โดย แพทย์หญิง ณัฐธิดา นิ่มวรพันธุ์ ( จักษุแพทย์ที่ปรึกษาประจำศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก )
หมอมักได้รับคำถามเสมอ ๆ ว่า เราควรที่จะตรวจสุขภาพดวงตาเมื่อไหร่หรือบ่อยแค่ไหนดีคะ ซึ่งการที่เราจะตรวจตาเมื่อไหร่นั้นก็แบ่งได้ง่าย ๆ คือ
- เมื่อมีอาการผิดปกติ
- ไม่มีอาการผิดปกติ
ในข้อแรก คือ เมื่อมีอาการผิดปกติทางตาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เจ็บปวดตา ตาแดง ตามัว เห็นภาพซ้อน รวมไปถึงอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่เปลือกตา เช่น เปลือกตาบวมแดง หนังตาตก ก็ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรักษาค่ะ และถ้าไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เราควรตรวจตาเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับช่วงอายุค่ะ
- ในช่วง 3 - 5 ปี หรือกำลังจะเข้าอนุบาลนั้น ควรตรวจตาซักครั้งนะคะ เพื่อดูว่ามีสายตาผิดปกติ และตาเขหรือไม่ เนื่องจากทั้งสองอย่างนั้นสามารถทำให้เกิดตาขี้เกียจได้ค่ะ ซึ่งตาขี้เกียจหากพบในช่วงอายุนี้ยังสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ค่ะ
- ช่วงวัยปฐม - วัยมัธยม มักพบภาวะสายตาผิดปกติได้บ่อยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น ยาว หรือเอียง จะส่งผลทำให้มองกระดานไม่ชัด ประสิทธิ์ภาพในการเรียนไม่ดีเท่าที่ควร และสายตาที่ผิดปกติเหล่านี้มักจะเปลี่ยนแปลงเกือบทุกปี ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่ามองไม่ชัดเท่าเดิมก็ควรเข้ารับการตรวจ และแก้ไขให้ดีขึ้นค่ะ
- เมื่อเข้าสู้วัยทำงานจนถึงช่วงอายุ 40 ปี มักไม่มีโรคทางตาอะไร ตรวจตาซัก 2 - 3 ครั้งในช่วงอายุนี้ก็เพียงพอหากไม่มีอาการผิดปกติอะไรนะคะ
- เมื่ออายุ 40 - 65 ปี มักมีโรคที่เกิดจากความเสื่อมตามอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น สายตายาวตามอายุ ต้อกระจก ต้อหิน ดังนั้นควรตรวจตาอย่างน้อย 2 ปีครั้ง และหากอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปควรตรวจปีละ 1 ครั้งค่ะ
- และหากมีโรคทางกายบางโรคที่มักมีอาการทางตาร่วมด้วยได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ โรคแพ้ภูมิตัวเองหรือรับประทานยาบางชนิดที่มีผลกับตา เช่น คลอโรควิน etambutol เราควรตรวจตาเมื่อตรวจพบโรคหรือเริ่มรับประทานยาเหล่านี้อยู่นะคะ
เพื่อสุขภาพตาที่ดีของเรา อย่าลืมตรวจสุขภาพตากันนะคะ