เขียนโดย นักทัศนมาตร
ตาเป็นอวัยวะที่เราใช้ทุกวันตลอดเวลา แต่บางทีเราก็ไม่ค่อยสังเกตว่าตาเราเริ่มมีปัญหา จนกว่าจะรุนแรงไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดูอะไรไม่ชัด ปวดหัวบ่อย ๆ หรือตาเมื่อยล้าหลังจากทำงาน อาการเหล่านี้อาจกำลังบอกว่าค่าสายตาเริ่มเปลี่ยนแล้ว การรู้เท่าทันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้ มาดูกันว่า ค่าสายตาเปลี่ยน อาการไหนบ้างที่ต้องระวัง
อาการเตือนภัยที่บ่งบอกค่าสายตาเปลี่ยน
1. มองเห็นไม่ชัดในระยะเดิมที่เคยเห็นได้
เมื่อค่าสายตาเปลี่ยน อาการนี้เป็นสัญญาณแรก ๆ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ถ้าเริ่มรู้สึกว่าต้องเพ่งตาตลอดเวลาจะอ่านป้าย หรือมองไกลไม่ชัดเท่าเมื่อก่อน ขับรถกลางคืนก็ไม่ค่อยมั่นใจ แสงไฟดูฟุ้ง ๆ แบบนี้อาจแปลว่า ค่าสายตาเปลี่ยน ดวงตาอาจไม่สามารถโฟกัสได้ดีเท่าเดิม ถึงเวลาที่ควรไปวัดสายตาและเปลี่ยนแว่นใหม่ให้ตรงกับค่าสายตาปัจจุบัน
2. ปวดหัวบ่อยขึ้น แม้ไม่ได้ใช้งานสายตาหนัก
ถ้ารู้สึกว่า ปวดหัวบ่อย ทั้งบริเวณหน้าผาก ขมับ หรือท้ายทอย โดยเฉพาะช่วงที่นั่งทำงานหรือใช้สายตานาน ๆ อาจเป็นเพราะดวงตาต้องเพ่งหนักขึ้นเพื่อพยายามปรับโฟกัสให้มองเห็นชัด ๆ ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาเกร็งจนปวดหัวตามมา ถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ควรรีบตรวจสายตา เพราะอาการเล็ก ๆ แบบนี้อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังได้
3. เห็นภาพซ้อน
บางคนอาจสังเกตว่า เวลาอ่านหนังสือแล้วตัวอักษรเหมือนซ้อนกัน หรือเห็นเป็นเงาจาง ๆ ข้าง ๆ ตัวหนังสือ มองจอคอมหรือทีวีก็ไม่สบายตา อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงปัญหาสายตาเอียง หรือดวงตาทั้งสองข้างทำงานไม่สัมพันธ์กัน ถ้าปล่อยไว้อาจกระทบกับการเรียนหรือการทำงาน ควรรีบไปเช็กสายตาให้แน่ชัด
4. มองในที่แสงจ้าแล้วแสบตา หรือพร่ามัว
เมื่อออกไปข้างนอกในวันแดดจัด เจอแสงแดดแรง ๆ หรือแสงไฟหน้ารถแล้วรู้สึกแสบตา ตาพร่ามัว มองอะไรไม่ค่อยชัด อาจไม่ได้เป็นแค่เพราะแสงจ้าเกินไป แต่เป็นเพราะดวงตาไวต่อแสงมากกว่าปกติ ซึ่งอาจมาจากค่าสายตาเปลี่ยน หรือปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับตาก็ได้ ถ้าเริ่มมีอาการแบบนี้บ่อย ควรตรวจสายตาไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ
5. เปลี่ยนระยะโฟกัสใกล้ไกลแล้วเวียนหัว
ถ้าเวลาเปลี่ยนจากการมองใกล้ เช่น มือถือหรือหนังสือ ไปมองไกล ๆ อย่างทีวีหรือถนน แล้วรู้สึกเวียนหัว ตาพร่า หรือต้องใช้เวลาปรับสายตานานกว่าจะมองชัด อาการนี้มักเกิดกับคนที่เริ่มมีสายตายาวตามวัย โดยเฉพาะวัย 37 ปีขึ้นไป เป็นเพราะเลนส์ตาเริ่มยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้โฟกัสระยะใกล้ไกลได้ไม่ดีเหมือนเดิม เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ไม่ควรละเลย
6. ต้องเพ่งตาในการมองระยะไกล หรือระยะใกล้
ถ้ารู้สึกว่าทำอะไรก็ต้องเพ่งตาตลอด ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ มองโทรศัพท์ หรือดูอะไรไกล ๆ จนรู้สึกเมื่อยล้า ต้องพักสายตาบ่อยกว่าที่เคย อาการแบบนี้มักเกิดจากค่าสายตาที่เปลี่ยนไป การเพ่งนาน ๆ ยังทำให้ตาแห้ง ปวดหัว และส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบไปตรวจสายตาก่อนจะกระทบกับสุขภาพในระยะยาว
สาเหตุที่ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนไป
-
พออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลัง 37 ปี ตาจะเริ่มเสื่อมตามธรรมชาติ และเริ่มมีปัญหาสายตายาวตามวัย
-
ใช้สายตากับมือถือหรือคอมนานเกินไปทุกวัน ดวงตาล้าโดยไม่รู้ตัว
-
พันธุกรรม บางคนพ่อแม่มีปัญหาสายตา ลูกก็มักมีตามไปด้วย
-
โรคประจำตัวอย่างเบาหวานหรือความดัน ก็ส่งผลกับสุขภาพตา
-
เคยเจออุบัติเหตุที่ศีรษะหรือดวงตา ก็ทำให้สายตาเปลี่ยนได้
-
ยาบางชนิดที่ทานเป็นประจำ อาจมีผลข้างเคียงต่อการมองเห็น
-
นอนน้อย เครียดมาก ก็ส่งผลให้สายตาเสื่อมเร็วขึ้นเหมือนกัน
ต้องทำอย่างไร เมื่อเริ่มรู้สึกว่าค่าสายตาเปลี่ยน
ถ้าเริ่มรู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม มองไม่ชัด ปวดหัวง่าย หรือมีอาการอื่น ๆ ที่เล่ามาข้างบน สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือไปตรวจสายตาให้ละเอียด เล่าให้หมอฟังว่าอาการเริ่มตั้งแต่เมื่อไร เป็นยังไงบ้าง เพื่อจะได้วัดค่าสายตาใหม่ให้ตรง และหาวิธีแก้ไขได้เร็ว
บางคนอาจต้องเปลี่ยนแว่น หรือปรับวิธีใช้สายตาในชีวิตประจำวัน เช่น พักสายตาบ่อยขึ้น นั่งทำงานในแสงที่พอเหมาะ หรือจำกัดเวลาหน้าจอ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าสายตาเปลี่ยน
1. ค่าสายตาจะเปลี่ยนทุก ๆ กี่ปี
เด็กและวัยรุ่นค่าสายตาเปลี่ยนทุกปี ส่วนผู้ใหญ่วัยกลางคนอาจเปลี่ยนทุก 2-3 ปี และผู้สูงอายุอาจเปลี่ยนบ่อยขึ้นเนื่องจากอวัยวะเริ่มเสื่อม ต้องตรวจบ่อยขึ้น ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การใช้งานสายตา โรคประจำตัว และพันธุกรรม ก็มีผลต่อความเร็วในการเปลี่ยนแปลงค่าสายตาด้วย
2. ใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตานาน ๆ จะเป็นอะไรไหม
ใส่แว่นผิดค่านาน ๆ ไม่ดีแน่นอน เพราะจะทำให้ตาล้า ปวดหัว มองไม่ชัด และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่าค่าสายตาเปลี่ยน รีบไปตรวจสายตาและเปลี่ยนแว่นให้ตรงค่าสายตา ชีวิตก็จะดีขึ้นเยอะเลย
สรุปบทความ
ถ้าเริ่มรู้สึกมองไม่ชัด ปวดหัวบ่อย หรือใช้สายตาแล้วรู้สึกล้า แปลว่าค่าสายตาอาจเปลี่ยนแล้ว อย่ารอให้อาการหนัก ตรวจสายตาให้ไว แล้วปรับแว่นใหม่ให้เหมาะ จะได้ใช้ชีวิตได้ชัดเจนขึ้นแบบไม่ปวดหัว ไม่ต้องเพ่งให้เมื่อยตาอีกต่อไป
หากคุณกำลังประสบปัญหาการมองเห็น ไม่ว่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง หรือสายตายาวตามอายุ สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ และนักทัศนมาตรด้านสายตาได้ที่ ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เราให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นคุณภาพสูง มีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
คำยืนยันจากผู้ใช้ แว่นตาโปรเกรสซีฟ อัจฉริยะไอซอพติก มากกว่า ท่าน คลิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81-538-4200
อีเมล : isoptik@gmail.com