โดย แพทย์หญิง ณัฐธิดา นิ่มวรพันธุ์ ( จักษุแพทย์ที่ปรึกษาประจำศูนย์แว่นโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ไอซอพติก )
เปลือกตาเป็นอวัยวะที่ช่วยในการป้องกันลูกตาจากแสงแดด ฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอม เปลือกตาเปิดขึ้นได้ด้วยการสั่งการของสมองผ่านเส้นประสาทคู่ที่ 3 ภาวะหนังตาตก (ptosis) เป็นภาวะที่เปลือกตาบนตกลงมาต่ำกว่าปกติ คือ ลงมาปิดบังตาดำมากกว่า 2 มิลลิเมตร ถ้าหากตกลงมาจนปิดรูม่านตาจะส่งผลต่อการมองเห็นได้

(จาก https://www.barraquer.com/en/news/treatments-eyelid-ptosis-babies )
สาเหตุของภาวะหนังตาตก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท เช่น
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia gravis, MG) เป็นโรคกลุ่มแพ้ภูมิตนเอง สามารถเกิดขึ้นได้กับกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย อาการสำคัญ คือ หนังตาตกจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างวัน มักมีอาการมากขึ้นช่วงเย็น และอาการจะดีขึ้นเมื่อได้พัก ในบางคนอาจมีเห็นภาพซ้อน หายใจลำบาก สำลักอาหาร ร่วมด้วย
- เส้นประสาทสมองคู่ที่ 3 อ่อนแรง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คือ การขาดเลือดที่มาเลี้ยงเส้นประสาทคู่ที่ 3 มีเนื้องอกกดทับบริเวณเส้นประสาท เส้นเลือดแดงโป่งพองไปกดทับเส้นประสาท หรือมีอุบัติเหตุทำให้เส้นประสาทมีการฉีกขาด
2. เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อ
เป็นแต่กำเนิด อาจมีสาเหตุจากกล้ามเนื้อที่หนังตาผิดปกติมาแต่กำเนิด ซึ่งหากเปลือกตาตกลงมาจนปิดรูม่านตา อาจทำให้เกิดโรคตาขี้เกียจ (Amblyopia) ดังนั้นหากสงสัยว่าเด็กมีภาวะหนังตาตกควรรีบมาพบจักษุแพทย์ เพื่อประเมินความรุนแรงว่าต้องได้รับการผ่าตัดหรือไม่
เกิดขึ้นภายหลัง เช่น
- ได้รับอุบัติเหตุบริเวณเปลือกตา
- เปลือกตาอักเสบ
- ขยี้ตาบ่อยหรือใส่คอนแทคเลนที่มีความโค้ง ไม่เหมาะสม จะส่งผลให้กล้ามเนื้อตายืดหรือได้รับบาดเจ็บได้
- อายุมากขึ้น การยึดเกาะของกล้ามเนื้อตาเสื่อมลงและหลุดจากที่ยึดเกาะได้
การรักษาภาวะหนังตาตก
จะเป็นการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหนังตาตก เช่น หากเกิดจากกล้ามเนื้อตาผิดปกติสามารถผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตา หากเกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (myasthenia gravis) สามารถบรรเทาอาการด้วยยาได้
จะเห็นได้ว่าภาวะหนังตาตกนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งที่อันตรายและไม่อันตราย ดังนั้นหากคุณสงสัยว่ามีภาวะหนังตาตก ควรพบจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาต่อไป