เตือนภัย! ปิดไฟเล่นโทรศัพท์ ทำร้ายสายตาโดยไม่รู้ตัว

หลายคนมีพฤติกรรมปิดไฟเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนโดยไม่ทันคิดว่าอาจส่งผลเสียต่อสายตาในระยะยาว ความเคยชินนี้ดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่รู้หรือไม่ว่าการจ้องหน้าจอในที่มืดอาจกระทบต่อดวงตามากกว่าที่คิด ลองมาดูกันว่าทำไมพฤติกรรมนี้ถึงเป็นอันตราย และจะป้องกันได้อย่างไร

ปิดไฟเล่นโทรศัพท์มีผลเสียต่อสายตาอย่างไร

การปิดไฟเล่นโทรศัพท์ทำให้เกิดความแตกต่างของความสว่างระหว่างหน้าจอกับสภาพแวดล้อม ทำให้ดวงตาต้องปรับตัวอย่างหนัก กล้ามเนื้อตาทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการตาล้า ตาพร่ามัว ตาแห้ง และปวดเบ้าตาได้ นอกจากนี้ แสงสีฟ้าจากหน้าจอสามารถทะลุเข้าไปทำลายเซลล์รับแสงในดวงตา ดังนั้น หากปิดไฟเล่นโทรศัพท์นาน ๆ มีโอกาสที่การมองเห็นจะแย่ลงได้

เล่นโทรศัพท์ในที่มืด เสี่ยงตาบอดจริงหรือไม่

การปิดไฟเล่นโทรศัพท์ไม่ได้ทำให้ตาบอดโดยตรง แต่อาจก่อให้เกิดความไม่สบายตาชั่วคราว เนื่องจากดวงตาต้องทำงานหนักกว่าปกติ ในสภาพแวดล้อมที่มืด เราจะต้องเพ่งมองหน้าจอมากขึ้น และรับแสงสะท้อนเข้าตามากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาเกิดความเมื่อยล้า แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อพักการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้ส่งผลถาวรต่อสายตาหรือนำไปสู่ภาวะตาบอดแต่อย่างใด

ผลเสียด้านอื่น ๆ จากการปิดไฟเล่นโทรศัพท์

นอกเหนือจากผลกระทบต่อดวงตา การปิดไฟเล่นโทรศัพท์ยังส่งผลเสียต่อร่างกายในหลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อเล่นในท่าที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดอาการปวดคอ ปวดไหล่ จากการก้มหน้ามองหน้าจอเป็นเวลานาน นอกจากนี้ แสงสีฟ้าจากหน้าจอยังรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับ ทำให้นอนหลับยากขึ้น คุณภาพการนอนลดลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในวันถัดไป และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ในระยะยาว

วิธีป้องกันผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์ในที่มืด

วิธีป้องกันผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์ในที่มืด มีดังนี้

1. เปิดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอ

การเล่นโทรศัพท์ในห้องที่มืดสนิททำให้ดวงตาต้องทำงานหนักขึ้น ทางที่ดีควรเปิดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอเพื่อลดความแตกต่างระหว่างหน้าจอกับสภาพแวดล้อม แนะนำให้ใช้ไฟที่กระจายแสงอย่างนุ่มนวล เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะหรือไฟติดผนัง แทนการเปิดไฟหลักที่สว่างจ้าเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดแสงสะท้อนบนหน้าจอและเพิ่มความเมื่อยล้าของดวงตา

2. ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม

ความสว่างของหน้าจอที่มากหรือน้อยเกินไปอาจทำให้ดวงตาทำงานหนักขึ้น โทรศัพท์หลายรุ่นมีระบบปรับแสงอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้หน้าจอสว่างพอดีกับสภาพแวดล้อม แนะนำให้เปิดโหมดกลางคืน ( Night Mode ) หรือโหมดกรองแสงสีฟ้า ( Blue Light Filter ) เพื่อช่วยลดแสงสีฟ้าที่อาจส่งผลต่อดวงตาและรบกวนการนอนหลับ

3. ใช้แว่นกรองแสงสีฟ้า

หากจำเป็นต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน แว่นกรองแสงสีฟ้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ควรมีติดบ้าน เลนส์พิเศษของแว่นประเภทนี้จะช่วยกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอดิจิทัล ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ลดอาการแสบตา และปวดตาจากการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน

4. ติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้า

อีกวิธีที่ช่วยลดผลกระทบจากแสงสีฟ้าคือการติดฟิล์มกรองแสงบนหน้าจอโทรศัพท์ ฟิล์มประเภทนี้ช่วยลดแสงสะท้อนและกรองแสงสีฟ้าโดยตรง ทำให้ดวงตาไม่ต้องเผชิญกับแสงที่รุนแรงเกินไป ปัจจุบันมีฟิล์มกันรอยหลายรุ่นที่มีคุณสมบัติกรองแสงสีฟ้าในตัว ทำให้สามารถป้องกันหน้าจอและดูแลสุขภาพตาไปพร้อมกัน

5. หลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน

สุดท้ายคือการหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ก่อนเข้านอน อย่างน้อย 30-60 นาที เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะไปรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยให้นอนหลับ ทำให้คุณภาพการนอนแย่ลง แทนที่จะเล่นโทรศัพท์ ลองหากิจกรรมอื่นทดแทน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ หรือทำสมาธิ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย พร้อมเข้าสู่การนอนหลับที่มีคุณภาพมากขึ้น

สรุปบทความ

การปิดไฟเล่นโทรศัพท์อาจไม่ได้ส่งผลให้เกิดภาวะตาบอดหรือโรคตาอย่างจอประสาทตาเสื่อมโดยตรง แต่กระทบต่อสุขภาพตาและร่างกายในหลายด้าน ทั้งอาการตาล้า แสบตา ตาแห้ง ปวดศีรษะ ปวดคอ และปัญหาการนอนหลับ เพื่อป้องกันผลกระทบเหล่านี้ ควรเล่นโทรศัพท์ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม ใช้แว่นหรือฟิล์มกรองแสงสีฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ก่อนนอน

หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาจากการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ และนักทัศนมาตรด้านสายตาได้ที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เรามีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน

คำยืนยันจากผู้ใช้ แว่นตาโปรเกรสซีฟ อัจฉริยะไอซอพติก มากกว่า ท่าน คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200

LINE ID : @isoptik

เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com

whatsapp : +66 81-538-4200

อีเมล : isoptik@gmail.com