เขียนโดย นักทัศนมาตร
อาการใส่แว่นแล้วปวดหัว เวียนหัว หรือรู้สึกเมื่อยล้าง่าย อาจไม่ใช่เรื่องปกติอย่างที่คิด แต่เป็นสัญญาณเตือนว่า แว่นที่คุณใส่อาจไม่เหมาะสมกับสายตาจริง ซึ่งการใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาส่งผลกระทบต่อดวงตาและสุขภาพโดยรวมมากกว่าที่เราคิด ไม่ใช่แค่รู้สึกเวียนหัวหรือปวดตาชั่วคราว แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาสายตาที่แย่ลงในระยะยาว บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึง 5 ผลเสียที่คุณต้องรู้ เพื่อให้ทุกคนตระหนักและดูแลดวงตาได้อย่างถูกต้อง
อาการที่อาจบ่งบอกว่าแว่นไม่ตรงกับสายตาจริง
-
ปวดตา ตาล้าง่ายหลังใช้งานแว่นนาน ๆ
-
ปวดหัว เวียนหัว หรือมึนงง เมื่อเพ่งมองหรือเปลี่ยนทิศทางการมองบ่อย ๆ
-
มองเห็นภาพเบลอ หรือเป็นเงาซ้อน ไม่ชัดเจนทั้งระยะใกล้และไกล
-
รู้สึกไม่สบายตา หรือต้องหรี่ตาเวลาเจอแสงจ้า
-
ต้องขยับแว่นขึ้นลงบ่อย ๆ เพื่อหาจุดที่ชัดเจน
-
ประสิทธิภาพในการทำงานหรือเรียนลดลง เพราะรู้สึกไม่สบายตา
ใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตา ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
การใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องความสบายตาเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบที่อันตรายต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว ได้แก่
1. สายตาสั้นเพิ่มมากขึ้นในเด็กและวัยรุ่น
เด็กและวัยรุ่นที่ใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาเสี่ยงสายตาสั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าใส่แว่นที่มีค่าสายตาสั้นเกินความจำเป็นจะยิ่งกระตุ้นให้กระบอกตายาวขึ้น ทำให้สายตาสั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนี้ ถ้าเลนส์แว่นไม่เหมาะสม จะทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักเกินไปเพื่อพยายามปรับโฟกัส ส่งผลให้ปัญหาสายตาแย่ลงเรื่อย ๆ และแก้ไขได้ยากเมื่อโตขึ้น
2. ผู้สูงวัยเสี่ยงสายตายาวตามวัยเร็วขึ้น
ผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยกลางคนขึ้นไป การใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาจะเสี่ยงสายตายาวตามวัย หรือสายตายาวตามอายุเร็วกว่าปกติ เพราะเลนส์ตาและกล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเพ่งมองในระยะใกล้ อาการปวดล้าจากการเพ่งอย่างต่อเนื่องอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะสายตายาวตามวัยได้เร็วขึ้นกว่าปกติ หรือทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการแก้ไขด้วยเลนส์ที่เหมาะสมกับสภาพดวงตา
3. สมองและระบบประสาทการมองเห็นทำงานหนักขึ้น
พอแว่นตาที่เราใส่มันไม่ตรงกับค่าสายตาจริง ๆ สมองและระบบประสาทการมองเห็นจะต้องทำงานหนักอย่างมากเพื่อพยายามปรับภาพที่รับเข้ามาให้คมชัดและสมดุล อาการนี้ไม่ได้ทำให้แค่ตาล้า ปวดหัว หรือเวียนหัวเท่านั้น แต่หากเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้สมองเกิดความเหนื่อยล้าสะสม ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย ประสิทธิภาพในการคิดและตัดสินใจลดลง
4. สมดุลการทรงตัวเสีย
ระบบการทรงตัวของร่างกายต้องอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างหู ตา และระบบประสาท เมื่อใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตา จะทำให้การรับรู้เชิงลึกและการกะระยะผิดพลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสมดุลการทรงตัว ทำให้รู้สึกโงนเงน เดินเซ หรือเดินผิดจังหวะได้ง่าย ผู้สูงอายุจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะระบบการทรงตัวเริ่มเสื่อมตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
5. กระทบต่อคุณภาพชีวิต
ผลกระทบจากการใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องสุขภาพดวงตาเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมด้วย เช่น ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง การเรียนรู้ช้าลง เพราะต้องใช้เวลาในการปรับโฟกัสหรือรู้สึกไม่สบายตาอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการมองเห็นที่ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ยานพาหนะ หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง
ต้องทำอย่างไร หากแว่นที่ใส่ไม่ตรงค่าสายตา
หากแว่นที่ใส่ไม่ตรงค่าสายตา สิ่งแรกที่ต้องทำ คือนัดหมายเพื่อเข้ารับการตรวจวัดสายตาจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรที่มีประสบการณ์ เพื่อตรวจหาค่าสายตาที่ถูกต้อง และรับคำแนะนำในการเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับดวงตาและไลฟ์สไตล์การใช้งาน เช่น เลนส์สายตาเดียว เลนส์สองชั้น หรือเลนส์โปรเกรสซีฟที่ตอบโจทย์การมองเห็นในหลายระยะ หลีกเลี่ยงการซื้อแว่นสำเร็จรูป เพราะไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะบุคคลและอาจทำให้ปัญหาสายตาแย่ลงได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตา
1. ใส่แว่นต่ำกว่าค่าสายตาได้ไหม
ไม่แนะนำให้ใส่แว่นที่มีค่าต่ำกว่าหรือสูงกว่าค่าสายตาจริง เพราะจะทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักเกินไปเพื่อพยายามปรับโฟกัส ทำให้เกิดอาการตาล้า ปวดหัว และอาจเร่งให้สายตาแย่ลงได้ในระยะยาว ทางที่ดีที่สุดคือการใส่แว่นที่ตรงกับค่าสายตาที่วัดได้จากผู้เชี่ยวชาญ
2. เราจะรู้ได้ไงว่าค่าสายตาเปลี่ยน
สัญญาณที่บ่งบอกว่าค่าสายตาเปลี่ยน ได้แก่ มองใกล้หรือมองไกลไม่ชัด มีอาการปวดหัว ปวดตา หรือตาล้าง่ายขึ้น รู้สึกเวียนหัว หรือมึนงงเมื่อใส่แว่น มองเห็นภาพซ้อน หรือมีเงา และต้องขยับแว่นบ่อยๆ เพื่อปรับโฟกัส หากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวัดสายตาใหม่ทันที
สรุปบทความ
การใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่จะมองข้ามได้ เพราะอาจนำไปสู่ผลกระทบมากมายต่อสุขภาพดวงตาและคุณภาพชีวิตของเรา การสังเกตอาการผิดปกติและเข้ารับการตรวจวัดสายตาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลดวงตาให้แข็งแรงและมองเห็นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
หากคุณกำลังประสบปัญหาการมองเห็น ไม่ว่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง หรือสายตายาวตามอายุ สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ และนักทัศนมาตรด้านสายตาได้ที่ ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เราให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นคุณภาพสูง มีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
คำยืนยันจากผู้ใช้ แว่นตาโปรเกรสซีฟ อัจฉริยะไอซอพติก มากกว่า ท่าน คลิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81-538-4200
อีเมล : isoptik@gmail.com