห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของลูกค้าแล้ว หายเหนื่อย รู้สึกคุ้มค้าที่ทุ่มเทพัฒนาการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟ ที่ลูกค้าสามารถทดลองด้วยตนเองได้ทันทีก่อนซื้อ
ปัจจุบัน ศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก ได้ย้ายมาอยู่
อาคาร AIA CAPITAL CENTER ( AIACC ) ชั้น 2 โซนร้านค้าหน้าตึก ถ.รัชดาภิเษก เลยสถานทูตจีน 20 เมตร ติดกับ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แห่งใหม่ และ อยู่ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานี ศูนย์วัฒนธรรม 120 เมตร
เปิดวันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 10:00 - 19:00 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันจันทร์
โทรนัดเวลา : 086-565-5711 หรือ 086-970-0794
( เพื่อให้ได้รับคุณภาพการบริการในระดับสูงสุด กรุณานัดล่วงหน้า )