โรคตาหลายชนิดมักเริ่มต้นแบบไม่มีอาการชัดเจน ทำให้หลายคนไม่ทันสังเกตจนกระทั่งโรคลุกลามจนรักษาได้ยาก การรู้จักสังเกตอาการผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันหรือชะลอการสูญเสียการมองเห็นที่อาจเกิดขึ้นได้ วันนี้เรามาเช็กกันว่า 6 โรคตาที่พบบ่อยในคนไทยมีอะไรบ้าง และอาการแบบไหนที่ไม่ควรมองข้าม!
6 โรคตามีโรคอะไรบ้าง
โรคตาที่พบบ่อยในคนไทยมีหลากหลายชนิด ทั้งที่เกิดจากความเสื่อมตามวัย พันธุกรรม หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต ยิ่งใช้งานดวงตาต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก อาจเสี่ยงต่อ 6 โรคดวงตาดังต่อไปนี้
1. ต้อกระจก
ต้อกระจกเป็นโรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เกิดจากการที่เลนส์แก้วตาซึ่งเดิมทีมีความใส เกิดการขุ่นมัวขึ้น ทำให้แสงไม่สามารถส่องผ่านไปยังจอประสาทตาได้อย่างเต็มที่ สาเหตุหลักของโรคนี้มาจากการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเลนส์ตา ทำให้เลนส์ตาค่อย ๆ ขุ่นและแข็งตัวขึ้น
อาการที่พบบ่อย
-
มองเห็นภาพไม่ชัด เหมือนมีฝ้าหรือหมอกบาง ๆ บังตา
-
ไม่มีการอักเสบหรือปวด
-
ตาไวต่อแสง แสงจ้าทำให้รู้สึกแสบตา โดยเฉพาะแสงไฟหน้ารถในเวลากลางคืน
-
มองเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
-
ต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อย ๆ เนื่องจากค่าสายตาเปลี่ยนแปลงเร็ว
-
มองเห็นภาพซ้อน
2. ต้อลมและต้อเนื้อ
ต้อลมและต้อเนื้อเป็นโรคตาที่เกิดจากการระคายเคืองเรื้อรังของเยื่อบุตาขาว มักเกิดจากการสัมผัสแสงแดด ลม ฝุ่น ควัน หรือมลภาวะเป็นเวลานาน โรคตาทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันคือ ต้อลมเป็นก้อนเนื้อนูนสีขาวที่เยื่อบุตาขาว แต่ไม่ลุกลามเข้าสู่กระจกตา ในขณะที่ต้อเนื้อเป็นเนื้อเยื่อที่งอกจากเยื่อบุตาขาวแล้วลุกลามเข้าไปในกระจกตาดำ
อาการของต้อลม
-
มีก้อนเนื้อนูนสีเหลืองหรือขาวบนตาขาวบริเวณหัวตาหรือหางตา
-
รู้สึกระคายเคือง แสบตา เหมือนมีฝุ่นเข้าตา
-
ตาแดง น้ำตาไหลเวลาสัมผัสลมหรือแสงแดด
-
อาการรุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือควัน
อาการของต้อเนื้อ
-
มีเนื้อเยื่อนูนยาวจากตาขาวลุกล้ำเข้าไปในกระจกตาดำ
-
ตาแดง ระคายเคือง น้ำตาไหล
-
รู้สึกเคืองตาตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่มีแสงจ้า
-
การมองเห็นอาจแย่ลงหากต้อเนื้อลุกลามจนบดบังกระจกตา
-
อาจทำให้เกิดสายตาเอียง
3. ตาบอดสี
ตาบอดสีเป็นโรคตาที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์รับแสงชนิดกรวย ( Cone cells ) ในจอประสาทตาที่ทำหน้าที่แยกแยะสี ส่วนใหญ่เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านโครโมโซม X ทำให้พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่บางรายอาจเกิดจากโรคของจอประสาทตา หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
อาการที่พบบ่อย
-
ไม่สามารถแยกแยะสีบางคู่ได้ เช่น สีแดงกับสีเขียว หรือสีน้ำเงินกับสีเหลือง
-
มีปัญหาในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้การแยกสี เช่น การเลือกเสื้อผ้า หรือการอ่านกราฟสี
-
บางรายอาจมองเห็นเป็นเฉดสีเทาทั้งหมด ( พบได้น้อยมาก )
4. จอประสาทตาเสื่อม
จอประสาทตาเสื่อมเป็นโรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เกิดจากการเสื่อมของจุดภาพชัดกลางจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นบริเวณจุดกลางภาพแย่ลง แต่ยังคงมองเห็นภาพรอบนอกได้ แบ่งเป็นชนิดแห้ง ( ค่อยเป็นค่อยไป ) และชนิดเปียก ( เกิดเร็วเนื่องจากมีเส้นเลือดงอกใหม่ผิดปกติ )
อาการที่พบบ่อย
-
มองตรงกลางภาพไม่ชัด
-
เห็นเป็นจุดดำบริเวณกลางภาพ
-
มองเห็นสีซีดจางลง ไม่สดใสเหมือนเดิม
-
มองเห็นภาพบิดเบี้ยว
5. สายตาสูงวัย หรือสายตายาวตามอายุ
สายตาสูงวัยหรือสายตายาวตามอายุ ( Presbyopia ) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในทุกคนเมื่ออายุมากขึ้น มักเริ่มสังเกตได้ชัดเมื่ออายุ 37 ปีขึ้นไป เกิดจากเลนส์ตาและกล้ามเนื้อตาเสื่อมความยืดหยุ่น ทำให้ความสามารถในการปรับโฟกัสเพื่อมองระยะใกล้ลดลง ผู้ที่มีสายตาปกติหรือสายตาสั้นก็สามารถเกิดภาวะนี้ได้
อาการที่พบบ่อย
-
อ่านหนังสือ หรือมองวัตถุระยะใกล้ไม่ชัด ต้องยืดแขนให้ไกลขึ้น
-
ปวดตา ปวดศีรษะ เมื่อต้องทำงานระยะใกล้นาน ๆ
-
ต้องหรี่ตาเวลาอ่านหนังสือหรือมองโทรศัพท์มือถือ
-
ทำงาน หรืออ่านหนังสือได้ไม่นานเท่าเดิม
6. วุ้นตาเสื่อม
วุ้นตาเสื่อมเป็นโรคตาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของวุ้นตา ซึ่งเป็นสารใสคล้ายเจลที่อยู่ภายในลูกตา เมื่ออายุมากขึ้น วุ้นตาจะมีความหนืดลดลงและหดตัว ทำให้หลุดออกจากจอประสาทตา บางครั้งอาจดึงจอประสาทตารุนแรงจนฉีกขาดและเกิดภาวะจอประสาทตาลอก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางตา ( Eye Emergencies ) ต้องรับให้การตรวจวินิจฉัย และรักษาเร่งด่วน
อาการที่พบบ่อย
-
มองเห็นหยากไย่ในตา หรือเห็นจุดดำลอยไปมาในลานสายตา
-
มองเห็นแสงวาบหรือแสงแฟลช โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่มืด
-
มองเห็นเงาดำคล้ายม่านบังรอบนอกลานสายตา
-
ในกรณีรุนแรงที่มีจอประสาทตาฉีกขาด จะทำให้จอประสาทตาลอก และส่วนที่ลอกจะเกิดการมองไม่เห็น
สรุปบทความ
โรคตาทั้ง 6 ชนิดที่กล่าวมาพบบ่อยในคนไทย การรู้จักสังเกตอาการผิดปกติและเข้ารับการตรวจตาเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้ตรวจพบโรคตาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ซึ่งจะช่วยป้องกันหรือชะลอการสูญเสียการมองเห็นที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ การพักสายตาเป็นระยะ การใส่แว่นให้เหมาะกับสายตา รวมทั้งการใช้สายตาในพื้นที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพตาและถนอมดวงตาให้อยู่กับเราไปนาน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาสูงวัย หรือสายตายาวตามอายุ สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ และนักทัศนมาตรด้านสายตาได้ที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เรามีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81-538-4200
อีเมล : isoptik@gmail.com