ใครที่มีปัญหาสายตาหลายระยะ มักต้องสลับแว่นไปมาให้วุ่น เลนส์โปรเกรสซีฟจึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ช่วยให้มองเห็นได้ชัดทุกระยะโดยไม่ต้องสลับแว่นตลอดเวลา แต่ก่อนจะตัดสินใจใช้ ควรทำความเข้าใจให้ครบทั้งข้อดีและข้อเสียของเลนส์ชนิดนี้ บทความนี้จึงสรุปเกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ ข้อเสีย ข้อดี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาตัวช่วยในการมองเห็นที่ดีที่สุด
ข้อเสียของเลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟ ข้อเสียมีอะไรบ้างที่ผู้ใช้ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
1. ราคาสูง
เลนส์โปรเกรสซีฟ ข้อเสียข้อแรก คือมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเลนส์ทั่วไป เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน เลนส์มีความละเอียด และการออกแบบเฉพาะบุคคลที่สามารถผลิตค่าสายตาได้ละเอียดกว่าเทคโนโลยีทั่วไป ถึง 25 เท่า จึงทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาสูง อย่างที่ ISOPTIK เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ราคาเริ่มต้นอยู่ที่คู่ละ 18,800 บาท
2. ใช้ระยะเวลาในการออกแบบ และผลิต
การออกแบบ และผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับสายตาต้องใช้เวลา เริ่มตั้งแต่การวัดสายตาอย่างละเอียด การคำนวณค่าสายตาในแต่ละระยะ ไปจนถึงการออกแบบและผลิตเลนส์ที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล ทำให้ไม่สามารถรับแว่นได้ทันทีเหมือนแว่นสายตาทั่วไป อย่างที่ ISOPTIK เราใช้เวลาในการออกแบบโครงสร้างเลนส์ และผลิต 3 สัปดาห์ เพื่อให้ได้โครงสร้างเลนส์และค่าสายตาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด
3. ความยากลำบากในการปรับตัว
เลนส์โปรเกรสซีฟ ข้อเสียที่บางคนพบ คือช่วงแรกของการใช้งานอาจมีความรู้สึกเวียนศีรษะ วิงเวียน หรือมองเห็นภาพบิดเบี้ยวบริเวณขอบเลนส์ เนื่องจากสมองต้องปรับตัวกับการมองผ่านเลนส์ที่มีค่าสายตาหลายระยะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อคุ้นชิน หรือสามารถปรับสายตาให้เข้ากับเลนส์ได้
ข้อดีของเลนส์โปรเกรสซีฟ
แม้จะมีข้อเสีย แต่เลนส์โปรเกรสซีฟก็มีข้อดีมากมายที่ทำให้หลายคนเลือกใช้
1. มองเห็นคมชัดทุกระยะ
จุดเด่นหลักของเลนส์โปรเกรสซีฟ คือสามารถในการมองเห็นได้ชัดเจนทุกระยะ ทั้งระยะไกล ระยะกลาง และระยะใกล้ในเลนส์เดียว ทำให้การมองวัตถุที่อยู่ในระดับความสูงต่างกัน เช่น การมองป้ายบนถนน แผงควบคุมในรถ และการอ่านหนังสือ สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในชีวิตประจำวัน
2. เป็นเลนส์ไร้รอยต่อ ไม่มีภาพกระโดด ( Image jump )
เลนส์โปรเกรสซีฟถูกออกแบบให้มีการเปลี่ยนค่าสายตาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ไม่มีรอยแบ่งเขตให้เห็นบนเลนส์เหมือนเลนส์ 2 ชั้น ( Bifocal Lenses ) ลดปัญหาภาพกระโดดเมื่อสายตาเคลื่อนผ่านรอยต่อของค่าสายตา ส่งผลให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติ สบายตา และสวยงามกว่า ไม่มีเส้นแบ่งให้เห็นบนเลนส์
3. ออกแบบเลนส์เฉพาะบุคคล
เลนส์โปรเกรสซีฟสมัยใหม่สามารถผลิตแบบเฉพาะบุคคลตามลักษณะการใช้งานและพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคน มีการวัดระยะห่างระหว่างดวงตา ค่าสายตา ตำแหน่งของดวงตา และตำแหน่งของกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาคำนวณและออกแบบเลนส์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน ทำให้ได้เลนส์ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
4. ไม่จำเป็นต้องพกแว่นหลายอัน
ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องพกพาแว่นหลายคู่สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แว่นสำหรับขับรถ แว่นสำหรับทำงานกับคอมพิวเตอร์ และแว่นสำหรับอ่านหนังสือ ลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนแว่นไปมา ลดโอกาสในการทำแว่นหาย และประหยัดพื้นที่ในการพกพา ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเมื่อเทียบกับการต้องซื้อแว่นหลายคู่
เลนส์โปรเกรสซีฟเหมาะกับใคร
เลนส์โปรเกรสซีฟเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 37 ปีขึ้นไป ซึ่งมักเริ่มมีอาการสายตายาวตามอายุ ( Presbyopia ) ร่วมกับปัญหาสายตาอื่น ๆ เช่น สายตาสั้นหรือสายตาเอียง ทำให้ต้องใช้แว่นหลายคู่สำหรับการมองในระยะต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ทำงานที่ต้องมองหลายระยะสลับกันบ่อย ๆ ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน และผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามโดยไม่ต้องการให้มีรอยแบ่งบนเลนส์ให้เห็น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ
1. เลนส์โปรเกรสซีฟมีอายุการใช้งานกี่ปี
เลนส์โปรเกรสซีฟมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายตาและการดูแลรักษา หากสายตาเปลี่ยนแปลงมากกว่า 0.50 ไดออปเตอร์ ควรเปลี่ยนเลนส์ใหม่ นอกจากนี้ หากเลนส์เกิดรอยขีดข่วนที่รบกวนการมองเห็น สารเคลือบเลนส์หลุดลอก ก็ควรเปลี่ยนเลนส์เช่นกัน ทั้งนี้การตรวจสายตาเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้ทราบว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนเลนส์หรือไม่
2. เลนส์โปรเกรสซีฟใส่ขับรถได้ไหม
เลนส์โปรเกรสซีฟสามารถใช้ขับรถได้ เนื่องจากส่วนบนของเลนส์ออกแบบมาสำหรับการมองระยะไกล ซึ่งเหมาะกับการมองป้ายบอกทาง ป้ายจราจร ส่วนกลางสำหรับการมองระยะกลาง เช่น มองวัตถุระห่าง 1 เมตร มองคอนโซลหน้ารถ และส่วนล่างสำหรับการมองระยะใกล้ เช่น ดู GPS ดู Google Maps บนโทรศัพท์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการปรับตัว ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากอาจยังไม่คุ้นเคยกับการมองผ่านส่วนต่าง ๆ ของเลนส์ ควรฝึกการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก่อนนำไปใช้ขับรถในสถานการณ์จริง
3. ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาสูง
เลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาสูงเนื่องจากหลายปัจจัย ได้แก่ เทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน ต้องใช้เครื่องที่ทันสมัยและแม่นยำสูง การออกแบบที่ต้องคำนวณค่าสายตาหลายระยะ เลนส์คุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิต รวมถึงกระบวนการวัดที่ต้องทำอย่างละเอียดและการปรับแต่งเฉพาะบุคคล ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่าเลนส์ทั่วไปมาก
สรุปบทความ
การเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟต้องชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีข้อเสีย ข้อเสียคือราคาสูง ใช้เวลาผลิต และอาจปรับตัวยากสำหรับบางราย ส่วนข้อดีคือมองเห็นชัดเจนทุกระยะ ไม่มีรอยต่อ ออกแบบมาเฉพาะ และใช้งานสะดวกในแว่นเดียว ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและทดลองเลนส์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้เลนส์ที่ตรงกับความต้องการ
ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เราให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นคุณภาพสูง มีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
คำยืนยันจากผู้ใช้ แว่นตาโปรเกรสซีฟ อัจฉริยะไอซอพติก มากกว่า ท่าน คลิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81-538-4200
อีเมล : isoptik@gmail.com