โดย แพทย์หญิง อรทัย สุวรรณพิมลกุล จักษุแพทย์
ภาวะฉุกเฉินทางตา
สารเคมีเข้าตาถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางตาที่ควรได้รับการรักษาเบื้องต้นโดยเร็วที่สุด แม้ว่าสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เกิดแค่อาการระคายเคือง แต่สารเคมีอีกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นกรดหรือด่างที่เข้มข้นอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อลูกตาของเราได้มาก และนำมาสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
โดยทั่วไปความรุนแรงของความเสียหายในลูกตาจากการสัมผัสสารเคมีขึ้นกับ ชนิดของสารเคมี ปริมาณ ความเข้มข้น ระยะเวลาที่สัมผัสสาร และความสามารถในการทะลุทะลวงของสารนั้นเข้าสู่ลูกตา อันตรายจากสารเคมีอาจมีความแตกต่างบ้างระหว่างสารที่เป็นกรด และสารที่เป็นด่าง
อัตราการเกิดภาวะสารเคมีเข้าตา
พบได้ประมาณ 10 % ของผู้ป่วยโรคตา โดยมากกว่า 60 % เกิดจากอุบัติเหตุจากการทำงาน และ 30 % เป็นอุบัติเหตุในบ้าน สำหรับอีก 10 % เกิดจากการทำร้ายร่างกายโดยเจตนา พบว่า 20 % ของผู้ป่วยที่โดนสารเคมีเข้าตามีปัญหาสูญเสียการมองเห็น และทำให้เกิดความผิดปรกติบนใบหน้า
ชนิดของสารเคมีที่พบได้
สารด่าง ได้แก่ สารจำพวก แอมโมเนีย โปแตสเซียมไฮดรอกไซด์ แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ ปูนขาว มักพบในปุ๋ยเคมี สารทำความสะอาดทั่วไป สารทำความสะอาดห้องน้ำ สารทำความสะอาดท่อ ปูนซีเมนต์ ดอกไม้ไฟ
สารกรด ได้แก่ สารจำพวกซัลฟูริค ไฮโดรฟูริค อะซิติดมักพบในแบตเตอรี่รถยนต์ สารขัดเงา น้ำส้มสายชู
อาการ และอาการแสดง
ผู้ป่วยควรให้ประวัติแก่แพทย์ในรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดสารที่เข้าตา ระยะเวลาที่เข้าตา การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการปวดตา เคืองตา ตาแดง สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหลรวมถึงตามัว แพทย์มักจะทำการล้างตาให้ในทันทีก่อนจะทำการตรวจตาอย่างละเอียด เนื่องจากหากเวลาที่สัมผัสสารยิ่งนานยิ่งก่อความเสียหายต่อลูกตาได้มาก
อาการที่พบได้มีตั้งแต่
- ผิวกระจกตาถลอก มีตั้งแต่เป็นจุดเล็ก ๆ จนกระทั่งทั่วตาดำ
- กระจกตาขุ่นขาว
- กระจกตาทะลุ
- ช่องหน้าลูกตาอักเสบ
- ความดันตาสูง
- แผลบริเวณรอบดวงตา
ภาพแสดงกระจกตาดำถลอก ( บริเวณสีเขียว )
ภาพแสดงกระจกตาขาวขุ่น
ภาพแสดงกระจกตาขาวขุ่น
ภาพแสดงช่องหน้าลูกตาอักเสบ
กรณีที่สารเคมีมีความรุนแรงในระยะยาวอาจทำให้กระจกขุ่นถาวร มีแผลเป็นที่ตาดำ ต้อกระจก มีแผลเป็นทั่วเยื่อบุตา และหนังตา รวมถึงลูกตาฝ่อ
ภาพแสดงภาวะแทรกซ้อนระยะยาว ซึ่งเกิดเป็นแผลเป็นที่เยื่อบุตา และกระจกตาดำมีการขาวขุ่น
การรักษา
การรักษาที่สำคัญที่สุด คือ การล้างตาโดยเร็วที่สุด หากเป็นไปได้ผู้ป่วยควรได้รับการล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากตั้งแต่สัมผัสสารเคมีโดยมิต้องรอจนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาล
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแพทย์ก็จะทำการล้างตาให้โดยทันทีจนกระทั่งความเป็นกรดด่างในตาหมดไป
การรักษาด้วยการใช้ยาขึ้นกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น แพทย์อาจให้ยาช่วยลดการอักเสบในตา ยาป้องกันการติดเชื้อ และยาที่ช่วยในการหายของแผลเปิดที่กระจกตา ยาลดความดันตา
การรักษาด้วยการผ่าตัด ประกอบด้วยการขูดเซลล์กระจกตาที่ตายแล้วออก และอาจมีการปลูกถ่ายเยื่อหุ้มรกเพื่อปิดแผลหรือลดการเกิดแผลเป็นตามเยื่อบุตา การปะกระจกตาที่ทะลุหรือการเปลี่ยนกระจกตา การปลูกถ่ายเซลล์กระจกตา ซึ่งการผ่าตัดชนิดใดขึ้นกับความรุนแรงจากการโดนสารเคมีที่เกิดขึ้น และแพทย์จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป