โดย แพทย์หญิง อรทัย สุวรรณพิมลกุล จักษุแพทย์
โรคขั้วประสาทตาขาดเลือดหรือ anterior ischemic optic neuropathy ( AION ) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคขั้วประสาทตาในผู้สูงอายุ แบ่งเป็น 2 ประเภท
- nonarteritic anterior ischemic optic neuropathy ; NAION
- arteritic anterior ischemic optic neuropathy ; AAION
สาเหตุที่ต้องแบ่งเนื่องจากประเภทที่สอง คือ AAION มีความสัมพันธ์กับโรคทางกายที่เรียกว่า giant cell arteritis ซึ่งเป็นโรคที่มีการอักเสบของเส้นเลือดที่อวัยวะอื่น ๆ ร่วมด้วยไม่เฉพาะที่ตาเท่านั้น และเป็นโรคที่ค่อนข้างอันตราย หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้
โรคขั้วประสาทตาขาดเลือดหรือในบทความนี้จะใช้คำว่า AION เป็นโรคที่ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างเฉียบพลัน ร่วมกับมีการบวม และซีดของขั้วประสาทตา ในระยะยาวขั้วประสาทตาจะมีการฝ่อลงได้
พยาธิสภาพ
ภาวะ AION เป็นผลของการขาดเลือดที่มาหล่อเลี้ยงขั้วประสาทตาด้านหน้า ทำให้เซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และตายลงในที่สุด
- ในกลุ่ม NAION พบได้บ่อยในคนขาวเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อชาติอื่น ในสหรัฐความชุกอยู่ที่ 2.3 - 10.3 ต่อประชากร 100,000 คน สำหรับคนเอเชียพบได้ประมาณ 3 % ของประชากร
- ส่วน AAION พบบ่อยในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ในคนเอเชียพบค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าพบได้อยู่เรื่อยเช่นกัน
- พบโรค AION ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยใน NAION อัตราส่วนอยู่ที่ 1.2 : 1 สำหรับ AAION หญิงต่อชายอยู่ที่ 2 : 1
- โรคนี้มักพบในผู้สูงอายุ โดย NAION มักพบในผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี ส่วน AAION มักมีอายุมากกว่า 50 ปี
ความสำคัญของโรค AION
- ในกลุ่มที่เป็น NAION มักจะไม่ค่อยสัมพันธ์กับโรคทางกายที่ร้ายแรงถึงชีวิต อย่างไรก็ตามพบว่ามีความสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคเส้นเลือดหัวใจขาดเลือด
- สำหรับกลุ่มที่เป็น AAION สัมพันธ์กับโรค giant cell arteritis ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งโรคนี้มีผลต่ออวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้ทั่วร่างกายไม่เฉพาะที่ตาเท่านั้น และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสองกลุ่ม พบว่ากลุ่มที่เป็น AAION ทำให้เกิดตาบอดสองข้างได้บ่อยกว่า NAION และภาวะตาบอดที่เกิดขึ้นมักจะเกิดได้พร้อมกันในตาทั้งสองข้างหากเป็นชนิด AAION
อาการ และอาการแสดง
- ผู้ป่วยมักมีอาการตามัวอย่างเฉียบพลัน แต่มักไม่มีอาการปวด ส่วนใหญ่มักจะตามัวหลังจากตื่นนอน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากความดันโลหิตที่ต่ำขณะนอนหลับ
- ในกลุ่มที่เป็น AAION มักมีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ปวดขมับ และเจ็บบริเวณเส้นเลือดที่ขมับ ( temporal arteries ) ปวดเมื่อยกรามเวลาเคี้ยวอาหารไปสักพัก อาจมีไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่วมด้วย
- ตรวจพบขั้วประสาทตาบวม ซีด ลานสายตาผิดปรกติ
- ในกลุ่มที่เป็น AAION เส้นเลือดที่ขมับ ( temporal arteries ) อาจจะนูนขึ้นและกดเจ็บ
แสดงภาพขั้วประสาทตาปรกติ
ขั้วประสาทตาขาดเลือด AION พบลักษณะขั้วประสาทตาบวม ซีด
ภาพ A เป็นขั้วประสาทตาที่ยังไม่เป็น AAION ; B ระยะเวลา 1 สัปดาห์หลังเกิด AAION ; C ที่เวลา 4 เดือน หลังจากเกิด AAION พบว่าขั้วประสาทตาไม่บวมแล้วแต่มีสีซีดลงเมื่อเทียบกับภาวะก่อนเกิดโรคในภาพ A การที่ขั้วประสาทตาสีซีดลงแสดงว่ามีการฝ่อของเซลล์ประสาทตาค่อนข้างมาก
ภาพแสดงเส้นเลือดขมับที่มีการนูน และกดเจ็บ พบได้ในผู้ที่เป็น Giant cell arteritis
สาเหตุ
- กลุ่ม NAION การขาดเลือดของขั้วประสาทตาเป็นผลจากการมีไขมันสะสมที่เส้นเลือด ( atherosclerosis ) เช่นเดียวกับโรคความดันโลหิตสูง
- AAION การขาดเลือดเกิดจากเส้นเลือดมีการอักเสบ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่เส้นเลือดเกิดการอักเสบขึ้นมา เชื่อว่าอาจเกิดจากภาวะพันธุกรรมบางอย่าง
การรักษา
การรักษาของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องทำร่วมกับแพทย์อายุรกรรม เนื่องจากภาวะ AION มักสัมพันธ์กับโรคทางกายดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น giant cell arteritis ต้องได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุดเพื่อลดโอกาสการเกิดตามัวในตาอีกข้าง และลดอัตราความพิการหรือตายจะเส้นเลือดที่มีการอักเสบที่อวัยวะส่วนอื่น
- ใน NAION ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจหาโรคความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน และควบคุมภาวะดังกล่าว
- AAION ซึ่งสัมพันธ์กับ giant cell arteritis การรักษาเป็นการให้ยาเพื่อลดการอักเสบของเส้นเลือด ซึ่งมักเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ ต้องให้เป็นระยะเวลานานเป็นปี และต้องมีการติดตามอาการเป็นระยะ ๆ ไม่เฉพาะอาการทางตา แต่รวมถึงอาการโรคในอวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วย
สิ่งที่ผู้ป่วยควรเข้าใจ คือ การรักษาภาวะ AION มิใช่รักษาเพื่อให้ตาข้างที่เป็นกลับมามองเห็น แต่ให้การรักษาเพื่อป้องกันหรือลดอัตราเสี่ยงของภาวะนี้ที่จะเกิดได้ในตาอีกข้างหนึ่ง และลดอัตราการตายจากโรค giant cell arteritis
ฉะนั้นผู้สูงอายุที่มีปัญหาตามัวเฉียบพลันควรได้รับการพบแพทย์โดยเร็วที่สุด และหากเกิดภาวะดังกล่าวการมาติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย