โดย แพทย์หญิง อรทัย สุวรรณพิมลกุล จักษุแพทย์
โรคเบาหวานซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้เกิดความผิดปรกติของอวัยวะต่าง ๆ ได้ทั่วร่างกาย เช่น ไต , หัวใจ , ระบบประสาท และตาด้วย โรคเบาหวานทำให้จอประสาทตามีความผิดปรกติ ซึ่งนิยมเรียกว่า เบาหวานขึ้นตา โรคนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดตาบอดในผู้สูงอายุ เนื่องจากปัจจุบันมีความก้าวหน้าในทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานอายุยืนยาวขึ้น อุบัติการณ์ของเบาหวานขึ้นตาจึงมีมากขึ้นตามไปด้วย การป้องกัน และการดูแลรักษาที่ดีสามารถลดอัตราการสูญเสียการมองเห็นจากโรคนี้ได้
ความผิดปรกติของจอประสาทตาในโรคเบาหวาน
เนื่องจากจอประสาทตาของเรามีเส้นเลือดขนาดเล็ก ๆ จำนวนมาก โรคเบาหวานทำให้ผนังของเส้นเลือดเหล่านี้มีความผิดปรกติ และไม่แข็งแรง ทำให้ผนังเส้นเลือดมีการโป่งพอง มีเลือดหรือของเหลวไหลซึมออกจากเส้นเลือดเข้ามีอยู่ในชั้นจอประสาทตา เส้นเลือดบางส่วนมีการหนาตัวของผนังผิดปรกติ ทำให้เส้นเลือดตีบตันมีการขาดเลือดของจอประสาทตาร่วมด้วย ซึ่งการตีบตันของเส้นเลือดในบริเวณกว้างจะทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการสร้างเส้นเลือดใหม่ แต่เส้นเลือดใหม่เหล่านี้มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ แต่กลับทำให้มีปัญหาต่อจอประสาทตามากขึ้น เนื่องจากเส้นเลือดเหล่านี้จะมีลักษณะที่เปราะฉีกขาด และแตกง่าย เป็นสาเหตุให้มีเลือดออกในวุ้นตา รวมถึงกระตุ้นให้มีการสร้างพังผืดดึงรั้งจอประสาทตาให้หลุดลอก ทำให้ผู้ป่วยตาบอดอย่างถาวรได้
ปัจจัยที่ทำให้เกิดเบาหวานขึ้นตา
- ความยาวนานของการเป็นโรคเบาหวาน พบว่าผู้ที่เป็นเบาหวานเป็นเวลานานยิ่งมีโอกาสในการเกิดเบาหวานขึ้นตามากขึ้น โดยทั่วไปเบาหวานที่เกิดในคนสูงอายุ เมื่อตรวจพบอาจไม่ได้หมายความว่าเพิ่งเริ่มเป็นซึ่งผู้ป่วยอาจเป็นมาระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่แสดงอาการชัดเจนจึงไม่ได้ไปพบแพทย์ ฉะนั้นจึงแนะนำว่าผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานควรได้รับการตรวจตาทุกรายเมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวาน
- การควบคุมระดับน้ำตาล หากสามารถควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้สูงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยชะลอการเกิดเบาหวานขึ้นตา และทำให้ความรุนแรงไม่มากด้ว
- การมีความผิดปรกติที่ไตจากเบาหวานร่วมด้วย ซึ่งผู้ที่มีปัญหาที่ไตแสดงว่าเส้นเลือดขนาดเล็กในร่างกายมีปัญหามาก พบว่ากลุ่มนี้มักมีเบาหวานขึ้นตาร่วมด้วย
- ความดันโลหิตสูง หากผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ดีร่วมด้วยก็มีโอกาสเกิดปัญหาที่จอประสาทตามากขึ้นได้ เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูงก็ทำให้เส้นเลือดในร่างกายผิดปรกติได้โดยตัวโรคอยู่แล้ว
- โรคไขมันในเลือดสูงพบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่มีไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย อาจทำให้มีไขมันรั่วออกจากเส้นเลือดที่ผิดปรกติได้มากกว่าผู้ที่ควบคุมไขมันให้ไม่สูง
- การตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้วตั้งครรภ์ในภายหลังมีโอกาสที่ทำให้จอตามีปัญหามากขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ได้ ฉะนั้นการควบคุมระดับน้ำตาลทั้งก่อน และระหว่างตั้งครรภ์จึงมีความสำคัญ
อาการ และอาการแสดง
เบาหวานขึ้นตาแบ่งได้กว้างเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก และระยะรุนแรง
โดยทั่วไปถ้าเป็นระยะแรกอาจไม่มีอาการผิดปรกติ อาการสำคัญที่ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ คือ ตามัวซึ่งเหตุของตามัวอาจเกิดจากจอประสาทตาบวม , มีเลือดออกในวุ้นตา และจอประสาทตาถูกดึงรั้งหลุดลอก
เบาหวานระยะแรก
ระยะแรกสิ่งที่ตรวจพบอาจพบเป็นจุดเล็กของเส้นเลือดที่โป่งพอง จุดเลือดออกเล็ก ๆ จอประสาทตาบวมซึ่งเกิดจากเลือดหรือของเหลวรั่วจากเส้นเลือด รวมถึงอาจเห็นเป็นไขมันที่รั่วออกจากเส้นเลือดมาสะสมในจอตา โดยทั่วไปถ้าอาการบวมหรือบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่ในตำแหน่งจุดรับภาพตรงกลางผู้ป่วยก็มักมีปัญหาตามัวได้ ถ้าเกิดแค่ที่บริเวณรอบนอกผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใด ๆ ได้
ภาพซ้าย แสดงจุดเลือดออกสีแดงและจุดที่มีไขมันรั่วเป็นสีเหลือง ๆ
ภาพขวา แสดงให้เห็นว่ามีไขมันรั่วและสะสมที่บริเวณจุดรับภาพตรงกลาง
เบาหวานระยะรุนแรง
ความผิดปรกติในระยะนี้สาเหตุหลักเกิดจากมีเส้นเลือดผิดปรกติงอกใหม่ในจอประสาทตาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งเส้นเลือดเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ได้แก่ เลือดออกในวุ้นตา , จอประสาทตาถูกดึงรั้ง และจอตาหลุดลอก
เปรียบเทียบการมองเห็นระหว่างภาพที่มองเห็นปรกติด้านซ้าย และภาพขวา คือ การมองเห็นในผู้ที่มีเลือดออกในวุ้นตาระดับปานกลาง
ภาพแสดงเลือดออกในวุ้นตา ทำให้เห็นจอประสาทตาไม่ชัดเจน
ภาพแสดงบริเวณที่มีเลือดออก และเส้นเลือดที่ผิดปรกติ จะมีลักษณะเป็นเส้นเลือดเล็ก ๆ หงิกงอเหมือนใยแมงมุม ภาพด้านขวาเห็นเส้นเลือดเหล่านี้จำนวนมาก
ทั้งสองภาพแสดงการที่เกิดพังผืดดึงรั้งจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาหลุดลอก
นอกจากเบาหวานจะทำให้เกิดความผิดปรกติที่จอประสาทตาแล้ว ยังมีโอกาสเป็นต้อกระจก ต้อหินมากกว่าคนทั่วไปด้วย
การรักษา
- ในระยะแรก แพทย์มักแนะนำให้ควบคุมโรคเบาหวาน งดสูบบุหรี่ และควบคุมโรคความดันโลหิตสูงให้ปรกติ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจตาอย่างสม่ำเสมอตามนัด
- การรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ ทำในกรณีที่จุดรับภาพส่วนกลางบวมและในผู้ที่มีเส้นเลือดผิดปรกติงอกใหม่
- ภาพซ้ายแสดงตำแหน่งของการยิงเลเซอร์ในผู้ที่จุดรับภาพส่วนกลางบวม
- ภาพขวาแสดงลักษณะการยิงเลเซอร์ในผู้ที่มีเส้นเลือดงอกผิดปรกติ
การรักษาด้วยการยิงเลเซอร์เป็นการยับยั้งมิให้เบาหวานขึ้นตามีความรุนแรงมากขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าทำให้จอประสาทตากลับมาเป็นเหมือนคนปรกติ หากไม่ได้รับการรักษาด้วยเลเซอร์เมื่อเส้นเลือดงอกใหม่ในจำนวนไม่มาก อาจนำไปสู่ระยะที่พังผืดดึงรั้ง จอตาหลุดลอกและมีเลือดออกในวุ้นตาดังกล่าวแล้ว